ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

เกี่ยวกับลูกชายค่ะ
รายละเอียด
ตอนนี้เขากำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นค่ะและเขามีปัญหาด้านอารมณ์ด้วย เขาเป็นออทิสติคค่ะ จะควบคุม ความโกรธไม่ค่อยได้แล้วก็ไม่พูดไม่คุยกับใครแม้แต่ โยมซึ่งเป็นแม่ด้วย ตอนนี้ปัญหาก็คือเขาติดเพื่อนที่ คุยกันทางเฟชบุคอย่างมาก ยายของเขาบอกกับโยมว่าเดี้ยวนี้เขาโทรคุยกันพอทางนั้นบอกให้เขา ทำอะไรเขาก็ทำ พอยายเขาถามว่าคุยกับใครเขาก็ ไม่ยอมบอกยายเขาเลยบอกว่าจะยึดโทรศัพท์ ทีนี้เขาเก็บตัวอยู่แต่ในห้องและร้องไห้แบบที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน พอโยมรู้ก็ถามเขาๆบอกเขาจะตรอมใจ ตายถ้าไม่ได้คุยกับเพื่อนคนนี้โยมกลัวว่าเขาจะทำ จริงๆเพราะเมื่อก่อนตอนเขาโมโหเขาทำร้ายตัวเอง ทุกครั้งจะฆ่าตัวตายก็เคย โยมเลยเครียดค่ะไม่รู้ว่า จะจัดการอย่างไรลำพังตัวโยมเองก็มีปัญหาทั้งสุขภาพทั้งเรื่องแฟนแล้วนี่มาเรื่องลูกอีก ตอนนี้รู้สึก ท้อแล้วค่ะเหมือนมันประดังกันเข้ามาไม่รู้ว่าจะรับไป อีกได้นานแค่ไหน
ความต้องการ
ตอนนี้โยมขอแค่คำปรึกษาก็พอค่ะเพราะคุยกับใคร ก็ไม่ได้เลย ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยคิดแล้วยังทำเหมือนจะซ้ำเติมด้วย สุดท้ายนี้โยมขอรบกวนพระอาจารย์ด้วยเถอะค่ะ ทั้งขอระบายความทุกข์และขอคำปรึก ษา ข้อคิดดีๆไว้เตือนสติตัวเอง กลัวว่าจะคิดสั้นเหมือนกันค่ะ สุดท้ายนี้โยมขอขอบพระคุณพระอาจารย์และนมัสการกราบลาเลยค่ะ
ชื่อผู้ถาม
สุภาภรณ์ พรมยศ
วันที่เขียน
24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 23:17:19
จำนวนคนเข้าดู
1395

คำตอบ

คำตอบที่ 1
เขาเกิดมาน่าสงสาร จะด้วยเหตุใดก็ตาม เราต้องรักและเอาใจใส่เขาให้มาก นี่คือกุศลของเรา อย่าโกรธหรือโทสะใส่เขา
อย่าคิดว่า เขาคือตัวปัญหา อย่าคิดว่า เขาคือภาระ  ไม่มีใครอยากเกิดมาเป็นแบบนี้

1. ต้องใกล้ชิดเขาให้มาก ถ้าเราไม่อยู่ใกล้ เราก็ต้องมีพี่เลี้ยงคอยช่วยดูแลตลอดเวลา
2. หาครูสอนพิเศษที่จบมาทางการศึกษาพิเศษ มาช่วยด้วยจะดีมาก
3. หาโรงเรียนที่เน้นเปิดสอนด้านนี้โดยเฉพาะ ลองโทรไปตรงนี้  02 895 6944-5 แล้วถามหาเบอร์ ห้องเรียนบ้านต้นรัก ขอโอกาสคุยกับครูกลาง ถึงแนวทางดู 

อย่าท้อ อย่าอายที่ลูกไม่ปกติ ไม่เหมือนใคร
คนทุกคนมีศักยภาพ หากได้รักการดูแลการพัฒนาที่ดี เด็กคนนั้น เขาก็จะสามารถสร้างสรรค์สิ่งที่งดงามให้ตัวเองให้สังคมได้เสมอ หาวิธีฝึกเขาให้เขารับผิดชอบดูแลตัวเองให้ได้มากที่สุด เพราะเมื่อถึงวันที่ไม่มีพ่อแม่แล้ว เขาจะได้ไม่ลำบากมากเกินไป
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 10:21:17
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร