ดิฉันอยากจะให้แม่ได้ฟังคำบรรยายธรรมของพระอาจารย์บ้าง

รายละเอียด

เรื่องมีอยู่ว่าตั้งแต่เด็กที่ดิฉันจำความได้แม่เป็นคนที่ไปวัดน้อยครั้งมากและทุกครั้งที่ไปก็ไปดูดวงหรือดูโชดชะตาน้อยมากที่จะได้รับฟังคำบรรยายธรรมและแม่เป็นที่อ่านหนังสือไม่ค่อยได้ด้วยถ้าจะให้อ่านหนังสือธรรมก็อ่านไม่ค่อยได้ด้วยคงจะทำให้แม่มีจิตใจสงบและมีสติบ้างเพราะว่าตั้งแต่ดิฉันจำความได้แม่มักจะเล่าอดีตที่พี่สาวและพี่ชายเคยทำให้แม่ไม่สบายใจเรื่องมีอยู่ว่าตอนที่แม่แต่งงานกับพ่อตอนนั้นได้เดินทางไปหางานทำที่ต่างจังหวัดตอนนั้นแม่อายุ19ปีแต่ตอนนี้อายุ66ปีและต่อมาตากับยายก็ได้เสียชีวิตและได้ให้พี่เขยของแม่ดูแลมรดกแทนและต่อมามีการแบ่งมรดกแต่ปรากฎว่าแม่ไม่ได้อะไรสักอย่างและแม่เป็นลูกคนสุดท้องที่ไม่ได้เรียนหนังสือเหมือนพี่ๆได้แต่ทำนาช่วยตากับยายส่งเสียพี่ๆเรียนพี่ๆทุกคนได้รับราชการกันหมดทุกคนและได้รับมรดกกันทุกคนมีแม่คนเดียวที่ไม่ได้อะไรเลยสักอย่างแม้แต่ที่ดินที่ปลูกบ้านที่อาศัยอยู่ทุกวันนี้ที่จริงเรื่องมากกว่านี้อีกแต่ดิฉันแค่เล่าสั้นๆเรื่องก็มีอยู่ว่าตอนนี้ดิฉันแต่งานกับสามีต่างชาติและแม่ก็คิดแต่ว่าสามีต่างชาติมีเงินมากอยากได้อะไรก็ต้องได้ตามที่แม่ต้องการเพราะอดีดครอบครัวดิฉันเป็นครอบครัวที่สถานะยากจนและอดีตที่แม่ไม่เคยมีอะไรเหมือนพี่ๆสาวและพี่ชายมากรดดันดิฉันทุกครั้งที่โทรศัพท์กลับบ้านก็จะเล่าว่าญาติมีนั้นมีนี้ให้ดิฉันฟังดิฉันเบื่อมากๆแต่ดิฉันก็สงสารแม่เหมือนกันและดิฉันก็ทำทุกอย่างที่แม่เคยขอและที่แม่ต้องการแต่เรื่องมันมีอยู่ว่าแม่ไม่เคยพอสักอย่างดิฉันขอจบเล่าแค่นี้

ความต้องการ

อยากจะให้แม่ได้ฟังการบรรยาธรรมขอท่านอาจารย์บ้างเท่านั้นแต่ตอนนี้ดิฉันไม่ได้อาศัยอยู่ที่ประเทศไทยเพราะอยู่กับสามีที่ต่างปรเทศและปีนี้คงไม่ได้กลับไปที่เมืองไทยเพราะลูกชายอยู่บ้านเดี่ยวสามีไปทำงานที่ประเทศอื่นไม่มีคนอยู่เป็นเพื่อนลูก

ชื่อผู้ถาม

เพลินพิศ มาร์ซิญลี

วันที่เขียน

10 เมษายน พ.ศ. 2557 21:10:10

จำนวนคนเข้าดู

1172

คำตอบที่ 1

บางคนนั้น แค่ฟัง จะไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้
ต้องลงมือปฏิบัติ จริง ๆ แค่หายใจเข้าออก กำหนดรู้ตามลมหายใจเข้าออก ก็เป็นการปฏิบัติธรรมแล้ว
มันง่ายมาก แต่บางคนเขาไม่สนใจนั่นเอง
เขาเรียกว่า สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม คือ ทำอย่างไร ก็จะได้ผลอย่างนั้น
เลือกเอาเอง คนอื่นทำให้ไม่ได้

หาหนทางดู อย่าให้แม่มาสนใจติดยึดกับสิ่งของภายนอก อายุยิ่งมากแล้ว ยิ่งต้องละ ต้องวาง 
ทำบุญ สวดมนต์ แผ่เมตตา เจริญสติภาวนา จะทำให้จิตใจสะอาด งดงาม 
คนที่จิตใจสะอาด งดงาม เมื่อสิ้นชีพ ก็จะไปเกิดในสถานที่ดี ๆ 
ส่วนคนจิตใจเศร้าหมอง มีแต่โลภ อยากได้นั่นนี่ไม่จบสิ้น เมื่อสิ้นชีพ มักจะไปสถานที่เป็นอบาย คือไม่ไปนรก ก็ไปเกิดเป็นสัตว์ชั้นต่ำต่าง ๆ 

บอกแม่ให้ได้ว่า ชีวิตปัจจุบันสำคัญที่สุด เป็นจุดเปลี่ยนที่จะช่วยลบเลือนกรรมเก่า และเป็นการสร้างกรรมใหม่ ๆ ที่ดีได้

กรรมปัจจุบันนี้ สำคัญที่สุด ขอให้ทำให้ถูก ทำบุญให้เป็น ทำทานให้เป็น เจริญสติภาวนาให้เป็น ล้วนเป็นกุศลทั้งนั้น
การเจริญสติภาวนานั้น มีอานิสงส์มากกว่าทำทานด้วยซ้ำ และไม่ต้องเสียสตางค์ 
อยู่ที่ไหนก็ทำได้  ใครทำคนนั้นก็ได้ ใครไม่ทำ ก็คงช่วยไม่ได้ รอรับผลแล้วกัน

เงินไม่สามารถซื้อความกตัญญูได้
อย่าไปคิดว่า ให้เงินคือการแสดงความกตัญญู 
อย่าคิดว่า การสนองความต้องการทุกอย่างของพ่อแม่คือการกตัญญูรู้คุณ
นี่ไม่ได้หมายว่า จะไม่ให้เงินพ่อแม่ เราให้ตามกำลังความสามารถ แต่ถ้ารู้ว่า พ่อแม่เอาเงินไปทำอะไรแล้ว ถ้ามันนอกทาง การให้นั้นก็เหมือนสูญเปล่า เหมือนเทเงินลงถังขยะเท่านั้น

การทำให้พ่อแม่มีศีล มีธรรม มีปัญญา สนใจปฏิบัติธรรมนั่นแหละ คือลูกกตัญญูที่แท้
ลองพยายามทำดู  

ชื่อผู้ตอบ

อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99

วันที่เขียน

10 เมษายน พ.ศ. 2557 21:52:02