ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

มีปัญหากับพ่อค่ะ
รายละเอียด
สวัสดีค่ะ ชื่อกิ๊กค่ะ มีปัญหาเรื่องความไม่เข้าใจกันกับพ่อ เรื่องมีอยู่ว่า กิ๊กกับพ่อ ไม่ได้อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ พ่อกับแม่ฝากกิ๊กไว้กับอา กิ๊กโตมากับอาค่ะ อาเลี้ยงดูกิ๊กมาตั้งแต่อายุไม่ถึงขวบ จนถึงอายุ 19 เพราะกิ๊กต้องไปเรียนต่อที่ กทม พอไปเรียน กทม ก็อยู่กับพ่อแม่ค่ะ แต่อยู่ได้แค่ช่วงปี 1 ปี 2 เรียนหนัก + กับเดินทางไกลจากบ้าน เลยอยู่หอพักกับเพื่อน ทุกครั้งที่กลับบ้าน จะเห็นพ่อนั่งอยู่หน้าประตู กับเหล้า1 ขวด พร้อมบุรี่ไม่รู้กี่มวล พ่อกิ๊กทำงานที่บริษัทที่นึงทำงาน 3 กะ ทุกครั้งที่กลับมาบ้าน จะดื่มเหล้าจนเมามากๆบางทีเมาจัดๆก็อาละวาดแม่ แต่กับกิ๊กเราจะคุยกันน้อยค่ะ กิ๊กจะพยายามบอกพ่อให้ลดเหล้าลดบุรี่ ดูแลสุขภาพบ้าง พ่อก็จะบอกว่า ร่างกายของใครของมัน ตัวใครตัวมัน พูดแบบนี้มาตลอด พ่อเอาแต่ทำงาน กลับจากทำงานก็กินเหล้าเมา เราแทบไม่ได้คุยกันเลยค่ะ จนกระทั่งเรียนจบ วันที่กิ๊กรับปริญญา ก็ไม่มีใครไปเลย พ่ออ้างว่าพ่อทำงาน ทั้งๆที่พ่อมีสิทธิลาพักร้อนได้ 15 วัน แต่พ่อก็ไม่ไป ณ ตอนนั้นร้องไห้เลยค่ะ ไม่มีใครไปยินดีกับเราเลยจนแฟนรู้ แฟนอยู่ใต้ ต้องนั่งรถมาหา วันรับปริญญา เห็นพ่อแม่คนอื่น มายืนถ่ายรูป ดูเค้ามีความสุขกันมาก แต่เราล่ะ อยากให้พ่อแม่มาแต่เค้าบอกไม่ว่าง ไม่เคยว่างสำหรับกิ๊กเลย พอเรียนจบก็ทำงานค่ะ จนมาถึงปี 2554 วันหยุดจากงานกิ๊กกลับบ้าน พอเช้าวันรุ่งขึ้นพ่อกิ๊กตื่นมาจะไปทำงานแต่ร่างกายซีกซ้ายไม่มีแรง กิ๊กกับแม่จะพาไปหาหมอ แต่พ่อบอกจะไปทำงานอย่ามายุ่ง แต่ร่างกายพ่อเองยืนไม่อยู่แล้ว พยุงตัวเองไม่ได้ ไปหาหมอพบว่าเป็นเส้นเลือดในสมองอุดตัน และไปหาหมอช้าไป ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีกค่ะ และด้วยโรคอื่นๆตามมาที่มันสะสมอยู่แล้ว เบาหวานค่ะ พ่อโดนยุงกัดที่เท้า ซ้ายข้างที่ไม่มีแรง แต่อาการเบาหวานสูง ทำให้แผลหายช้าและติดเชื้อ ทำให้พ่อต้องตัดขาเพื่อรักษาชีวิต กิ๊กลาออกจากงานเพื่อที่จะสลับกับแม่ดูแลพ่อ (อ่อ กิ๊กเป็นลูกคนเดียวนะคะ ) พ่ออยู่โรงพยาบาล1 เดือนเต็ม และไปๆกลับๆบ้านอยู่ประมาณ 8 เดือน หลังจากนั้น ก็ย้ายกลับ ต่างจังหวัด เพราะอยากให้พ่อได้สูดอากาศที่ดีกว่า กทม จนมาถึงปี 58 นี้ล่ะค่ะ กิ๊กทำงานประจำไม่ได้ เคยไปสมัครงานได้งานดีเงินดี แต่วันหยุดอาทิตย์ละวัน เวลาพ่อป่วยมากๆ กิ๊กก็ดูแลไม่ได้ แม่ก็จะเหนื่อยคนเดียว เลยตัดสินใจลาออก เพื่อที่จะมาช่วยกันดูแลพ่อกับแม่ ทุกครั้งที่อยู่ใกล้พ่อ จะมีแต่คำพูดของพ่อที่คอยบั่นทอนจิตใจทุกครั้ง พ่อไม่เคยพูดดีๆเลย แม่จะโดนบ่อยมาก ทุกคนที่เข้าใกล้พ่อ จะโดนว่าสารพัดค่ะ แม้กระทั่งหมอทพยาบาลที่โรงพยาบาล พยาบาลจำพ่อได้ทุกคน และมักถามเสมอว่า ลุงแกปากร้ายแบบนี้ตลอดเลยหรอ เวลากิ๊กอยู่กับพ่อ กิ๊กก็จะบอกพ่อว่า อะไรที่ช่วยตัวเองได้ก็ช่วยบ้าง อย่าใช้คนอื่นอย่างเดียว จากที่เป็นข้างเดียวจะกลายเป็นสองข้างแล้ว พ่อก็จะไใ่สนใจค่ะ เวลาจะนั่งรถเข็น กิ๊กจะอุ้มแกขึ้นรถ ( คิดดูนะคะ พ่อแกหนักประมาณ 60 กว่าโล) เวลาอุ้ม จะโดนว่าทุกที บอกให้อุ้มเบาๆบ้าง ทำไมชอบรัดชอบเหวี่ยงบ้าง คือ กิ๊กหนัก 50 กว่า พ่อตัวใหญ่กว่ากิ๊กอีก เวลายกต้องยกเร็วๆและต้องจับแน่นๆ โดนว่าทุกครั้ง บ่นไม่มีชิ้นดี อุ้มขึ้นอึ้มลงรถเข็นวันนึงไม่รู้กี่รอบ เรื่องกินก็กินยากค่ะ จะถามตลอดว่าอยากกินอะไร จะทำให้กิน พอทำออกมาแล้ว ดม ถ้ากลิ่นไม่ถูกใจ เกิดอาการโวยวาย ไม่กินขึ้นมาดื้อๆ และล่าสุด มีอาการติดเชื้อปัสสวะ หมอเฉพาะทางให้แม่กับกิ๊กไปเรียนสวนฉี่ เพื่อลดการคั่งค้างของปัสวะในผู้ป่วยอัมพกษ์ ต้องสวนฉี่วันละ 2 รอบ เช้าเย็น เวลาสวนฉี่พ่อจะเจ็บบ้าง แต่หมอบอกยังไงก็ต้องสวน ไม่อย่างงั้นถึงตายได้ ถ้าปัสสวะเน่าค้าง กิ๊กสวนให้เฉพาะตอนเย็น ตอนเช้าแม่สวนฉี่ให้ แค่กิ๊กอุปดรณ์สวนฉี่ เท่านั่นแหล่ะค่ะ คำด่าเริ่มทยอยมาพร้อมคำบ่น กิ๊กก็พยายามอธิบายให้ฟีงว่า ต้องสวน ไม่สวนก็จะแย่กว่านี้ แต่ก็เท่านั้น โดนว่ายาวเลยค่ะ แต่จะเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้ยิน คำว่า เดี๋ยวมึงก็เป็นแบบกู มึงจะเจ็บยิ่งกว่ากูอีก พวกมึงนี่เป็นหมอกันรึไง รู้ดีไปสะทุกเรื่อง ห้ามกูกินนู่นนี่สารพัด กูไม่เห็นจะหาย ( พ่อกิ๊กนี่ดื้อมากนะคะ เผลอไม่ได้ถ้าวางของห้ามกินไว้ใกล้มือนี่หมดทุกอย่าง ถ้าอยู่ใกล้คนสูบบุหรี่ ขอเค้าดูดทุกที) แล้วอาการก็กำเริบ เป็นทีอยู่ โรงพยาบาลเป็นเดือน ไม่เป็นอันทำอะไรเลยค่ะ ไม่ได้คำชมว่าทำดีแล้ว มีแต่คำพูดถากถางใจทุกวันๆ ยิ่งทำดี พ่อจะมองว่ากิ๊กทำร้ายเค้าตลอด ไม่เคยดีเลยค่ะ เมื่อวานทนไม่ไหว ร้องไห้โฮเลยค่ะ กิ๊กต้องทำไงคะ ให้พ่อเค้าเป็นคนมองโลกในแง่ดีบ้าง ทุกอย่างตอนนี้แทบไม่มีดีเลยค่ะ บอกตรงๆตอนนี้เหนื่อยหัวใจมากๆ แทบจะบ้าแล้วค่ะ เครียดมากๆเลย ปวดหัวมาก พยายามปล่อยวาง แต่ก็ทำไม่ได้เลยค่ะ แนะนำด้วยนะคะ
ความต้องการ
เหนื่อยใจจังเลยค่ะ ไม่รู้ว่าต้องทำไงให้พ่อเป็นคนมองอะไรดีดีบ้าง เข้าใจคนอื่นบ้าง
ชื่อผู้ถาม
กิ๊ก
วันที่เขียน
9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 10:19:36
จำนวนคนเข้าดู
1309

คำตอบ

คำตอบที่ 1
คนที่ไม่เปิดใจ ถือตัว ถือทิฐิ รั้น นั้น ยากที่ใครจะไปช่วยอะไรได้
ทุกอย่าง เขาทำมาเอง เขาสะสมมาเอง บางคนไม่เคยฝึกใจ ก็เลยมีแต่วิ่งหาสิ่งต่าง ๆ เพื่อตามใจตัวเอง เอาใจตัวเอง
นี่แหละเขาเรียกวา่ กรรม คือการกระทำ ใครทำอย่างใด ก็จะได้ผลอย่างนั้น

หนูเป็นลูกที่ดี รู้จักเป็นห่วงพ่อแม่
แต่เมื่อหนูได้ทำเต็มที่แล้ว ก็ต้องปล่อย

ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงานของเราไปดีกว่า
อะไรที่เราทำได้ ทุกอย่างในบ้าน ก็ทำเลย
ปิดเทอมยาว ๆ ชวนแม่ไปศึกษาปฏิบัติธรรมนอกสถานที่ 3-7 วัน จะช่วยได้มาก
บุญที่เราทำ จะเย็นทั้งเราทั้งแม่และจะเย็นถึงพ่อด้วย ถ้าพ่อรู้จักอ่อนน้อมลง รู้จักชื่นชมยินดีเมื่อคนอื่นเขาทำดี เมื่อคนอื่นเขาบอกสิ่งดี ๆ พ่อก็จะมีความสุขความเย็นใจได้เช่นกัน
บุญ เป็นชื่อของความสุข
บุญ เป็นชื่อของการชำระใจให้สะอาด
บุญ เป็นสิ่งที่ทุกชีวิตต้องทำ เพื่อความสุขของตัวเองและคนในสังคม
เราทำบุญได้หลายวิธี เช่น ทำทาน ให้ แบ่งปัน รักษาศีล และฝึกเจริญสติภาวนา
และเราควรทำให้ครบทุกวิธี

แนะนำให้ชวนแม่ไปที่นี่ดู
http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews3&newsid=150
ชื่อผู้ตอบ
สายด่วนชาวพุทธ
วันที่เขียน
9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 20:44:36
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร