ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

โดนออกจากงาน เนื่องจากมีการยักยอกทรัพย์ ต้องชดใช้ ตกงาน ไม่ม
รายละเอียด
เนื่องจากตนเองมีภาระ ต้องรับผิดชอบเยอะทำให้เกิดปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้ แล้วได้กระทำการทุจริตยักยอกทรัพย์ของลูกค้า จึงโดนให้ออกจากงานและต้องชดใช้เงิน ประมาณ300,000 บาท ในขณะที่ก่อนนี้ยังมีหนี้ในระบบ. ทั้งผ่อนบ้าน ของแม่ และคอนโดที่อยู่ อีกทั้งหนี้บัตรและสินเชื่อกับธนาคาร และเงินที่ยืมมาจากเพื่อน จากญาติอีก เฉพาะเงินยืม ก้อ 130,000 บาท ส่วนหนี้ในระบบบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด 5 ใบ ประมาณ. 250,000 บาท สินเชื่อบุคคล 5 ที่ยอดหนี้รวมกัน ประมาณ500,000 บาท ตอนนี้ตกงานยังหางานใหม่ไม่ได้ ภาระที่ต้องแบกรับทุกวันนี้ มีแม่ที่ตาบอดข้างนึง ลูกอีก 2 คนเรียนชั้นอนุบาลทั้งคู่ ตั้งแต่คุณพ่อเสียไป ตนเองก้อเป็นเหมือนเสาหลักของบ้าน ส่งน้องเรียนแต่ไม่ไหวตอนนี้น้องก้อต้องทำงานเลี้ยงตัวเอง ตอนนี้เครียดมากถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายแต่พอคิดได้ว่าแล้วแม่กับลูกจะอยู่ยังไงเราสร้างปัญหาไว้แล้วจะคิดเห็นแก่ตัวแบบนี้เหรอ ตัดสินใจเล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่าเขารู้ว่าเราใจเด็ดกล้าทำไม่เคยบอกถึงปัญหาที่ผ่านมากับใครทำให้แก้ปัญหาด้วยวิธีที่ผิด แม่บอกให้เราทำใจดีดียอมรับความจริงอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด แก้ไขปัญหาไปตามเรื่องตามราว เสียใจมากที่ตอนนี้กลายเป็นลูก เป็นแม่ เป็นพี่ ที่ไม่ดีและดูแลทุกคนไม่ได้ตามที่สัญญากับพ่อไว้ เสียใจมากๆ
ความต้องการ
เราจะแก้ไขปัญหายังไง จะรับมือกับความจริงที่โหดร้ายนี้ได้ยังไง ทำใจไม่ได้จริงๆกับความผิดพลาดครั้งนี้
ชื่อผู้ถาม
Nootum
วันที่เขียน
28 มกราคม พ.ศ. 2558 19:06:00
จำนวนคนเข้าดู
1274

คำตอบ

คำตอบที่ 1
ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิดพลาด ทุกคนล้วนแต่ทำผิดพลาดได้ทั้งนั้น มากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขณะนั้น ๆ ว่า มีสติ มีปัญญาแค่ไหน

การที่เรายอมรับว่า เราทำผิดพลาด จะเป็นจุดเริ่มต้นให้เราแก้ปัญหาได้
ถ้าเราไม่ยอมรับความจริง เราจะแก้ปัญหาไม่ได้เลย มีแต่จะก่อปัญหาใหม่ซ้อนเพิ่มเข้าไปเรื่อย ๆ


ทุกสิ่งอย่าง ถ้าเราตั้งใจ ก็จะสามารถแก้ไขได้ แต่ก็ต้องใช้เวลาบ้าง
ให้คิดง่าย ๆ แบบนี้ แรกที่เราเกิดมานั้น ไม่มีอะไร ที่มีทุกวันนี้ ก็ถือว่า มากล้นแล้ว
เพราะเราอยากรวยไว ๆ อยากได้เร็ว ๆ อยากมีมาก ๆ เราจึงไปทำผิดพลาดแบบนั้น

1. ตัดเรื่องหน้าตาที่เรายึดติดให้ได้ เมื่อเราไม่ห่วงเรื่องหน้าตาชื่อเสียงแล้ว ทุกอย่างก็จะง่ายไปหมด มีหลายคนที่ทุกข์เพราะหน้าตานี้มากกว่า หนี้สินที่ตัวสร้างขึ้นมา จึงยอมรับไม่ได้และปลิดชีพตัวเองไปก็มากราย

การยึดติดหน้าตา กลัวอาย กลัวขายหน้าที่มีคนรู้ว่า "ตัวเองเป็นหนี้ ตัวเองไม่มี" นี่เป็นสิ่งที่ผิด ๆ
เราต้องสละสิ่งที่เขาสมมุติว่า "เกียรติ หน้าตา ชื่อเสียง" นี้ให้ได้ก่อน มันแค่ของสมมุติ ไม่มีอะไรเลย ปล่อยวางเสียก็สิ้นเรื่อง ใครจะด่า จะว่า จะนินทา ก็ช่างเขา เพราะเราเป็นอย่างไร เรารู้ตัวเราดีอยู่แล้ว

ความสุขไม่ได้อยู่ที่มีใครยกย่องสรรเสริญเรา ความทุกข์ไม่ได้อยู่ที่มีว่าใครมาว่ามานินทา
ความทุกข์ไม่ได้อยู่ที่ว่ามีใครมารู้มาเห็นสิ่งที่เราทำ แต่เราทุกข์เพราะใจของเรานี่เองยึดติดในเสียงพูดหรือสายตาของคนอื่น เราทุกข์เพราะเราทำผิดพลาดในอดีต เราทุกข์เพราะเรากำลังรับผลที่เราพลาดในอดีต

2. หนี้ทุกก้อน สรุปให้ชัด คุยเจ้าหนี้ให้เคลียร์ ทยอยปิด ไม่ต้องเสียงแข็งใส่เจ้าหนี้ ไม่ต้องหนี ไม่ปิดเครื่องหนี  ให้คุยกับเขาด้วยความนอบน้อม ขอความเห็นใจ แสดงออกว่า เราจริงใจและเราพยายาม

3. อาจต้องตัดใจขายสมบัติออก เพื่อลดค่าใช้จ่าย เช่น อาจไปอยู่บ้านแม่ ขายคอนโด ขายรถทิ้ง นั่งรถเมล์ไปทำงาน พาลูกนั่งรถสาธารณะ ขายเครื่องมือเครื่องใช้ในบ้านออกไป เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ 

ทรัพย์สินทุกอย่าง แท้ที่จริง มันก็แค่สิ่งสมมุติ  ถ้าเราไม่ตัดใจจากอะไรเลย จะยึดไว้ทั้งหมด ก็จะทุกข์หนักมาก และยากจะแก้หนี้สินที่มีอยู่ได้  วันหน้า ค่อยหาเงินมาซื้อใหม่ก็ได้ ตอนนี้ ต้องตัดใจปล่อยออกไปก่อน

4. ต้องบอกทุกอย่างกับทุกคนในครอบครัว เพื่อจะได้ช่วยกันประหยัดและเจียมตัว
อย่าอาย ถ้าลูกเราไม่มีอะไรเหมือนคนอื่น บอกสอนลูกให้ยอมรับความจริง ไม่โอ้อวด ไม่โม้ ไม่แข่งดีแข่งเด่นกับใคร
ให้เข้าใจตัวเอง เรามีข้าวกิน มีที่นอน นี่ก็ดีที่สุดแล้ว

5. มองหาวิธีทำอาชีพ ทำรายได้ใหม่ ๆ เปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำงานใหม่ 
อะไรก็ตามที่ไม่ผิดศีลไม่ผิดธรรม ไม่ผิดกฎหมาย ไม่เอาเปรียบใคร ทำได้เลย ไม่ต้องอายใคร ลุยไปเลย

6. ตั้งใจฝึกสติให้ตัวเอง ฝึกสวดมนต์ทุกวัน ฝึกแผ่เมตตา ฝึกให้อภัยทุก ๆ ที่ทำให้เราขุ่นเคืองใจ
อย่าโกรธใคร อย่าแค้นใคร ผ่อนคลายการยึดติด ปล่อยวางการยึดติด  ฝึกทำแบบนี้ ใจเราจะสงบและมีพลัง สามารถมองเห็นทางแก้ปัญหาได้

7. ฝึกฟังและฝึกปฏิบัติตามนี้บ่อย ๆ ต่อเนื่องไป  9 เดือน จะได้ผล
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143

8. จัดสรรเวลาให้ตัวเอง พาแม่ พาลูกไปศึกษาธรรมนอกสถานที่บ้าง 3-5 วัน ปีละ 3-4 ครั้ง
ารปฏิบัติธรรมะที่ถูกต้อง จะแก้ปัญหาชีวิตได้ การปฏิบัติผิด ๆ จะเกิดประโยชน์น้อย

แนะนำตรงนี้ http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews3&newsid=150

หรือตรงนี้  http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews3&newsid=186

หรือตรงนี้  http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews3&newsid=195

อย่าไปเสียเวลากับเรื่องดวง เรื่องเสี่ยงโชค เรื่องรอวาสนา เรื่องการพนัน
ขอให้เชื่อกรรมคือการกระทำของเราดีกว่า คือเราทำอะไรก็จะได้ผลอย่างนั้น 
เราทำกรรมดี ก็จะได้ผลดี เราทำกรรมไม่ดี ก็จะได้ผลไม่ดี

อย่านั่งรอ นอนรอให้ประสบความสำเร็จโดยไม่ทำอะไร
เราต้องทำ ต้องลุยทำด้วยสติด้วยปัญญา ด้วยทรัพยากรที่มีอยุ่
เมื่อทำตามสมควรแก่เหตุผล ผลก็จะเกิดขึ้นได้อย่างสมควร

สาธุ ขอให้สติ มีปัญญา ผ่านพ้นอุปสรรคนี้ไปได้โดยเร็ว
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
29 มกราคม พ.ศ. 2558 22:49:26
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร