ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

ไม่มีมิตรที่จริงใจ
รายละเอียด
มีความรู้สึกว่าคนที่ทำงานไม่มีคนจริงใจด้วยเลยคะพอลับหลังเราก็นินทาเราบ่อยๆ บางครั้งไปไหนก็โกหกเพราะไม่อยากให้เราไปด้วยและก็รู้สึกว่าเขาพยายามให้คนรอบข้างไม่ชอบโยมไปด้วย มันเริ่มตั้งแต่โยม ถูกเลือกได้รับตำแหน่งหนึ่งในที่ทำงาน แทนที่จะเป็นเขา ก่อนที่จะรับตำแหน่งนี้ค่อนข้างสนิทกันเจ้าค่ะ แต่พอโยมเริ่มรับตำแหน่งก็รู้สึกได้ว่า เปลี่ยนไปจนวันหนึ่งมีเหตุบังเอิญ โยมวางโทรศัพท์ไว้ที่ห้องทำงานและมือถือเปิดอัดเสียงไว้ จึงรู้ว่าเขาเอาเราไปนินทา คำพูดรู้สึกได้คะว่าไม่ชอบเรา ว่าโยมหน้าบึง พอรู้เราก็พยามเปลี่ยนตนเอง เจอก็ยิ้มทักทายเขาก่อนเสมอ แต่ก็ยังรู้สึกได้ว่าจะทำยังไงเขาก็ไม่ชอบโยนอยู่ดีและชอบพูด เนบ หรือชอบหลอก ว่าโยมอยู่เรื่อยๆๆ โยมรู้สึกอึดอัดเพราะไม่มีเพื่อนที่ทำงานที่รู้สึกได้ว่าเป็นกัลยาณมิตรต่อกันเลย โยมเลยไม่รู้จะต้องทำตัวอย่างไรในที่ทำงาน เพราะสังคมในที่ทำงานมีแค่ 6 คนแยกออกมา จากหน่วยงานอื่นๆ ถ้าเราไม่มีเพื่อนที่ทำงานเลยเป็นคนแปลกเกินไปไหมเจ้าคะ ถ้าเรารู้ว่าไม่มีใครจริงใจกับเราเลย เรายังควรพยายามที่จะเป็นเพื่อนกับเขาอยู่ไหมคะ เพราะตอนนี้โยมรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว เพราะมีเหตุให้ต้องรู้ว่าเขาไม่จริงใจกับเรา แต่เวลาเขามาขอความช่วยเหลือ ก็ช่วยเขาตลอดนะคะ ตอนช่วยยอมรับคะ ว่าบ้างครั้งลึกๆๆเราก็อยากให้เขาตอบแทนด้วยความจริงใจบ้าง โยมควรปฏิบัติตัวอย่างไรดีคะ ถึงจะสามารถอยู่สภาพแวดล้อมแบบนี้ด้วยใจที่ไม่เป็นทุกข์
ความต้องการ
อยากขอคำปรึกษาแนวทางการใช้ชีวิตในสถานะการณ์แบบนี้ค่ะ นมัสการขอบพระคุณค่ะ
ชื่อผู้ถาม
จำปาลาว
วันที่เขียน
29 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 00:12:48
จำนวนคนเข้าดู
660

คำตอบ

คำตอบที่ 1
อดทนและอยู่ต่อไป เอาชนะคนที่ไม่จริงใจด้วยความจริงใจ เอาชนะคนที่ไม่หวังดีด้วยความหวังดี ไม่น้อยใจ ไม่มุ่งหวังอะไรจากเขา ทำหน้าที่เราให้สมบูรณ์แบบที่สุด อะไรจะเกิด มันก็จะเกิดไปเอง หมั่นตักบาตรตอนเช้า ๆ หมั่นสวดมนต์และแผ่เมตตาก่อนนอน นอนให้เพียงพอ หลับให้สนิท กินอยู่พอประมาณ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ------------ ชีวิตของเรา ไม่ว่าจะด้านดีหรือไม่ดี ก็เป็นบทเรียนให้คนอื่นได้ ชีวิตคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นด้านดีหรือด้านไม่ดี ก็เป็นบทเรียนให้เราได้ มันอยู่ที่ว่า เรารู้จักมองไหม เขาคนนั้นรู้จักมองไหม ตา มองให้เห็นจริง หู ฟังให้ได้ยินจริง ร่างกายสัมผัส ให้รู้จริง ๆ ธรรมะมีอยู่ทุกที่ ทุกลมหายใจเข้าออกของคนเรา ธรรมะ เป็นของฟรี ไม่ต้องซื้อ ขายให้กันไม่ได้ แค่เราใช้จิตของเราลงทุน ตั้งใจ ฝึกหัดและสร้างมันขึ้นมาในจิตของเรา คนอื่นยกธรรมะให้เราไม่ได้ ไม่มีใครสร้างธรรมะให้ใครได้ เราต้องฝึกเองทำเอง เหล่านี้คือธรรมะ สติ รู้ตัวจริงทุกขณะ ทุกอิริยาบถ สมาธิ ตั้งมั่นจริง ปัญญา รู้จริง วิริยะ ลุยทำจริง ขันติ อดทนได้จริง เมตตา รักชีวิตอื่นจริง กรุณา ช่วยเหลือชีวิตอื่นจริง มุทิตา ชื่นชมชีวิตอื่นจริง อุเบกขา ยึดหลักเที่ยงธรรมได้จริง แต่ละวัน ฝึกจิตตัวเอง ให้มั่นคง คล่องแคล่ว ว่องใจ แจ่มใสในธรรมะ ฝึกจิตให้เป็นอิสระ ไม่ให้จิตเป็นทาสของสิ่งเหล่านี้ " ความเหงา เศร้า ว้าเหว้ ซึม ท้อแท้ เสียใจ น้อยใจ เครียด แค้น เคือง จองเวร ผูกเวร คับแค้น โกรธ หงุดหงิด โมโห เก็บกด อิจฉา ริษยา เพ้อ ร้องไห้ คร่ำครวญ อยากตาย ไม่อยากอยู่ วิตก ฟุ้งซ่าน เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ มักมาก หลงติด เสพติด ยึดติด ถือตัว กระด้าง เกียจคร้าน มักง่าย ติดสบาย สำออย สำอาง" Print เอกสารนี้ แล้วอ่านทุกวัน ฝึกทุกวันทุกเช้าเย็น ทำต่อเนื่องไป 9 เดือนเป็นอย่างน้อย นี่คือวิธีการปรับเปลี่ยนระบบความคิดและพฤติกรรมของตนเอง ไปสู่ความก้าวหน้าและความสุขสูงสุดในชีวิต ดาวน์โหลด https://www.buddhisthotline.com/download/buddhisthotline-lifeway.pdf
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
29 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 10:25:15
คำตอบที่ 2
โยมจะพยายามมั่นฝึกตนเองตามที่อาจารย์แนะนำคะ นมัสการขอบพระคุณค่ะ
ชื่อผู้ตอบ
จำปาลาว
วันที่เขียน
29 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 12:15:38
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร