ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

รู้สึกผิดหวังในตัวสามีสุดๆหมดหวังและท้อแท้มาก
รายละเอียด
ตั้งแต่ปลายปี57ฉันมีเรื่องทุกใจเพราะการกระทำของสามีมาจนถึงทุกวันนี้ต้นปี58คือเขาตัดสินใจเลือกที่จะหนีปัญหาของเขาเองโดยไม่ปรึกษาฉันก่อนเขาตัดสินใจเองแล้วฉันก็ต้องยอมทิ้งทุกอย่างที่เคยมีฉันพาลูกชายกับลูกสาวทั้ง2คนขับรถจากระยองกลับขอนแก่นในวันรุ้งขึนโดยไม่บอกใครสิ่งที่ได้มาคือลูกเอกสารสำคัญกระเป๋าเสื้อผ้านักเรียนรองเท้านักเรียนทุกคนกดดันฉันถามหาสามีฉันแต่ฉันไม่รู้ว่าสามีฉันไปไหนเพราะติดต่อไม่ได้เลยฉันรู้แต่ว่าจะต้องพาลูกกลับบ้านให้ได้มันมืดไปหมดเรา3คนแม่ลูกขับรถมาถึงบ้านได้อย่างปลอดภัยใบขับขี่ก็ไม่มีสิ่งที่ฉันมีและจะเป็นที่ผึ้งได้ในตอนนี้ก็คือพี่สาวของฉัน แล้ววันหนึ่งสามีฉันเขาก็กลับมาเขามาขอโทษฉันกับลูกพร้อมเงินอีก4หมื่นกว่าบาทฉันให้อภัยเขาเพราะสงสารลูกเราคุยกันว้าจะไม่ใช้เงินจำหนวนนี่เพราะมันเป็นก้อนสุดท้ายที่จะต้องเริ้มชีวิตครอบครัวใหม่ฉันเชื่อใจเขาดูอีกที ลูกได้เข้าเรียนหนังสือเรียบร้อยแล้วทั้ง2คน แต่แล้วสามีฉันเขาก็ทำเรื่องที่ฉันไม่คาดคิดว่าเขาจะทำได้ขึ้นมาคือเขาแอบเอาเงินส่วนนั้นไปเล่นบอลในเน็ตแถมโดนเป่าแอลกอฮอล์เสียไปอีก3000บาททำให้เงินในบัญชีหมดทุกบาท ตอนนี้ฉันไม่รู้จะตอบลูกฉันยังไงงานก็ยังไม่มีทำเงินก็หมดฉันไม่รู้จะทำยังไงต่อไป อยากจะฆ่าตัวตายแต่สิ่งหนึ่งที่นึกถึงตลอดเวลาคือลูกของฉัน ฉันรักเขามากที่สุด แต่ฉันมืดไปหมดคิดอะไรไม่ออกในตอนนี้ ฉันเหลือสร้อยทองอยู่2สลึงกะว่าจะเอาไปขายแล้วไปเริ้มต้นใหม่กับลูกแต่มันคงเป็นการเริ้มต้นที่เจ็บเฉ้าที่สุดของฉันโดยที่ฉันต้องเอาลูกมาลำบากอย่างนี้ปัปัจจุบั
ความต้องการ
ฉันจะมีวิธีไหนบ้างที่จะอยูอย่างไม่ทุกได้เพราะตอนนี้หัวฉันแทบระเบิดอยู่แล้ว เงินขายทองคงได้ไม่กี่บาทจะเอาไปทำอะไรดี
ชื่อผู้ถาม
คนไกล้ตาย
วันที่เขียน
7 มกราคม พ.ศ. 2558 08:45:42
จำนวนคนเข้าดู
1301

คำตอบ

คำตอบที่ 1
1. ตัวเรา ต้องใจกว้าง มองให้ออก อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เกิดอะไรขึ้นมา เมื่อใจกว้างพอ ก็ต้องยอมรับตามที่เป็นจริง ถ้าจะเดินหน้าเพื่อลูก ๆ เราควรเก็บอดีตเป็นบทเรียน แต่ไม่ควรไปเจ็บปวดกับมัน มันผ่านไปแล้ว จบก็คือจบ

2. คุยกับสามีใหม่ เพื่อวางแผนเดินหน้าอนาคตไปด้วยกัน อย่าหน้างอ โกรธ หรือหงุดหงิดใส่กัน แม้ว่าจะไม่มีกิน ถ้าคนเรายังสามารถยิ้มและมีความหวังต่อกัน มันก็เดินหน้าชีวิตคู่ต่อไปได้ บอกเขาว่า จะไม่ทำอะไรอีก ถ้าทำ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

3. รีบไปสอบใบขับขี่ อย่าพลาดเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้อีก

4. อยู่กับพี่ไปก่อน ก็ไม่เสียหายอะไร ให้ลูกเรียนที่ไหนก่อนก็ได้ โรงเรียนไทย ไม่ได้ต่างกันนักหรอก ถ้าเราไม่หัวสูง ไม่คิดไม่ติดในชื่อเสียง ลูกเรียนที่ไหน ถ้าเป็นโรงเรียนรัฐ ก็ถือว่าใช้ได้ จุดสำคัญคือเราต้องดูแลเขาให้ดี อย่าไปคิดว่า โรงเรียนจะทำให้เด็กดีอย่างเดียว มันอยู่ที่เราเป็นใหญ่มากกว่าโรงเรียน

5. มีอะไรที่ขายได้ ก็คงต้องขายออกไปก่อน รีบหางานทำ หรือหารายได้จากช่องทางต่าง ๆ ที่ไม่ผิดกฎหมายและศีลธรรม

6. บอกสอนลูกให้ฝึกยอมรับความจริง มีอะไรให้กิน ก็อดทนกินไปก่อน แม้ว่าจะไม่ชอบก็ตาม

7. เรื่องแค่นี้ ไม่นาจะต้องเครียดถึงกับอยากตาย เพราะไม่มีประโยขน์ จำไว้ว่า คนเราจะต้องพบปัญหามากมาย มีทุกข์มากกว่าสุข เราต้องอดทน เข้มแข็ง ลุยสู้ ไม่ใช่ท้อแท้ ตีโพยตีพาย และด่าว่ากันแล้วก็หาทางออกไม่ได้

8. ถ้าสามีไม่ดีเพียงพอสำหรับคุณ ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า ก็ปล่อยให้เขาไปเสียเลย อย่ารับกลับมาอีก

9. ฝึกให้อภัย เมตตา ปล่อยวาง และอยู่กับปัจจุบัน ยอมรับความจริง ทำทุกอย่างตามเหตุตามผล อย่าเอาแต่อยากได้อยากมีจนหลงทำผิด ๆ

ปัญหามีไว้ให้เราฝึกแก้ไข ไม่ใช่มาแบกให้เจ็บปวดหรือเพื่อทำร้ายใคร
ฝึกฟังและปฏิบัติตามนี้ทุก ๆ วัน ต่อเนื่องไป 9 เดือน จะช่วยได้
http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
7 มกราคม พ.ศ. 2558 17:42:21
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร