ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

ปัญหาแม่เป็นหนี้เยอะ
รายละเอียด
ตอนนี้หนูกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 มหาลัยทางภาคอีสานค่ะ ตอนนี้ประสบปัญหาหาทางออกของชีวิตไม่ได้ ไม่รู้จะเดินต่อไปยัง มันเหมือนไม่รู้จะอยู่ไปทำไม เหมือนนอนอยู่กับปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อ หนูไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงกับเรื่องที่เกิด ทางบ้านของหนูเป็นครอบครัวฐานะยากจนค่ะ แค่ก็พยายามขวนไขวหาเงินเรียน หนูทำทุกอย่างให้ไม่ต้องเดือดร้อนทางบ้าน ขอทุน ทำงานพาสไทม์ สอนพิเศษ ทำทุกอย่างค่ะ พ่อแม่หนูไม่เคยได้ส่งเงินมาให้หนูใช้เลย มีแต่จะมาขอหนู บางทีหนูมีหนูก็ให้ค่ะ แต่บางทีหนูไม่มี หนูก็อดสงสารตัวเองไม่ได้ที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ และตอนนี้พี่ชายหนูได้ไปบวชที่วัดแห่งหนึ่ง หลวงพี่จะมาเล่าให้ฟังตลอดว่าแม่จะเข้าไปยืมเงินพระที่วัด โดยอ้างว่าจะเอาเงินมาให้หนูไปฝึกงานที่เมืองนอก หนูจะไปฝึกงานที่เมืองนอกจริงค่ะ แต่เงินทุกบาทนั้นเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตหนูเป็นเงินทุึนการศึกษาของหนู หนูเคยขอแม่ไปสี่พัน แต่แม่ก็ให้มาแค่พันห้า หนูก็คิดว่าแม่คงไม่มีไม่เป็นไร แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้นค่ะ แม่เอาเรื่องที่หนูจะเมืองนอกไปหลอกยืมเงิน ซึ่งตอนนี้นี้ก็ไม่รู้ว่าหนี้มันเท่าไหร่แล้ว อีกอย่างที่รู้มาคือแม่ไปยืมเงินรายวันค่ะ ต้องส่งดอกเยอะมาก ตายายหนูก็คิดหนัก พี่ชายยิ่งหนักใหญ่ มีเรื่องไปหาที่วัดทุกวัน ส่วนพ่อหนูก็ติดเหล้าค่ะตอนนี้ทั้งพ่อกับแม่ไม่มีงานทำ หลอกลวงเงินชาวบ้านไปวันๆ ล่าสุดหลังจากที่พี่ชายเรียนจบและกำลังจะรอเกณฑ์ทหารเพื่อจะไปสมัครงานได้ง่ายขึ้น เอารถมอร์เตอร์ไซค์กลับมาใช้อยู่บ้านแม่ก็เอาไปขาย เพื่อนพี่ชายที่แม่รู้จักแม่ก็ไปยืมเงินเขาหมด แม้แต่พี่สาวเพื่อนแม่ก็ยืม ตอนนี้หนูเหนื่อยหนูไม่อยากรับรู้ปัญหา หนูไม่เคยทำให้พ่อแม่เป็นภาระ แต่หนูไม่เข้าใจแม่หนูทำไมถึงทำแบบนี้ หนูเหนื่อย ทุกครั้งที่ได้รู้ปัญหาหนูไม่มีแรงจะเดินต่อไป หนูอยากหยุด บางครั้งหนูก็อยากเกลียดพ่อแม่ แต่ท่านก็เคยลี้ยงดูหนูมา หนูต้องทำอย่างไรคะ ยายหนูก็ไม่สบายคิดหนัก ไม่กิน ไม่ทำอะไร ได้แต่นอน แล้วหฯุคิดว่าอีกไม่นานทรัพย์ที่ตากับยายสั่งสมมาทั้งชีวิต คงจะหมดเพราะขนาดแหวนทองที่ถอดไว้ในกระเป๋าเงินยังโดนขโมย ต่อไปพวกหนูคงไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอน ทำไมโชคชะตาถึงทำร้ายหนูได้ขนาดนี้คะ ทั้งๆที่ชีวิตนี้หนูทำดีมาตลอด หนูไม่เคยทำให้ครอบครัวเสียใจ แต่ทำไมหนูต้องมาเสียใจให้ครอบครัวมากมายขนาดนี้ด้วย
ความต้องการ
หนูแค่อยากรู้ว่าแนวทางชีวิตหนูจะไปทางไหนดี หนูไม่อยากให้แม่หนีหนี้รายวัน ไม่อยากให้แม่หรือใครๆหนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย หนูกลัวว่าสักวันนึงทางออกนี้จะมาอยู่ที่หนู หนูกลัว หนูบาป หนูไม่อยากเกลียดแม่ หนูสงสารแม่ มีทางออกให้หนูไหมคะ
ชื่อผู้ถาม
ชีวิตที่พบทางตัน
วันที่เขียน
16 มีนาคม พ.ศ. 2558 22:11:49
จำนวนคนเข้าดู
1695

คำตอบ

คำตอบที่ 1
1. รีบไปบอกแม่ว่า หนูมีเงินไปนอกแล้ว แม่ไม่ต้องไปยืมใครอีก อย่าไปโกหกใครอีก ไม่งั้นทุกคนจะทุกข์และลำบาก เพราะแม่ไปทำแบบนี้  ตกลงแม่หนูเขาเอาเงินไปทำอะไร ?

2. รีบเรียน ตั้งใจไปฝึกงานแล้วหางานทำ  อย่าเอาเรื่องหนี้สินของแม่มารวมกับเรา แม่ก่อเรื่อง แม่ก็ต้องหาทางแก้ไปก่อน เมื่อเรายังช่วยอะไรไม่ได้มาก ก็ปล่อยไปก่อน การที่เราไม่ช่วยไม่ได้หมายถึงเราอกตัญญู แต่เพราะเรายังไม่พร้อมแค่นั้นเอง ไม่ใช่ความผิดของเรา ใครจะว่าจะนินทาอะไร ปล่อยเขาไป อย่าไปถือสา เพราะเรารู้เรื่องดีที่สุดกว่าใคร

3. หนูต้องแยกแยะ แม่ก็คือแม่ เราก็คือเรา แม่ทำอะไร นั่นเป็นเรื่องแม่ แม่ทุกข์ นั่นก็แม่ทุกข์ไม่ใช่เราทุกข์ ส่วนยายคงทำใจแล้ว ปลอบใจยายบ้าง ให้กำลังใจยาย

4. ไปคุยกับแม่และจดให้ละเอียดว่า แม่ไปยืมใครมาบ้าง เท่าไหร่ ดอกเท่าไหร่ ค้างคืนเท่าไหร่ ลงวันที่ไว้ให้แน่นอน ไม่งั้นแม่จะไม่รู้ จะลืมว่าไปยืมใครมาบ้าง เดี๋ยวเวลามีคนมาทวงจะโกรธและทะเลาะกันอีก

5. เรื่องพ่อติดเหล้า อาจต้องทำใจปล่อยวาง คนที่ห้ามตัวเองไม่ได้ ไม่มีใครไปห้ามเขาได้หรอก อันนี้แหละเขาเรียกกว่า กรรม คือการกระทำ ทำอย่างใดก็ได้ผลอย่างนั้น

เราไม่ด่าพ่อแม่ แต่เราสามารถพูดบอกคุยตรง ๆ กับพ่อแม่ได้ อะไรถูกอะไรผิด อะไรควรไม่ควร เราพูดบอกได้ ไม่ต้องไปเกรงใจกัน

ชีวิตคนเรา ไม่มีอะไรสมบูรณ์สมหวังตลอดหรอก ดังนั้น ไม่ว่าจะเจอเรื่องราวเลวร้ายเพียงใด ขอให้เข้มแข็งและอดทนไว้ บางอย่างมันสุดแขนสุดกำลังเรา เราก็ไม่ต้องไปดิ้น ก็ปล่อยไป ทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ อย่าทิ้งเรียน เพราะมาไกลขนาดนี้แล้ว

อย่าไปคิดว่า การหมดลมหายใจจะแก้ปัญหาได้
การเป็นหนี้ แค่เป็นหนี้ ไม่ต้องไปอายใคร แม่เราเป็นหนี้ เราก็ไม่ต้องไปอายใคร แค่เป็นหนี้ ไม่ได้ไปฆ่าหรือไปทำลายใคร นั่นน่าอายมากกว่า การเป็นหนี้แล้วใช้คืน ก็จบกันไป ไม่มีอะไรติดค้างกัน

มองไปที่อนาคตของตัวเองก่อน อย่าเอาเรื่องทางครอบครัวแค่นี้มาทำให้หดหู่ ท้อแท้ ไม่ก้าวเดินไปข้างหน้า
ไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากตัวเรา อนาคตของเราอยู่ที่เรา
ขอบคุณพ่อแม่ที่ให้กำเนิดเรามาจนมีวันนี้
วันหน้า เมื่อหนูเรียนจบแล้ว ทำงานได้แล้ว หนูอาจช่วยเหลือพ่อแม่ได้ดีก็ได้

ฝึกฟังและฝึกปฏิบัติตามนี้่บ่อย ๆ จะช่วยได้มาก
แม้ตอนแรก ๆ ฟังไม่รู้ก็ฟังไปก่อน บ่อยครั้งเข้าก็จะรู้เข้าใจเอง
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
18 มีนาคม พ.ศ. 2558 21:48:46
คำตอบที่ 2
ขอขอบพระคุณพระอาจารย์เป็นอย่างสูงนะคะ คือตอนนี้หนู้รู้สึกดีขึ้นมากแล้วค่ะ หลังจากที่คุยกับยาย ยายบอกว่ายายปลงได้แล้ว หนูสบายใจมากขึ้นเมื่อหนูปล่อยวาง เมื่อหนูไม่คิด เพราะหนูไม่มีทางแก้ปัญหานี้ได้แน่นอน ต่อไปนี้หนูก็ต้องยอมรับคำตัดสินของกรรมแล้วหล่ะ หนูจะพยายามข่มใจ สงบจิตใจ และตั้งใจเรียน เพื่ออนาคตของหนูและครอบครัวค่ะ แล้วที่พระอาจาีย์ถามว่าแม่หนูเอาเงินไปทำอะไร ส่วนนี้หนูไม่ทราบจริงๆค่ะ เพราะแม่ก็ไม่เคยมีภาระอะไรเลย อาจจะต้องส่งดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบ และค่าเหล้าค่าบุหรี่ของพ่อค่ะ หนูไม่ทราบว่าหนูทำถูกหรือเปล่าที่ตอนนี้หนูไม่ติดต่อกับแม่เลย หนูพยายามหนีปัญหาเพื่อหาทางสงบจิตใจ ในสายตาคนอื่นหนูอาจจะเป็นลูกอกตัญญู แต่หนูแค่ไม่อยากรับรู้ปัญหา หนูแค่อยากมีความสุขบ้าง นมัสการขอบพระคุณค่ะ
ชื่อผู้ตอบ
ชีวิตที่พบทางตัน
วันที่เขียน
19 มีนาคม พ.ศ. 2558 19:40:33
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร