ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

เรื่องการดูดวง
รายละเอียด
กราบมนัสการพระอาจารย์ โยมมีคำถามจะขอถามพระอาจารย์ว่า ชีวิตของคนเราเป็นไปตามดวงจริงหรือไม่ โยมเห็นบางคนตั้งใจอ่านหนังสือแต่กลับสอบไม่ติดมหาวิทยาลัย ในขณะที่บางคนไม่ค่อยได้อ่าน เรียนๆเล่นๆกับสอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดัง อย่างโยมเองเรียนได้เกรดดี มีผลงานขณะเรียนเยอะ แต่กลับหางานยากกว่าเพื่อน ในขณะที่เพื่อนบางคนไม่ค่อยเข้าเรียน จะถือว่าเกเรก็ว่าได้ กลับได้ทำงานดี มีคนบอกโยมว่าเพราะดวงเค้าเปนเช่นนั้น โยมเองเคยดูดวงบ้างก็เห็นว่าแม่นจริงตามหมอดูบอก โยมเลยรู้สึกว่าบางทีดวงก็มีผลกับชีวิตของเราเหมือนกัน
ความต้องการ
ชีวิตของเราเป็นไปตามดวงจริงหรือไม่ ดวงมีผลกับชีวิตจริงหรือไม่
ชื่อผู้ถาม
ห้า หก เจ็ด
วันที่เขียน
12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 15:00:40
จำนวนคนเข้าดู
1734

คำตอบ

คำตอบที่ 1
ให้มองประเด็นของบาปบุญคุณโทษ กรรมเก่ากรรมใหม่ บุญเก่าบุญใหม่ ดีกว่า มนุษย์ทุกคนสั่งสมบุญและทำกรรมมา แต่ภพก่อนชาติก่อน ล้วนแตกต่างกัน กรรมบุญส่งผลแตกต่างกัน การจะประสบความสำเร็จทุกคนมีเป้าหมายเป็นของตัวเอง วิ่งกันคนละลู่ ผลที่ออกมาล้วนแตกต่างกันไป คนล้านคนในโลกมีทรัพย์มีบุญเก่าของตัวเองใส่ถุงมาใช้ในภพนี้ มีมาไม่เท่ากัน อย่าท้อถอย อย่าวอกแวกไปมองลู่วิ่งของคนอื่น สายตาที่แน่วแน่ไปทางจุดหมายของเราเอง แล้วมุ่งหน้าไปหามันอย่างแน่วแน่ อย่าน้อยใจ อย่าตัดพ้อชีวิต ถึงแม้บุญเก่าเราน้อยหรืออย่างไรก็แล้วแต่ เรามีสิทธิ์ที่จะมีชีวิต และมีความสุขของเราในเขตจำกัด ในรูปแบบของเราได้ เพียงแต่อยู่บนพื้นฐานของความดี ศีลธรรม มันก็เหมือนที่คนพูดว่า ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว แต่คนที่ท้อแท้ก็มักคิดว่า ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป แล้วก็เริ่มประชดชีวิต ประชดสิ่งที่สมมติขึ้นมาว่ามามากำหนดชีวิตของตน แต่ที่จริงแล้ว คนที่กำหนดเรื่องราวทั้งหมด ก็คือตัวเราเองนั่นแหละ ตัวเราที่โลดแล่นอยู่ในชาตินี้ และตัวเราเองที่ได้ลงมือกระทำดีีชั่วในภพก่อนๆมานับไม่ถ้วน ทุกอย่างล้วนมีเหตุมีผล เปลี่ยนจากเชือหมอดู เป็นเชื่อมั่นในตัวเองดีกว่า ใครจะสำเร็จอย่างไรช่างเค้า เรามีความสำเร็จในรูปแบบของเรารออยู่ ชีวิตมนุษย์ตั้งอยู่บนความเพียร ตั้งเป้าหมายให้เป็น ให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง โลกไม่ได้วัดคนที่เกีรตินิยมเสมอไป อย่าทำจิตใจให้ร้อนรุ่มหม่นหมองด้วยการกดดันตัวเอง ทำใจสบายๆ อย่าไปเปรียบเทียบกับใคร
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 299
วันที่เขียน
12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 22:00:08
คำตอบที่ 2
ขึ้นชื่อว่าชาวพุทธแล้วจะไม่เสียเวลากับเรื่องดวง เรืองโชคลาภ เรืองวาสนานี้เลย เพราะไม่ใช่ที่พึ่งที่ประเสริฐ ทำให้ติดนิสัยรอคอย งอมืองอเท้า ติดการอ้อนวอน โน้มใจไปทางติดสินบน และยอมจำนน ทำให้ไม่เป็นอิสระ ไม่โต พระพุทธศาสนาสอนให้ไม่ไปเสียเวลากับเรื่องดวง โชคลาภ วาสนา แต่สอนให้คนสนใจทำกรรมดี ละกรรมชั่ว ทำเหตุทำปัจจัยให้ดีที่สุด แล้วผลก็จะออกมาเองไม่ว่าจะกรรมดีหรือกรรมไม่ดี แล้วทำไม พระบางรูปยังดูดวงให้โยม เพราะพระรูปนั้นไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ไม่เคารพพระพุทธเจ้า จึงทำแบบนั้นถือว่าเป็นการเลี้ยงชีพในทางไม่ชอบ แล้วทำไม บางคนชอบไปดูดวงกับพระ เพราะคนนั้นยังไม่รู้จริง ยังอ่อนแอ ไม่ศรัทธาพระพุทธเจ้าจริง จึงไปสนับสนุนพระทำกิจที่ไม่ใช่เรื่องของพระแบบนั้น แล้วทำไม จึงมีสำนักดูดวงเยอะแยะมากมายในประเทศ เพราะไม่มีใครสามารถไปห้ามคนประกอบอาชีพแบบนั้นได้ เป็นความเชื่อความศรัธาส่วนตัวของแต่ละคน แต่ไม่ใช่เรื่องของพระพุทธศาสนา การนับถือผี การเชื่อดวงชะตา เป็นความเชื่อที่ฝังลึกมายาวนานก่อนพระพุทธศาสนาด้วยซ้ำ มันเลิกไม่ง่าย ทำไงจึงจะห่างจากเรื่องดวง โชคชะตา ได้ เราต้องมีความศรัทธาในพระปัญญาของพระพุทธเจ้า มีความมั่นใจในการกระทำ เชื่อในเรื่องของการกระทำและผลของการกระทำที่เราทำ จะทำให้เรามั่นใจในบุญบาปและไม่ไปเสียเวลากับดวงอีกเลย ทุกสิ่งอย่างแห่งความสำเร็จเป็นเรื่องการกระทำของเราเอง บางอย่างสำเร็จเร็ว บางอย่างสำเร็จช้า มีเหตุปัจจัยประกอบหลายอย่าง การได้ การมี การเป็น การรวย หลายต่อหลายกรณี ไม่ได้ถูกศีลถูกธรรมก็มี ทำสิ่งที่ผิดกฎหมายผิดศีลธรรมก็รวยได้ มีได้ เป็นได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกและไม่ควรไปตื้นเต้นอะไรกับการมี การเป็น หรือการรวยของใคร ๆ จงมุ่งเน้นว่า ใครทำกรรมเช่นใด ย่อมได้รับผลกรรมเช่นนั้นดีกว่า อย่ามุ่งเน้นการรวย การมี การเป็นอย่างที่ใจตัวเองต้องการเลย
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 10:16:50
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร