ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

คนมาวุ่นวายในบ้านเกินเหตุ
รายละเอียด
เรื่องมีดังนี้ค่ะ คนแถวบ้าน (ผู้ชาย) ชื่อว่า ก. เค้ามีแฟนสาวชื่อ น. ก. จะรู้จักกับที่บ้าน เพราะว่าที่บ้านเป็นร้านตัดผ้าต้องติดต่อกับผู้คนตลอด และ ก. ก็พาแฟนสาวคือ น. มาที่ร้าน และได้รู้จักกับพ่อแม่ของดิฉัน และต่อมาทุกวันเสาร์อาทิตย์ น.แฟนสาวของ ก. ก็จะมาที่ร้านตลอด เพราะ น.จะหยุดงาน วันเสาร์และอาทิตย์ ส่วน ก. ก็จะทำงานไม่เป็นเวลา แต่ส่วนมากเสาร์อาทิตย์ ก. จะทำงานมากกว่า เวลา น. มาหา ก. ทุกเสาร์อาทิตย์ทีไร ก็จะมาที่ร้าน และจะซื้ออาหาร ซื้อกับข้าวมาทำกิน ตอนแรก ๆ ก็นึกว่าไม่มีอะไร แต่ชักเอะใจว่าทำไมต้องมาทุกเสาร์ อาทิตย์ด้วย มานั่งหน้าร้าน ก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่นี่เข้ามายันในบ้าน บุกเข้าไปทำอาหารยันในครัว มาช่วยเลี้ยงลูกให้ดิฉัน (ดิฉันมีลูกอายุ 2 เดือน) บางครั้งดิฉันเก็บกวาดของอยู่ชั้นบน ก็ขึ้นไปข้างบนเลยค่ะ ดิฉันกับแม่ก็พูด ไม่ออก เค้าก็ดีอ่ะค่ะ ไม่มีพิษมีภัยอะไร มาช่วยเก็บกวาดบ้าน ล้างจาน เลี้ยงลูก ดิฉันก็เคยถามแม่ เหมือนกันว่าแม่รู้สึกอย่างไร แม่บอกว่า ไม่ค่อยจะชอบเท่าไหร่ที่มาล้ำเขตเกินไป ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็น ญาติโกโหติกาอะไรกันเลย เป็นแค่แฟนของเพื่อนบ้านเฉย ๆ แต่แม่บอกว่า ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ได้แต่ ทน ดิฉันเครียดค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดี มาขอคำปรึกษาค่ะ คืออยากจะมีความเป็นส่วนตัว และอยากพักผ่อน ภายในครอบครัวมากกว่าค่ะ
ความต้องการ
ต้องการคำปรึกษาค่ะ
ชื่อผู้ถาม
แก้มบุ๋ม
วันที่เขียน
18 มีนาคม พ.ศ. 2557 14:59:09
จำนวนคนเข้าดู
1316

คำตอบ

คำตอบที่ 1
ให้คิดเสียว่า เขาเป็นญาติคนหนึ่งของเราก็แล้วกัน
บางคนเขามีน้ำใจอยากช่วย ไม่อยู่เฉย ไม่ถือตัว จึงไม่ได้ถือเรื่องความเป็นส่วนตัวไปบ้าง

แต่ญาติของเราบางคนเสียอีก บางทีทำเหมือนเราไม่ใช่ญาติเลยก็มี
ดังนั้น พระท่านจึงว่า "ความสนิทสนม เป็นญาติอย่างยิ่ง ส่วนความห่างเหิน แม้ว่าจะสืบเชื้อสายเดียวกันมา ก็เหมือนไม่ใช่ญาติ"

อย่าเพิ่งรู้สึกรำคาญเขา ให้คอยดูเขาให้ดี ถ้าเขามีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่หวังมาเอาอะไรจากเราแล้ว
ควรคบหาและถือเป็นกัลยาณมิตรได้เช่นกัน

คนทำดีกับเรา เราก็ควรทำดีและมีเมตตากับเขาให้มาก อย่าไปแสดงอาการรังเกียจอะไรเขา
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
18 มีนาคม พ.ศ. 2557 19:18:55
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร