มนุษย์เรานั้น จะหาความพอดีลงตัวไปทุกอย่าง บางทีก็ยาก ไม่มีจริง มันต้องมีขาด ๆ บ้าง พร่อง ๆ บ้างเสมอ
อาชีพคอมพิวเตอร์นั้น เป็นอาชีพอนาคต คือจบแล้ว มีโอกาสทางการทำเงินได้มาก แม้ว่าเราจะไม่ชอบ แต่ถ้ามันทำเงินให้เรา ทำให้เรามีโอกาสเก็บเงินได้ ซื้อบ้านได้ ซื้อรถได้ (ถ้าอยากได้) หนูก็ควรพึงพอใจมัน
บางครั้ง สิ่งที่เราไม่ชอบนั่นแหละ ทำให้เรามีอยู่มีกิน และสิ่งที่เราชอบนั่นแหละ อาจทำให้เราอดอยาก
ไม่มีอะไรดีที่สุดหรอก ถ้ารอสิ่งที่เราชอบที่สุด อาจไม่มีวันนั้นเลยก็ได้
ยายก็อายุมากแล้ว ไม่รู้จะอยู่กับเราได้อีกนานเท่าไหร่
อย่าคิดมากไปเลย เร่งศึกษาค้นคว้าสิ่งที่เราเรียนนี้ให้มากที่สุด ฝึกทักษะคอมพิวเตอร์ให้ชำนาญที่สุด เก่งที่สุด ไม่ชอบก็ลุยให้ผ่านไป ให้เก่ง อีกปีเดียวเองจะจบแล้ว อดทนให้มาก มั่นคง นิ่ง เรียนให้จบ ดีกว่าไปเริ่มต้นใหม่ เสียเวลาเสียโอกาส ไม่ว่าเรียนอะไร สุดท้ายก็ต้องวิ่งหางานหาเงินอยู่ดี เราจะไปหมดวันเวลาไปเปล่า ๆ ทำไม มุ่งเรียนคอมพิวเตอร์นี้ต่อไปให้จบ แล้วลองไปทำงานคอมพ์ดูก่อนสักระยะ แล้วค่อยเรียนต่อ ป.ตรีก็ได้
ฝึกใจตัวเองใหัมั่นคง ไม่วอกแวก ไม่โลเล ไม่ต้องไปวิ่งตามเพื่อน เรื่องดนตรี ศิลปะ เสียงเพลง นั้น ถ้าเราชอบจริง ๆ เราก็ทำเป็นอดิเรกก็ได้ (ถ้ามีเวลา และต้องบริหารเวลาให้เป็น)
วันหน้า หนูจะรู้เองว่า คอมพิวเตอร์ ก็สร้างงานศิลปะได้มากมาย สร้างดนตรีได้มากมาย มันอยู่ที่หนูจะประยุกต์ไปอย่างไร ไม่ใช่ว่า ต้องธุรกิจอย่างเดียว
ฝึกตั้งเป้าหมายชีวิตให้ตัวเอง เช่น ก่อนอายุ 30 ปี เราจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองให้ได้, ซื้อรถเป็นของตัวเอง, ก่อนอายุ 35 ปี จะมีเงินเก็บในธนาคาร 5-10 ล้าน แบบนี้ ฝึกทำ ฝึกคิด หาขอ้มูลให้เป็น กินอยู่ให้พอเหมาะ อย่าหลงเพื่อน หลงการสนุก จะเสียเวลาและโอกาส
ฝึกฟังและฝึกปฏิบัติตามนี้ ตั้งใจฟัง รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ฟัง ฟังทุก ๆ วัน ต่อเนื่องไป 9 เดือน จะเห็นผล
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143
18 เมษายน พ.ศ. 2558 23:57:10