ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

สงสัยธรรมะ
รายละเอียด
โยมไม่กล้าคิดที่อยากจะประสบความสำเร็จ จะอยากมีอยากเป็นอะไรก็กลัวขัดต่อหลักศาสนาพุทธไปซะหมด จนหลายๆครั้งรู้สึกอัดอึด
ความต้องการ
อยากให้ช่วยอธิบายหน่อยค่ะว่าการอยากมีอยากเป็นมันบาปมากเลยเหรอค่ะ รู้สึกสับสนมากๆเลยค่ะ นมัสการขอบพระคุณค่ะ
ชื่อผู้ถาม
มะอิมิจัง
วันที่เขียน
27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 21:46:40
จำนวนคนเข้าดู
988

คำตอบ

คำตอบที่ 1
เข้าใจผิดแล้ว ความอยากไม่ได้เป็นบาปอะไร แต่มันอาจนำให้ไปทำบาปได้ ถ้าไม่มีสติรู้เท่าทันมัน

ความอยากมีสองแบบคือ แบบตัณหา อยากแบบที่พูดมา กับ อีกอย่างคือ ธรรมฉันทะ เป็นความอยากพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าให้ประสบความสำเร็จ โดยไม่เบียดเบียนคนอื่น

คนที่ไม่ทำอะไร เพราะเข้าใจผิด นี่สิ ทำให้เสียโอกาส

การอยากประสบความสำเร็จ อยากมีความสุขที่ประณีตยิ่งขึ้น ต้องการมีความสุขที่ปราศจากสิ่งบำรุงบำเรอหรือกามวัตถุ ยิ่งดีเข้าไปอีก

โดยสรุป
เมื่อเรามีร่างกาย ร่างกายต้องการข้าวน้ำ ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เราก็หามาเพื่อดูแลร่างกายนี้  ดูแลไปทำไหม เพื่อให้ร่างกายนี้สร้างความสำเร็จที่ดียิ่งขึ้นที่ปราณีตยิ่งขึ้นต่อไป

สุขมี 3 ระดับคือ
1. กามสุข ความสุขจากมีเครื่องบำรุงบำเรอทางตา หู จมูก ลิ้น สัมผัส
2. ฌานสุข ความสุขจากสมาธิจิตภาวนา
3. ญาณสุข ความสุขจากปัญญา ความรู้เท่าทันสังขารและความเป็นไปของโลกต่าง ๆ

มีอะไรทีจะต้องทำ ให้เร่งรีบทำด้วยความรอบคอบโดยด่วนเลย อย่าโลเล เสียเวลาเปล่า
ให้เลิกเข้าใจผิด ๆ เสีย

ฝึกฟังและฝึกปฏิบัติตามนี้ทุก ๆ วัน จะช่วยได้มาก
http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 22:01:22
คำตอบที่ 2
ต่อไปจะได้เลิกเข้าใจผิดเสียที นมัสการขอบพระคุณมากค่ะ
ชื่อผู้ตอบ
มะอิมิจัง
วันที่เขียน
27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 22:33:45
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร