ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

เครียดเรื่องมหาลัยอยู่ตลอดเวลาเลยค่ะ
รายละเอียด
ปัญหามีอยู่ว่า ในหัวมันคิดแต่เรื่องการสอบเข้ามหาลัยอยู่ตลอดเวลาจนรู้สึกไม่มีความสุขเลยค่ะ ตอนแรก ที่บ้านอยากให้เข้าจุฬา เพราะ มันใกล้บ้าน ตอนขึ้นม.6ใหม่ๆเราก็ถามพ่อแม่ตลอดเลยค่ะว่า ม.เกษตรอยู่ไหน มธล่ะ มศวล่ะ ไกลจากบ้านมากมั้ย แล้วม.กรุงเทพล่ะ? ถามแต่แค่คำว่า "ไกลจากบ้านมั้ย" เพราะเรารู้ดีค่ะ พ่อแม่เกือบทุกคนอยากให้ลูกนอนที่บ้าน จนวันหนึ่งพ่อแม่ก็มาพูดกับเราตรงๆค่ะว่า "ที่ไหนก็ได้ แล้วแต่เถอะ แต่ได้จุฬามันก็ดี" เราก็พยายามค่ะ แต่คณะที่เราอยากเข้ามันคู่แข่งเยอะมาก คะแนนเราก็ไม่ได้ดี หนทางที่จะได้เข้าจุฬาเนี่ย มันยังพอมองเห็นนะคะแต่มันรูเล็กซะเหลือเกิน ไม่นานมานี่ เราคุยกะแม่ตรงๆค่ะว่าเรารู้สึกยังไง ความรู้สึกของเราก็คือ "�ป๊าม๊าเคยบอกหนูแล้วว่าที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องเครียด ป๊าม๊าโอเคถ้าต้องไปนอนหอ แต่ทำไมหนูปล่อยวางไม่ได้อะม๊า หนูไม่เข้าใจ คือสมองมันบอกให้ปล่อยวาง แต่ใจมันคิดจนไม่มีความสุข" แม่ก็รู้สึกไม่ดีที่เราพูดแบบนี้แต่เราอึดอัดกับตัวเองมากจริงๆ คือเราเป็นหนักจนถึงขั้นที่ คิดเรื่องมหาลัยทีไร ก็ร้องไห้ทุกครั้งที่คิด กลัวไม่ติด หนูรู้ค่ะ เพื่อนๆก็เป็นแบบหนู มีใครบ้างไม่กลัว นอกจากคนที่ติดสอบตรงไปแล้ว หนูอยากปล่อยวาง ทำใจให้สบายๆกับเรื่องมากค่ะ หนูไม่ไหวแล้ว หนูไม่มีความสุขเลยค่ะ มันเครียดมากทุกครั้งที่นึกถึงมัน แบบจนกลัวการไปนอนหอเลยค่ะ รู้สึกไม่ดีเลยจริงๆทั้งที่มันเป็นการเปิดหูเปิดตาให้เราใช้ชีวิตได้ดีมากขึ้น� คือง่ายๆว่าทุกครั้งหรือแม้กระทั่งตอนพิมพ์ตอนนี้ ใจมันเต้นแรงมาก เหมือนกังวลตลอด พยายามดูหนังตลกหรือไปเที่ยวข้างนอกก็เหมือนลืมแค่ชั่วคราว หรือแม้กระทั่งเปิดคอมก็ตามค่ะ ก็ไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้จริงๆ ส่วนตัวเป็นคนคิดมาก(ขั้นหนัก)อยู่แล้ว หากใครมีคำแนะนำดีๆก็ช่วยบอกกันทีนะคะ
ความต้องการ
ทำยังไงให้ปล่อยวางเรื่องมหาลัยหรือลดการคิดมากลงได้คะ
ชื่อผู้ถาม
อยากติดแล้ว
วันที่เขียน
2 มกราคม พ.ศ. 2558 13:26:43
จำนวนคนเข้าดู
1491

คำตอบ

คำตอบที่ 1
การปล่อยวาง คือคลายการยึดติดลง
การปล่อยวางคือละเรื่องเก่า ๆ ที่ผ่านไป
การปล่อยวาง คือไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ยังไม่เกิดให้มาก
การปล่อยวางคือ รู้ตัวในเรื่องปัจจุบันขณะที่เรากำลังคิด

ไม่มีหนทางอื่น นอกจากการฝึกสติ จะช่วยเราได้
ให้หนูสวดมนต์ แผ่เมตตา แล้วฝึกเจริญสติตามนี้
ทุกบ่อย ๆ ทุก ๆ วัน แรก ๆ ต้องฝืนบ้าง
นาน ๆ จะชินและทำเองโดยอัตโนมัติ
ตามนี้ http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143

การเรียนนั้น ลองสอบไปเถอะ เลือกสาขาที่เราชอบ ที่สถาบันที่เราคิดว่า ไปได้
ส่วนพ่อแม่จะว่าอย่างไรนั้น ตอนนี้ ให้ปล่อยไปก่อน สอบติดก่อน ค่อยว่ากัน
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
4 มกราคม พ.ศ. 2558 00:30:10
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร