พ่อแม่ทะเลาะ ไม่ยอมคุยกัน น้องชายไม่สนใจครอบครัว
รายละเอียด
สวัสดีค่ะ ตัวน้องเองอายุ 26 ปีแล้วแต่เรียนอยู่เมืองนอก ทำให้ไม่ได้มีเวลาอยู่กับที่บ้านมากนัก แต่เวลามีปัญหาที่บ้านคุณแม่มักจะโทรมาเล่าเสมอๆ
ครอบครัวของน้องคุณพ่อกับคุณแม่ทะเลาะกันเป็นประจำมาตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้ว แต่ทะเลาะกับแปบเดียวก็หาย ที่บ้านไม่ค่อยแสดงความรักกันแบบหวานๆ จะมีก็นานๆทีคุณพ่อเดินกอดคุณแม่บ้าง แต่จะไปทานข้าวด้วยกันเป็นประจำทั้งครอบครัว คุณพ่อเป็นคนสูบบุหรี่แต่ไม่ดื่มเหล้า เป็นเบาหวาน ทางบ้านขอร้องให้คุณพ่อเลิกบุหรี่มาน่าจะมี เกือบ 20 ปีแต่คุณพ่อก็ไม่เคยเลิกได้เลย
น้องให้กำลังใจคุณพ่อเรื่องเลิกบุหรี่มาตลอด จนมาไม่กี่เดือนมานี้ คุณพ่อเบาหวานขึ้นตา สุขภาพร่างกายแย่ลงมาก ทำให้คุณพ่อสูบบุหรี่ไม่ค่อยไหว และเนื่องด้วยน้องชายหาวิธี จนทำให้คุณพ่อเลิกขาดได้ (ตามที่คุณพ่อบอกน้อง คุณพ่อชอบบอกว่าไม่ได้สูบแล้ว แต่คุณแม่ยังแอบจับได้จนทำให้คุณแม่และน้องชายไม่เชื่อเรื่องที่คุณพ่อเลิกบุหรี่ได้จริง ซึ่งน้องก็ตอบไม่ได้เพราะน้องอยู่เมืองนอก ได้แต่เชื่อตามที่คุณพ่อบอก) แต่ระหว่างนั้นคุณพ่อกับคุณแม่ก็ทะเลาะกันมาตลอด จะด้วยเรื่องคุณพ่อตาไม่ดี เวลากินนมหก แล้วไม่ได้เช็ดจนมดขึ้น เรื่องไม่ยอมเลิกบุหรี่จริงๆสักที หรือเรื่องจิปาถะในบ้าน ทุกวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่ไม่คุยกันมาเป็นเดือนๆแล้วค่ะ
คุณพ่อชอบคิดว่าที่บ้านไม่มีใครเป็นห่วงเค้า ทั้งๆที่น้องและคุณแม่ก็บอกให้ท่านเลิกดื่มน้ำอัดลม ชวนไปออกกำลังกาย คุณพ่อโมโหง่าย พูดจากวนประสาทเวลาทะเลาะกันซึ่งน้องคิดว่ามาจากอาการวัยทองและอาการของคนเลิกบุหรี่ แต่คุณแม่กับน้องชายไม่เข้าใจและจะบอกว่า เค้าทำตัวเองทั้งนั้น ให้เลิกบุหรี่มาตั้งนาน แล้วตอนนี้จะมาให้เข้าใจหรอ ต้องบอกว่าคุณแม่น้องเป็นคนค่อนข้างดื้อ หัวรั้น ไม่ค่อยฟังใคร (ดีที่หลังๆเริ่มรับฟังน้องบ้างแล้ว) จุกจิก ขี้บ่น น้องมองว่าคุณแม่บ่นคุณพ่อแบบเดียวกับที่บ่นกับลูกๆเลยค่ะเลยทำให้ทะเลาะกันบ่อยๆ น้องเคยพูดกับคุณแม่เรื่องนี้แล้ว แต่คุณแม่ก็จะบอกว่า ก็บอกคุณพ่อแบบดีๆ แล้วเค้าเคยทำมั้ยล่ะ ก็ต้องทำแบบนี้แหละ
น้องคุยกับคุณพ่อ คุณพ่อร้องไห้เหมือนเค้าไม่มีกำลังใจจะทำอะไรต่อ เค้ายอมรับว่าหลังๆมานี้อารมณ์เสียง่าย พาลคนอื่นบ่อยๆ คุณพ่อบอกว่าทุกคนเหมือนตำหนิเค้าตลอดเวลาด้วยเรื่องต่างๆ ทั้งๆที่เค้าต้องการกำลังใจ ไม่มีความสุขที่จะอยู่บ้าน ท่านบอกว่าเค้าพยายามทำทุกอย่าง ช่วยแบ่งเบาภาระในบ้านเท่าที่เค้าทำได้แล้ว แต่ไม่มีใครเห็น เอาแต่ตำหนิ ชวนทะเลาะ เค้าร่างกายอ่อนแอลงมาก ไม่มีใครเข้าใจ
ส่วนทางคุณแม่กับน้องชายก็บอกว่าพ่อเองเป็นคนผลักทุกคนให้ออกจากตัวเค้าเอง คุณแม่จะมองแต่ว่าก่อนหน้านี้เคยบอกให้ดูแลสุขภาพตัวเอง ให้เลิกบุหรี่ ไม่ยอมทำ ตอนนี้น้องมองว่าคุณแม่ไม่เข้าใจคุณพ่อค่ะ และไม่ยอมคิดว่าตอนนี้คุณพ่อเป็นแบบนี้แล้ว ควรจะมาช่วยกันตรงนี้ไม่ใช่ไปพูดเรื่องก่อนหน้านี้ คุณแม่ไม่ยอมคุยกับคุณพ่อค่ะ ท่านบอกว่าไม่สนใจแล้ว จะเป็นอะไรก็ช่าง อยากทำอะไรก็ทำ
น้องชายของน้อง เป็นคนที่ไม่สนิทกับคุณพ่อกับคุณแม่มากนักอยู่แล้วค่ะ ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาหนักมาก คือ น้องชายดูจะไม่เอาคุณพ่อคุณแม่เลย คือจะพูดแต่ว่า เป็นพ่อแม่แล้วยังไง ก็แค่ให้กำเนิด มีสิทธิอะไรมาทำแบบนี้ ซึ่งน้องชายเป็นคนประเภทเดียวกับคุณแม่ค่ะ คือหัวแข็ง และ ดื้อไม่ยอมฟังใคร หลังๆมานี้น้องชายก็ดีขึ้น แต่กลายเป็นว่ามาเกิดเรื่องนี้ น้องชายก็เลยบอกว่า ไม่สนแล้ว ไม่อยากยุ่ง อยู่บ้านก็ต่างคนต่างอยู่ไป ขนาดน้องถามว่าถ้าคุณพ่อน้อยใจแล้วอยากตาย จะไม่เสียใจหรอที่ทำแบบนี้ น้องชายก็ตอบว่าไม่เสียใจ
ความต้องการ
น้องอยากหาวิธีที่จะช่วยให้คุณพ่อ คุณแม่เข้าใจกันค่ะ
แล้วก็อยากให้น้องชายรู้จักบุญคุณของคุณพ่อ คุณแม่ ความกตัญญู ให้น้องชายเป็นคนกลางระหว่างคุณพ่อกับคุณแม่ในช่วงที่น้องเรียนอยู่เมืองนอกค่ะ
น้องเป็นห่วงที่บ้านมากๆ
ชื่อผู้ถาม
ศรัณยา
วันที่เขียน
28 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 14:39:13
จำนวนคนเข้าดู
669