ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)
เครียดไม่มีเงินไปใช้หนี้ทำไงดี
รายละเอียด
เงินเดือนออกมาไม่พอใช้หนี้ทำอย่างไรดีจะหาเงินจากที่ไหนให้เค้า
ความต้องการ
อยากยืมมือคนอื่นมาช่วยแต่จนปัญญาจริงๆ
ชื่อผู้ถาม
แป้ง
วันที่เขียน
2 มีนาคม พ.ศ. 2558 14:20:13
จำนวนคนเข้าดู
11533
คำตอบ
คำตอบที่ 1
1. เป็นหนี้ ต้องใช้คืน อย่าปิดเครื่องหนี อย่าหลบ อย่าซ่อนเจ้าหนี้ ให้รีบไปคุยกับเจ้าหนี้ ขอผ่อนผัน หรือยืดระยะเวลา หรือยอมเสียดอกเพิ่มบ้าง
2. มีทรัพย์อย่างอื่นไหม เช่น รถ ที่ดิน มือถือ ของมีค่า ฯลฯ ต้องขายออกไป เมื่อเอามาใช้หนี้ อย่าไปเสียดาย รีบปิดหนี้ไปก่อนดีที่สุด ทรัพย์สินทุกอย่างสามารถหาซื้อเอาใหม่ได้ ไม่ต้องห่วง แต่หนี้มันจะจิกเราทุกวินาที เราต้องคิดถึงคนที่ให้เงินเรามาบ้าง เขาก็อาจจำเป็นต้องใช้จ่ายในชีวิตครอบครัว เราเอามาแล้ว ก็ถือว่าเขาได้ช่วยเราแล้ว เวลาเขาเดือดร้อน เราต้องช่วยเขาคืนให้ได้ จริง ๆ เจ้าหนี้มาทวง ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะเขาก็อยากได้เงินเขาคืน หน้าที่เราคือ อย่าโกรธ อย่าเกลียดเขา ต้องสุภาพ ขอบคุณเขา แล้วหามาใช้คืน
3. อย่าไปคาดหวังในคนอื่นให้มาช่วย เพราะเขาก็จะต้องมาดูเราว่า มีรายได้เท่าไหร่ มีรายได้จากไหนบ้าง กินอยู่ต่อเดือนประมาณเท่าไหร่ เมื่อไหร่จะสามารถคืนเขาได้ ถ้าเขาจะให้กู้
4. รีบเร่งทำงาน หารายได้จากหลาย ๆ ทาง งานอะไรก็ได้ที่ไม่ผิดศีล ไม่ผิดธรรม ไม่ผิดกฎหมาย ทำเลย อย่าไปอายใคร เราทำงานหารายได้ที่สุจริตไม่ต้องอาย
การกู้จากคนหนึ่งมาใช้คนหนึ่ง บางทีจะเป็นงูกินหาง เพราะหาใช้คืนไม่ได้สักคนเลย นั่นจะเครียดหนัก
ใจเย็น ๆ อดทน จริงใจ พูดจาให้สุภาพไว้กับทุก ๆ คน อย่าโกหก อย่าปกปิดความจริง บอกญาติ บอกเพื่อน บอกทุกคนเลยว่า เรามีหนี้เท่าไหร่ เอาไปใช้ทำอะไร ตอนนี้ไม่สามารถหาเงินมาใช้เขาได้แล้ว
หลายคนนั้น ไม่ได้เครียดเพราะเป็นหนี้สินเท่าไหร่ แต่เครียดเพราะกลัวอาย กลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าตัวเองเป็นหนี้
การเป็นหนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เพียงแต่เราต้องหาเงินมาใช้หนี้คืนเขาให้ได้ แม้ว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ ก็ต้องหามา
อย่าให้การเป็นหนี้ ต้องถึงขนาดไปคิดทำร้ายตัวเอง คิดไม่อยากอยู่ คิดอยากหนีความจริง
เราต้องยอมรับความจริง ลุยสู้ ทนสู้ต่อไป เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่า
"เราก่อหนี้ได้ เราก็ใช้หนี้เขาได้" ไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาว ไม่ใช่คนขี้อายขายหน้า
การฝึกหัดให้นิ่ง ทำใจให้สงบ การสวดมนต์ก่อนนอน การแผ่เมตตาก่อนนอน ก็จะช่วยได้มาก
ลองฝึกทำฝึกปฏิบัติดู
ลองฟังตามนี้ดู ฟังบ่อย ๆ จะช่วยเสริมพลังสติ สมาธิ ปัญญาให้เราได้
2. มีทรัพย์อย่างอื่นไหม เช่น รถ ที่ดิน มือถือ ของมีค่า ฯลฯ ต้องขายออกไป เมื่อเอามาใช้หนี้ อย่าไปเสียดาย รีบปิดหนี้ไปก่อนดีที่สุด ทรัพย์สินทุกอย่างสามารถหาซื้อเอาใหม่ได้ ไม่ต้องห่วง แต่หนี้มันจะจิกเราทุกวินาที เราต้องคิดถึงคนที่ให้เงินเรามาบ้าง เขาก็อาจจำเป็นต้องใช้จ่ายในชีวิตครอบครัว เราเอามาแล้ว ก็ถือว่าเขาได้ช่วยเราแล้ว เวลาเขาเดือดร้อน เราต้องช่วยเขาคืนให้ได้ จริง ๆ เจ้าหนี้มาทวง ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะเขาก็อยากได้เงินเขาคืน หน้าที่เราคือ อย่าโกรธ อย่าเกลียดเขา ต้องสุภาพ ขอบคุณเขา แล้วหามาใช้คืน
3. อย่าไปคาดหวังในคนอื่นให้มาช่วย เพราะเขาก็จะต้องมาดูเราว่า มีรายได้เท่าไหร่ มีรายได้จากไหนบ้าง กินอยู่ต่อเดือนประมาณเท่าไหร่ เมื่อไหร่จะสามารถคืนเขาได้ ถ้าเขาจะให้กู้
4. รีบเร่งทำงาน หารายได้จากหลาย ๆ ทาง งานอะไรก็ได้ที่ไม่ผิดศีล ไม่ผิดธรรม ไม่ผิดกฎหมาย ทำเลย อย่าไปอายใคร เราทำงานหารายได้ที่สุจริตไม่ต้องอาย
การกู้จากคนหนึ่งมาใช้คนหนึ่ง บางทีจะเป็นงูกินหาง เพราะหาใช้คืนไม่ได้สักคนเลย นั่นจะเครียดหนัก
ใจเย็น ๆ อดทน จริงใจ พูดจาให้สุภาพไว้กับทุก ๆ คน อย่าโกหก อย่าปกปิดความจริง บอกญาติ บอกเพื่อน บอกทุกคนเลยว่า เรามีหนี้เท่าไหร่ เอาไปใช้ทำอะไร ตอนนี้ไม่สามารถหาเงินมาใช้เขาได้แล้ว
หลายคนนั้น ไม่ได้เครียดเพราะเป็นหนี้สินเท่าไหร่ แต่เครียดเพราะกลัวอาย กลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าตัวเองเป็นหนี้
การเป็นหนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เพียงแต่เราต้องหาเงินมาใช้หนี้คืนเขาให้ได้ แม้ว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ ก็ต้องหามา
อย่าให้การเป็นหนี้ ต้องถึงขนาดไปคิดทำร้ายตัวเอง คิดไม่อยากอยู่ คิดอยากหนีความจริง
เราต้องยอมรับความจริง ลุยสู้ ทนสู้ต่อไป เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่า
"เราก่อหนี้ได้ เราก็ใช้หนี้เขาได้" ไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาว ไม่ใช่คนขี้อายขายหน้า
การฝึกหัดให้นิ่ง ทำใจให้สงบ การสวดมนต์ก่อนนอน การแผ่เมตตาก่อนนอน ก็จะช่วยได้มาก
ลองฝึกทำฝึกปฏิบัติดู
ลองฟังตามนี้ดู ฟังบ่อย ๆ จะช่วยเสริมพลังสติ สมาธิ ปัญญาให้เราได้
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
2 มีนาคม พ.ศ. 2558 16:37:53
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร