ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

เราจะเลือกคนที่ช่วยเหลือเราควรดูตรงไหนครับ
รายละเอียด
ลูกได้แต่งเพลงและเขียนมุขกาตูน เหมือนงานเขียนกาตูนของลูกไร้ค่าเพราะลูกวาดภาพไม่เป็นถ้าลูกวาดภาพสวยเค้าคงให้เงินลูกมากกว่านี้ เค้าตัดสินทีภาพวาดไม่ได้ดูว่ามันตลกลูกเลยได้เงินน้อยครับ เรื่องแต่งเพลงลุงของลูกเปนหมอดูชื่อดังและปรมาจารเพลงลูกทุ่งมีนักร้องชื่อดังไปขอคำปรึกษาท่านด้วยเงินจำนวนมากลูกคิดว่าเรารวยแน่ พอมาเช็คในอินเตอเน็ตลุงของลูกไม่มีอิทธิพลพอที่จะดันไครให้ดังได้ เพงก้อขายไม่ออก นักร้องหลายคนก้อเสียงไม่ดีไม่ได้ลบหลู่ท่านนะคับ คนที่รู้ทุกอย่างเรื่องเพลงทำไมถึงพลาดเอาคนเสียงไม่ดีมาร้องครับ
ความต้องการ
ถ้าลูกร่วมงานกับท่านกลัวว่าจะจนลงมีหนี้สินครับหลวงพ่อ น้องสาวของลูกอายุแค่23แต่งเพลงได้ดังกว่าท่านได้เงินมากกว่าท่าน เพื่อนลูกแต่งได้เงินแสน ระดับปรมาจารกลับไม่มีคนฟังครับ
ชื่อผู้ถาม
มูฟาซา
วันที่เขียน
3 กันยายน พ.ศ. 2561 02:16:58
จำนวนคนเข้าดู
710

คำตอบ

คำตอบที่ 1
ถ้าลูกร่วมงานกับท่านกลัวว่าจะจนลงมีหนี้สินครับหลวงพ่อ ตอบ ไม่ควรกังวลแบบนั้น เราจะทำงานกับใครที่ไหน อยู่ที่เรา ส่วนจะจนลงหรือรวยขึ้น มันมีหลายองค์ประกอบ ไม่ใช่ว่า แค่มาทำงานกับเขาแล้ว จนลง ถ้าเรากังวลแบบนี้ ก็ไม่ต้องไปทำงานร่วมกับเขา ก็ไปทำเอง --------- น้องสาวของลูกอายุแค่23แต่งเพลงได้ดังกว่าท่านได้เงินมากกว่าท่าน เพื่อนลูกแต่งได้เงินแสน ระดับปรมาจารกลับไม่มีคนฟังครับ ตอบ เราตัดสินความสำเร็จในเรื่องเพลงได้ยาก จะเอาความไพเราะ หรือเงินทอง บางทีมันก็ไปด้วยกันไม่ได้ มันเรื่องของใครมัน บางทีก็พูดยาก แต่เราไม่ควรไปคิดเปรียบเทียบอะไรแบบนี้ ยุคใคร สมัยใคร มันไม่เหมือนกัน ถ้าน้องเราเก่ง เพื่อนเราเก่ง ก็ให้ทำงานตรงนี้ให้ไปโลดเลย ไม่ต้องไปเปรียบเทียบ หรืออ้างกระทบกับใคร -------- คนที่รู้ทุกอย่างเรื่องเพลงทำไมถึงพลาดเอาคนเสียงไม่ดีมาร้อง ตอบ เรื่องของเขา ช่างเขาเถอะ ตัวเราต่างหาก ควรดูตัวเราเอง อยากทำอะไร ทำที่ไหน อย่างไร ต้องรีบทำเอง ไม่ต้องไปเสียเวลาวิจารณ์คนอื่นเขา เพราะเขาอายุมากแล้ว ไม่กี่ปี ก็คงจากไปแล้ว แต่เราล่ะ ? ------------ ชีวิตของเรา ไม่ว่าจะด้านดีหรือไม่ดี ก็เป็นบทเรียนให้คนอื่นได้ ชีวิตคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นด้านดีหรือด้านไม่ดี ก็เป็นบทเรียนให้เราได้ มันอยู่ที่ว่า เรารู้จักมองไหม เขาคนนั้นรู้จักมองไหม ตา มองให้เห็นจริง หู ฟังให้ได้ยินจริง ร่างกายสัมผัส ให้รู้จริง ๆ ธรรมะมีอยู่ทุกที่ ทุกลมหายใจเข้าออกของคนเรา ธรรมะ เป็นของฟรี ไม่ต้องซื้อ ขายให้กันไม่ได้ แค่เราใช้จิตของเราลงทุน ตั้งใจ ฝึกหัดและสร้างมันขึ้นมาในจิตของเรา คนอื่นยกธรรมะให้เราไม่ได้ ไม่มีใครสร้างธรรมะให้ใครได้ เราต้องฝึกเองทำเอง เหล่านี้คือธรรมะ สติ รู้ตัวจริงทุกขณะ ทุกอิริยาบถ สมาธิ ตั้งมั่นจริง ปัญญา รู้จริง วิริยะ ลุยทำจริง ขันติ อดทนได้จริง เมตตา รักชีวิตอื่นจริง กรุณา ช่วยเหลือชีวิตอื่นจริง มุทิตา ชื่นชมชีวิตอื่นจริง อุเบกขา ยึดหลักเที่ยงธรรมได้จริง แต่ละวัน ฝึกจิตตัวเอง ให้มั่นคง คล่องแคล่ว ว่องใจ แจ่มใสในธรรมะ ฝึกจิตให้เป็นอิสระ ไม่ให้จิตเป็นทาสของสิ่งเหล่านี้ " ความเหงา เศร้า ว้าเหว้ ซึม ท้อแท้ เสียใจ น้อยใจ เครียด แค้น เคือง จองเวร ผูกเวร คับแค้น โกรธ หงุดหงิด โมโห เก็บกด อิจฉา ริษยา เพ้อ ร้องไห้ คร่ำครวญ อยากตาย ไม่อยากอยู่ วิตก ฟุ้งซ่าน เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ มักมาก หลงติด เสพติด ยึดติด ถือตัว กระด้าง เกียจคร้าน มักง่าย ติดสบาย สำออย สำอาง" Print เอกสารนี้ แล้วอ่านทุกวัน ฝึกทุกวันทุกเช้าเย็น ทำต่อเนื่องไป 9 เดือนเป็นอย่างน้อย นี่คือวิธีการปรับเปลี่ยนระบบความคิดและพฤติกรรมของตนเอง ไปสู่ความก้าวหน้าและความสุขสูงสุดในชีวิต ดาวน์โหลด https://www.buddhisthotline.com/download/buddhisthotline-lifeway.pdf
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
3 กันยายน พ.ศ. 2561 07:21:58
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร