คนเราอยู่ด้วยกัน แต่ไม่พูดจากัน มันก็กระไรอยู่
เราลองทำใจกว้าง ๆ ให้คิดว่า แม่สามีคือแม่ของเรา ดูสักหน่อย ธรรมชาติของคนต่างวัย จะให้เหมือนกัน ก็คงยาก
จะให้เข้ากันสนิทเลย บางทีก็ยาก บางคน พออายุมาก ๆ ชอบบ่นชอบว่า ก็มี
ไม่แน่ เราอาจเป็นแบบนี้ก็ได้ เมื่ออายุมากขึ้น
ถ้าให้แม่กลับบ้าน แม่จะอยู่กับใคร จะกินอยู่อย่างไร ใครจะดูแล แม่ไม่เหงาหรือ ไม่มีลูกหลาน ไม่มีใคร
คุยกับสามี สามีอาจเครียดก็ได้นะ เพราะคนนี้ก็เมีย คนนั้นก็แม่ คนนี้จะเอาอย่างนี้ คนนั้นจะเอาอย่างนั้น
พูดไปก็ไม่มีใครสนใจฟัง แต่ละคน ก็จะเอาแต่ใจส่วนตัว เมียก็ไม่อยากให้แม่ผัวอยู่ด้วย แม่ก็พูดไม่เข้าหูเมีย
เกิดเขาเครียดมาก ๆ หนีไปเที่ยวไปติดหญิงอื่น ไม่แย่หรือ?
ปรับความคิดใหม่เถอะ ไม่เสียหายอะไร
ขอให้แม่มาอยู่ด้วยนั่นแหละ ดีแล้ว ให้รีบไปรับมา
และตั้งใจเลยว่า เราจะปรนนิบัติแม่สามีให้ดีที่สุด
จะไม่บ่น ไม่ว่า แต่บอกได้ ถ้าแม่เขาทำพลาดต่าง ๆ
คุยกับเขา ให้แสดงออกจากหัวใจว่า เรายินดี เราพอใจ เราอยากให้เขามาอยู่กับเรา
เพื่อที่เราจะได้ดูแลเขา ช่วยสามีดูแลแม่สามี ก็คือได้ทำกุศลอันยิ่งใหญ่
เขาจะผิดพลาดอย่างไร ก็ต้องให้อภัยกัน
เมื่อเราทำดีมาก ๆ เขาจะเกรงใจเราเอง
อีกอย่าง อย่าไปคิดว่า เราจ้างแม่มาเลี้ยงลูกให้เรา อย่าไปคิดว่า แม่จะต้องเลี้ยงลูกให้เรา แม่จะทำได้เท่าไหร่ก็ขอบคุณแล้ว ถ้าเขาทำไม่ไหวก็อย่าบ่น ถ้าเขาทำไม่ถูกใจ ก็ต้องสกัดกั้นปากอดกลั้นใจ ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ บอก เพราะคนอายุมาก ๆ มักเกิดอาการน้อยใจได้ง่าย
เสาร์ อาทิตย์ ให้สามีพาแม่ไปอยู่วัดศึกษาปฏิบัติธรรมบ้าง อย่างน้อย ๆ 2 เดือนไปทีหนึ่ง 2-3 วัน
พาไปบ่อย ๆ แม่จะปลงได้ จะทำใจหลาย ๆ อย่างได้ จะอยากได้โน่นนี่นั่นน้อยลง
แนะนำให้พาไปวัดนี้
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews3&newsid=186
ญาติผู้ใหญ่ของสามี คือญาติเรา
อย่าคิดว่า นี่เป็นเวรกรรมอะไรเลย
ให้คิดว่า มันเป็นโอกาสให้เรา ได้สร้างบุญบารมี ได้ดูแลผู้สูงวัย ได้ดูแลแม่ของสามี
ถ้าไม่มีผู้หญิงคนนี้ คุณก็คงไม่ได้พบเจอสามีคุณคนนี้ คงไม่ได้พบรักกับเขา คงไม่ได้เขามาเป็นสามี
ดังนั้น ผู้หญิงคนนี้ ต้องพิเศษมากทีเดียว คุณต้องขอบคุณเขาและสำนึกในบุญคุณเขาให้มาก ที่ให้กำเนิดลูกชายมาเป็นคู่รักที่แสนหวานสุดปลื้มของคุณ
อยู่ด้วยกัน ให้อภัยกัน ก็ไม่มีอะไร
ไม่คิดเล็กนอ้ย ไม่คิดเคียดแค้น ไม่ชิงชัง
บ้านก็จะเป็นบ้าน จะมีความสุขด้วยกันได้
เสียงหัวเราะของเด็กเล็ก ๆ กับปู่ย่าตายายนั้น คือสวรรค์ในบ้าน
บ้านที่มีพ่อแม่ลูก ปู่ย่าตายาย คือบรรยากาศที่สุดพิเศษ ทำให้เด็กได้รับได้ซึมซับความสัมพันธ์ที่แน่วแน่สนิทมั่นคง
จะทำให้เด็กมีความมั่นใจ รู้จักมีความเคารพผู้ใหญ่ นอบน้อมเป็นเมื่อเติบใหญ่
ปล่อยวางเรื่องเก่า ๆ ทำใจให้พร้อมเผชิญหน้าทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น
ทำใจได้ ปล่อยวางได้ คิดเสียว่า เรานี่ก็ดีและเก่งเหมือนกันนะ ได้ดูแลแม่ให้สามี
ทำแบบนี้ คิดแบบนี้ จะทำให้คุณมีแต่ความสุข ไม่เครียดเลย
ฝึกฟังและฝึกปฏิบัติตามนี้
จะช่วยได้มาก ฝึกไป 9 เดือน จะเห็นผลแน่นอน
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143
14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 00:03:31