การพนัน

รายละเอียด

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบเล่นการพนันฟุตบอล และ ชอบเที่ยวเตร่ เล่นแบบจิตใจจดจ่ออยู่กับการพนันตลอดเวลา ไม่สามารถคิดหรือทำอย่างอื่น มีความอยากเล่นที่ยากจะควบคุม เล่นแบบโดยไม่มีการยั้งคิด เวลาเล่นได้ก็เกิดความโลภอยากได้มากขึ้น เวลาเสียก็จะรู้สึกเสียดายมากอยากได้คืน ก็จะเล่นเพื่อแก้ตัว ในที่สุดก็ลงเอยด้วยการเสียพนัน เสียทั้งครอบครัว ทั้งการงาน ทรัพย์สิน และการพนันทุกวันนี้ การเข้าถึงได้ง่าย แค่กดโทรศัพท์ ช่วงนี้เป็นเทศกาลฟุตบอลโลก

ความต้องการ

ผมอยากเลิกกับสิ่งที่อบายมุข ต่าง ๆ แต่ผมไม่สามารถเลิกได้ ผมเคยปรึกษาทั้งจิตแพทย์ และการดำเนินชีวิตของผม ผมต้องทำอย่างไร ในการที่จะมีสติ และ การยั่งคิดยั่งทำ ให้มากกว่านี้

ชื่อผู้ถาม

korn

วันที่เขียน

22 มิถุนายน พ.ศ. 2561 15:04:54

จำนวนคนเข้าดู

997

คำตอบที่ 1

การเสพของมึนเมา การเล่นการพนัน การละเล่นเพลินกับหนังเพลง การติดสนุกกับเพศตรงข้าม และความเกียจคร้านทำการงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอบายมุข (แปลว่า ทางแห่งความฉิบหาย) ทุกอย่างในโลกนี้ อยู่ที่จิต จิตเป็นตัวชักนำให้เป็นไป หน้าที่ของเราคือฝึกจิต ฝึกให้มีศีลฝึกให้มีธรรม (แม้ว่าจะไม่ถูกใจเราก็ตาม แต่ต้องฝึก) ถ้าฝึกได้แล้ว เราก็จะเอาชนะมันได้ เราจะไม่เป็นทาสของอบายมุขใด ๆ การติดการพนันนั้น ชีวิตจะลำบากระยะยาว ยิ่งพอแก่ตัวขึ้น มองย้อนกลับไปในอดีตที่ผ่านมาของตัวเอง ก็จะพบแต่ความเศร้าเสียใจ รักษาทรัพย์สินอะไรไว้ไม่ได้เลย ไม่มีความภาคภูมิใจในทางที่ดีงามเลย คนที่จิตอ่อนแอ จะตกเป็นทาสอบายมุขเสมอ เพราะอบายมุข มันมักจะสนุก เร้าใจ ทำให้ตื่นเต้น หวาดเสียว มีลุ้น ได้ลุ้นตลอด เรื่องนี้ จิตแพทย์ ช่วยอะไรไม่ได้ แต่ธรรมะช่วยได้แน่นอน เริ่มได้ทันที คือศึกษาธรรมะ อ่านธรรมะ ฟังธรรมะ และลงมือปฏิบัติธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง เข้มงวดกับตัวเองแบบนี้ "วันไหน ไม่ได้ฟังธรรมะถึง 30 นาที จะไม่กินข้าว ไม่ยอมให้ข้าวให้อาหารเลย" ทำแบบนี้ไป 9 เดือน เราเอาชนะมันได้แน่นอน เลิกสนใจสิ่งที่ชอบ ไม่ตามใจตัวเอง แล้วรีบปิดเครื่องมือสื่อสาร ลาญาติ ลาครอบครัว ไปเริ่มต้นฝึกที่นี่ก่อนสัก 4-10 วัน https://www.watbhaddanta.com/ ไปอยู่วัดแบบคนที่ไม่มีอคติใด ๆ ไม่ต้องการอะไร แต่ไปเพื่อฝึกตัวเองเท่านั้น ไปเพื่อทรมานตัวเองจากความสนุกความเพลิดเพลิน ไปเพื่อขัดใจความอยากของตัวเอง ไปเพื่อไม่สนองความต้องการของตัวเอง ถ้าอยากเอาชนะมัน ต้องไป ต้องไม่มีเงื่อนไขหรือข้ออ้างใด ๆ ที่จะไม่ไปอยู่วัดฝึกจิตภาวนา ------------- ชีวิตของเรา ไม่ว่าจะด้านดีหรือไม่ดี ก็เป็นบทเรียนให้คนอื่นได้ ชีวิตคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นด้านดีหรือด้านไม่ดี ก็เป็นบทเรียนให้เราได้ มันอยู่ที่ว่า เรารู้จักมองไหม เขาคนนั้นรู้จักมองไหม ตา มองให้เห็นจริง หู ฟังให้ได้ยินจริง ร่างกายสัมผัส ให้รู้จริง ๆ ธรรมะมีอยู่ทุกที่ ทุกลมหายใจเข้าออกของคนเรา ธรรมะ เป็นของฟรี ไม่ต้องซื้อ ขายให้กันไม่ได้ แค่เราใช้จิตของเราลงทุน ตั้งใจ ฝึกหัดและสร้างมันขึ้นมาในจิตของเรา คนอื่นยกธรรมะให้เราไม่ได้ ไม่มีใครสร้างธรรมะให้ใครได้ เราต้องฝึกเองทำเอง เหล่านี้คือธรรมะ สติ รู้ตัวจริงทุกขณะ ทุกอิริยาบถ สมาธิ ตั้งมั่นจริง ปัญญา รู้จริง วิริยะ ลุยทำจริง ขันติ อดทนได้จริง เมตตา รักชีวิตอื่นจริง กรุณา ช่วยเหลือชีวิตอื่นจริง มุทิตา ชื่นชมชีวิตอื่นจริง อุเบกขา ยึดหลักเที่ยงธรรมได้จริง แต่ละวัน ฝึกจิตตัวเอง ให้มั่นคง คล่องแคล่ว ว่องใจ แจ่มใสในธรรมะ ฝึกจิตให้เป็นอิสระ ไม่ให้จิตเป็นทาสของสิ่งเหล่านี้ " ความเหงา เศร้า ว้าเหว้ ซึม ท้อแท้ เสียใจ น้อยใจ เครียด แค้น เคือง จองเวร ผูกเวร คับแค้น โกรธ หงุดหงิด โมโห เก็บกด อิจฉา ริษยา เพ้อ ร้องไห้ คร่ำครวญ อยากตาย ไม่อยากอยู่ วิตก ฟุ้งซ่าน เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ มักมาก หลงติด เสพติด ยึดติด ถือตัว กระด้าง เกียจคร้าน มักง่าย ติดสบาย สำออย สำอาง" Print เอกสารนี้ แล้วอ่านทุกวัน ฝึกทุกวันทุกเช้าเย็น ทำต่อเนื่องไป 9 เดือนเป็นอย่างน้อย นี่คือวิธีการปรับเปลี่ยนระบบความคิดและพฤติกรรมของตนเอง ไปสู่ความก้าวหน้าและความสุขสูงสุดในชีวิต ดาวน์โหลด https://www.buddhisthotline.com/download/buddhisthotline-lifeway.pdf

ชื่อผู้ตอบ

อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99

วันที่เขียน

22 มิถุนายน พ.ศ. 2561 15:26:07

คำตอบที่ 2

ฟังธรรมะซ้ำ ๆ ตามนี้ https://buddhisthotline.com/index.php?page=news7all และตามนี้ https://www.youtube.com/watch?v=bjgBAVS7MFk หรือตามนี้ https://www.sudassa.com/main.php

ชื่อผู้ตอบ

อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99

วันที่เขียน

22 มิถุนายน พ.ศ. 2561 15:27:20