ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

หนี้สิน และชีวิตคู่
รายละเอียด
มีแฟนคนที่ 2 แล้วค่ะ ฉันมีลูกติดมา 2 คนแต่เอาคนเล็กมาอยู่ด้วย ปัญหามีอยู่ว่าแฟนทำเหมือนไม่ชอบลูกเรา ซึ่งก่อนหน้านี้เขาบอกว่ารับได้ทุกอย่าง แต่การกระทำไม่ใช่เลยไม่ว่าลูกจะถูกหรือผิดเขาจะต่อว่าตลอด จนลูกหนูตอนนี้เหมือนเด็กมีปัญหา มีอาการซึมทุกครั้งที่แฟนกลับมาจากที่ทำงาน ลูกไม่กล้าแม้กระทั้งการที่จะกิน จะเข้ามากอดแม่ก็ไม่กล้า ส่วนเรื่องหนี้สินเขาจะพูดเสมอว่าไม่ให้เราเดือดร้อนแต่ตอนนี้หนูเป็นหนี้ธนาคาร หนี้บัตเคดิตตอนนี้ไม่สามารถติดต่ธุระการเงินที่ไหนได้เลย เป็นคนมีประวัตไม่ดีเกี่ยวกับสินเชื้อไปแล้ว ซึ่งหนี้สินเกิดขึ้นเพราะเขาทั้นั้น ไม่พอหนูยังไปเอาเงินพ่อมาใช้เกือบแสนแล่ว หนูคิดว่าหนูเป็นคนบาบมากเลย
ความต้องการ
อยากได้คำแนะนำและกำลังใจค่ะ
ชื่อผู้ถาม
อาย
วันที่เขียน
25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 08:31:02
จำนวนคนเข้าดู
1438

คำตอบ

คำตอบที่ 1
ทุกคนก็มีทั้งบุญและบาปผสมกันทั้งนั้นแหละ อย่าไปมองตัวเองในแง่ร้ายเกินไป ให้ฝึกจิตใจให้มั่นคง

1. เรื่องสามี เรื่องทัศนคติ ความรู้สึกของสามีกับลูกเรา อันนี้ อาจเป็นอย่างที่คุณว่ามาจริง ๆ เพราะอะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปได้ เมื่อก่อนเคยรัก เคยเอ็นดู ยอมรับได้ แต่นานวันเข้า ก็ไม่ใช่ แต่เราจะทำอย่างไรได้ เมื่อมาถึงวันนี้แล้ว ก็คงต้องคุยกับแฟนคุณตรง ๆ ว่า อย่างไรก็ให้สงสารเด็ก บอกสอนด้วยความนุ่มนวลได้ เด็กทุกคนนั้น น่ารักเสมอ แต่เด็กจะเปลี่ยนแปลงไปในทางไม่ดี ถ้าสภาพแวดล้อม (ทั้งคนและสังคม) สร้างแรงกดดันมากไป หรือไม่ดูจังหวะเวลาให้เหมาะสม เด็กทุกคนต้องการคำชม คำยกย่อง ต้องการการเคารพนับถือในความคิดอ่าน การใช้น้ำเย็นลูบ ค่อย ๆ บอกสอนจะได้ผลดีกว่า การใช้ไม้แข็งฟาดกระหน่ำให้สะใจของผู้ใหญ่

ในขณะเดียวกัน ก็บอกลูกเราว่า ให้ฝึกปรับปรุงตัวเอง ให้ช่วยเหลือตัวเองให้มาก อย่าเอาแต่ใจตัวเองนัก เพราะ (พ่อ) ใหม่นี้อย่างไรเสีย ก็ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ เขาอาจไม่อดทนกับเราได้เหมือนพ่อแท้ ๆ ซึ่งก็ไม่แน่เสมอไป บางคนนั้นดียิ่งกว่าพ่อแท้ ๆ ก็มี และบอกลูกให้เคารพพ่อใหม่นี้ ขอบคุณเขาที่ช่วยดูแลเราตลอดมา

ถ้าทุกคนเข้าใจกัน แม้ว่าจะไม่ใช่พ่อลูกกันแท้ ๆ อะไร ๆ มันก็เป็นไปในทางที่ดีได้

2. เรื่องหนี้สิน ควรช่วยกันหาช่องทางทำงานใหม่ ๆ หารายได้ใหม่ ๆ อะไรก็ตามที่ไม่ผิดศีล ไม่ผิดธรรม ไม่ผิดกฎหมาย ให้ลุยทำเลย หนักก็ทำ ให้รับผิดชอบ อย่าอายใครในเรื่องการทำมาหากิน ทำไม่เป็นก็ฝึกหัดเรียนรู้ ฝึกให้ชำนาญ ให้มีทักษะ ก็จะสามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้ตัวเองได้ อย่าหวังรอแต่เงินเดือนอย่างเดียว

อนาคต อะไรก็ไม่แน่นอน เราอาจเจ็บป่วยล้มนอน เดินไม่ได้ก็ได้ ดังนั้น ช่วงที่ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงอยู่นี้ ให้รีบเรียนรู้ รีบสร้าง รีบทำ อย่าติดความสะดวกสบาย

หรือบางทีก็แฟนคุณคนนี้ เขาเบื่อหน่ายคุณและลูก เกิดเขาไปมีคนใหม่ คุณก็จะเดือดร้อนหนักอีก ดังนั้น จงรีบหาอาชีพ สร้างอาชีพติดตัวไว้ ฝึกทำธุรกิจของตัวเองให้ได้ เริ่มต้นจากน้อย ๆ ค่อย ๆ ก่อตัวไปให้มั่นคง ก็จะเจริญก้าวหน้าได้

หนี้ ให้หาเงินมาใช้เขา ให้พูดคุยกับเจ้าหนี้ด้วยความสุภาพนอบน้อม อย่าแข็ง อย่าถือตัว เขาก็เป็นเจ้าหนี้ เป็นเจ้าของเงินที่เราไปเอาของเขามา เขามาตาม มาทวงเงินที่เขาควรจะได้จากเรา ก็อย่าไปโกรธหรือแค้นเคืองเขา

ถ้าเราขยัน หมั่นมองหาวิธีทำงานใหม่ ๆ ไม่ท้อแท้ ไม่สิ้นหวัง ไม่ทะเลาะกัน ไม่นานก็จะพ้นหนี้ได้

3. เราเป็นแม่ ต้องรักลูกเรา และดูแลลูกเราให้ดีที่สุด ให้ความรักให้ความอบอุ่น บอกสอนเขาให้มั่นใจ ให้ช่วยเหลือให้ฝึกทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้ อย่าให้เขาอ่อนแอ ทำอะไรไม่เป็น ทั้งคนที่อยู่ด้วยและลูกที่ไม่อยู่ด้วย คนที่ไม่อยู่ด้วย ก็ควรไปพบเขาบ่อย ๆ อย่าให้ห่างมาก การกอด การสัมผัสลูกด้วยความรัก จะทำให้เด็กมีความสุข รู้สึกปลอดภัยและมั่นใจ แม้ว่าเราจะไม่มีเงินทองให้ลูก แต่การกอดก็ยิ่งใหญ่กว่าอะไรแล้ว มันจะมีพลังให้เด็กมีกำลังใจดี

ระวังหน่อย ถ้ามีลูกใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก ในขณะที่ยังไม่พร้อมหลาย ๆ อย่าง มีหนี้สินมากมาย อาจจะเครียดหนักเข้าไปอีก ควรควบคุมไว้ก่อน อย่าเพิ่งมีเพิ่มในจังหวะเวลาแบบนี้

4. ตัวคุณเอง อาจต้องดูตัวเองให้ดี ทั้งสุขภาพร่างกาย ผิวพรรณ หน้าตา น้ำหนักฯลฯ แม้ว่าจะอายุมากขนาดไหน ก็ต้องดูแลตัวเอง อย่าปล่อยเลยตามเลย

5. การฝึกสวดมนต์ ฝึกแผ่เมตตาทุก ๆ วัน จะช่วยได้มาก  ฝึกเจริญสติภาวนา จะช่วยได้มาก ทำให้เราใจสงบ เยือกเย็น มั่นคง และมีพลังในการทำงานคิดอ่านแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ ฝึกอ่าน ฝึกฟัง ฝึกปฏิบัติตามนี้บ่อย ๆ  และให้ต่อเนื่องไป จะช่วยได้มาก
ตามนี้ http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143

6. ทุกชีวิตล้วนมีปัญหาทั้งนั้น ไม่ใช่แค่เรา แต่ทุกคนก็ต้องพยายามแก้ไขไปตามสติกำลัง เราอาจทำผิดทำพลาดอะไรมาบ้าง นั่นก็เป็นอดีต อย่าไปติดใจมันแล้วไม่กล้าสร้างสรรค์สิ่งดีงามใหม่ ๆ ให้ตัวเอง อดีตคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีที่เราเคยทำมา มันจบไปแล้ว ปัจจุบันในแต่ละวันจึงสำคัญที่สุด ถ้าเราทำปัจจุบันดี อนาคตจะต้องดีแน่นอน ส่วนสิ่งไม่ดีในอดีตที่เราเคยทำไว้ ถ้ามันจะให้ผลแก่เราในปัจจุบันนี้หรือในอนาคตต่อไป เราก็ต้องยอมรับมันแล้วก็คิดอ่านแก้ไขไป

เช่น หนี้ ที่คุณไปก่อไว้ในอดีต (5-10 ปีก่อน) มันให้ผลในปัจจุบันคือ ต้องหาใช้ หาคืนเขา เราก็อย่าไปโอดครวญว่า ทำไมชีวิตเป็นอย่างนี้ ทำไมมีแต่หนี้สิน ทำไม ๆๆๆ ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะคุณและสามีคุณพากันก่อขึ้นมาเอง อย่าไปโทษใคร

ต่อไป ก็ไม่ต้องพากันสร้างหนี้อีก ไม่ต้องไปยืมใครอีก กินเท่าที่มี ใช้เท่าที่มี ไม่มีก็อดไปก่อน เพราะชีวิตไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบหรอก มีขาดแคลนบ้างเป็นเรื่องธรรมดา

ถ้าเขาจะไปยืมใคร ไปกู้ใคร ต้องคุยกันก่อน ต้องเห็นชอบร่วมกันก่อน เพราะเป็นสามีภรรยากัน ต้องรับรู้ร่วมกัน และรับผิดชอบด้วยกัน

อย่าโทษตัวเองว่า มีแต่บาปกรรม จงคิดตรงกันข้ามบ้างว่า เรายังทำบุญหรือกุศลกรรมน้อยอยู่ ต้องพยายามทำต่อไป

อย่าติดแต่อดีต อย่าจมกับบาปเก่า พยายามสร้างงาน หารายได้ใหม่ ๆ  หมั่นสร้างบุญสร้างกุศลต่อไป ไม่นานก็จะพ้นหนี้และมีความสุข หายใจหายคอโล่งกับคนอื่นเขาได้เช่นกัน

บุญกุศลนั้น เราทำได้ทุกเวลา คือรักษาศีล 5 ให้มั่นคงนั่นเอง  การซื่อตรงกับคนอื่น การพูดจาสุภาพอ่อนหวานกับคนอื่นนั่นเอง อย่าไปคิดแต่ว่า ทำบุญต้องใช้เงินทองเพียงอย่างเดียว การฝึกเจริญสติภาวนาให้ตนเองมีสติรู้เข้าใจทุกอย่างตามความเป็นจริง  นี่ยิ่งเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ต้องใช้เงินเลยสักบาทเดียว

7. ชวนลูก ชวนสามี ไปถือศีลปฏิบัติธรรมที่วัด 3-7 วัน ก็จะดีมาก อย่าอายใครที่ไปวัด อย่าสนใจคำพูดคำนินทาของใครที่เราไปอยู่วัด จัดสรรเวลาให้ได้ ละวางงานการให้ได้ แล้วก็ชวนกันไปเลย ศุกร์-อาทิตย์ ก็ยังดี ยิ่งไปบ่อยยิ่งดีกับเราและครอบครัว

แนะนำตรงนี้  http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews3&newsid=186

หรือตรงนี้ http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews3&newsid=195

หรือตรงนี้ http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews3&newsid=150
ชื่อผู้ตอบ
สายด่วนชาวพุทธ
วันที่เขียน
25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 10:29:46
คำตอบที่ 2
ดูปัญหาของคนอื่น ๆ ประกอบ เพื่อเป็นแนวทางแก้ปัญหาของเรา

ดูตรงนี้
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmansweradmin&qusid=1880

และตรงนี้
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmansweradmin&qusid=1754

และตรงนี้
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmansweradmin&qusid=1751
ชื่อผู้ตอบ
สายด่วนชาวพุทธ
วันที่เขียน
25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 10:33:28
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร