ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

หนี้สินล้นตัวไปหมด+ค้าขายไม่ดี+รายได้ไม่พอกับรายจ่าย
รายละเอียด
ผมมีอาชีพค้าขาย ตั้งแต่มีม็อบปิดกรุงเทพ ผมเริ่มขายของไม่ดี เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวไร่ชาวนา เงินจำนำข้าวไม่ได้ ลูกค้าไม่มีเงินมาซื้อของ พอมาถึงต้นปี 57 หมดเงินลงทุน ต้องไปกู้เงินนอกระบบ (ผมซื้อบ้านก่อนมีม็อบ 2 เดือนกู้แบงค์) ส่งเป็นรายวัน ขายของไปส่งรายวันไป ขายของไม่ดีชักเงินออกจนหมด พอส่งหมดก็ต้องหาเงินไปลงทุนใหม่ กู้อีก จนหมุนเงินไม่ทัน เริ่มมีหนี้มากขึ้น มีคนแนะนำให้ไปออกมอเตอร์ไซค์ ได้มา 25000 จากราคารถ 60000 แต่ผ่อนต่อไปเรื่อยๆ ได้เงินมาไปใช้หนี้ แต่ไม่มีเงินลงทุน ไปออกมาอีก ได้เงินมาลงทุนกลับขายของไม่ดี หนี้สินเพิ่มอีกเพราะต้องผ่อนรถเพิ่ม พอกลางปี 57 โดนโกงแชร์ ต้องรับผิดชอบ ไปให้ญาติออกรถมาอีกทำเหมือนเดิม ใช้หนี้เขา ตอนนี้แย่มากผลมาจากขายของไม่ดี หนี้สินเพิ่ม เคยคิดฆ่าตัวตายก็เป็นห่วงคนข้างหลัง ทั้งลูก และคนที่เราเอาชื่อเขาไปออกรถ ตอนนี้มีบ้านก็อยู่ไม่ได้ ต้องหลบๆซ่อนๆ น้ำโดนตัดไปแล้ว อีกไม่นานคงไฟฟ้า ไม่อยากเอาเรื่องไม่สบายใจไปเล่าให้พ่อแม่รับรู้ เพราะเขาก็แย่ ผมไม่รู้จะต้องทำอย่างไร จะอยู่บนโลกนี้แบบไหน อนาคตลูกผมจะเป็นยังไง
ความต้องการ
" ชี้ทางออกให้ผมที "
ชื่อผู้ถาม
จุ้ย
วันที่เขียน
24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 00:45:46
จำนวนคนเข้าดู
5798

คำตอบ

คำตอบที่ 1
ต้องยอมรับความจริงก่อน อย่าคิดหนี อย่าปกปิดตัวเอง

1. คุยกับทุกคน กับพ่อแม่ ว่า เรามีหนี้สินแบบนี้ ๆ แต่ไม่จำเป็นว่า จะต้องให้เขาช่วย เล่าให้ฟังแล้วก็บอกว่า กำลังหาทางแก้ เขาอาจทุกข์ร้อนใจบ้าง แต่ไม่เสียหายอะไรหรอก เพราะหนี้พวกนี้เป็นส่ิงที่คุณก่อขึ้น ไม่ใช่หนี้ของพ่อแม่ การเปิดเผยตรงไปตรงมา จะทำให้เราไม่กดดัน ไม่เก็บกด พ่อแม่หรือใคร ๆ ที่รู้เรื่องจะบ่น จะด่า จะว่า จะซ้ำเติมบ้าง ก็ช่างเขา ไม่ต้องไปโต้ตอบ เพราะเรื่องมันเกิดมาแล้ว  หน้าที่เราคือหาทางแก้ไข

2. เรื่องรถ อาจต้องไปคืนร้านเขา เจรจาว่าเราผ่อนต่อไม่ไหว ให้รถเขาคืน ทำสัญญาให้จบกัน ไม่ต้องมีภาระต้องจ่ายอะไรเขาอีก ต้องถามว่า ถ้าไม่มีรถคันนี้ คุณไปค้าขายอะไรได้ไหม 

3. การค้าขาย คงต้องเปลี่ยนสินค้า และเปลี่ยนที่ขายใหม่ คุณอาจต้องยอมเปลี่ยนแล้วละ เพราะอยู่แบบเดิม ทำแบบเดิม มันใช้การไม่ได้แล้ว บางทีคุณอาจจำเป็นต้องไปทำงานอื่น ๆ ไกล ๆ บ้าน ก็ต้องอดทนและต้องรีบตัดสินใจ

4. หนี้บ้าน ค้างอยู่เท่าไหร่  ต้องรีบไปเจรจากับเขา 

5. หนี้ นอกระบบต่าง ๆ ต้องรีบไปคุย ทำเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ทุกราย ว่า เงินต้นเท่าไหร่ ดอกเท่าไหร่ จ่ายไปแล้วเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ และทำสัญญาว่า เราจะหามาใช้คืนให้ได้ ขอผ่อนผันไป 

6. ถ้าจำเป็นจริง ๆ ถ้าเป็นภาระมากจริง ๆ อาจต้องขายบ้านออกไป หรือไปคุยกับธนาคารเจ้าของบ้านว่า เราไม่ไหว จะขอคืน เพื่อลดการกดกัน บ้านนั้น เมื่อเรามีค่อยหาซื้อใหม่ได้

สรุปคือ คืนบ้าน คืนรถ 
หาเงินมาใช้หนี้ที่เรากู้ยืมมาให้หมด 
อย่าไปทำให้คนที่เราเอาชื่อเขามาซื้อของต้องเสียหาย เพราะมันจะพันกันไปหมด จะทำให้เขาเสียเครดิต ไม่สามารถไปทำธุรกรรมการเงินอะไรได้ จะมี บูโรติดตัว

เราต้องเข้าใจเขาว่า เขาใจดีมากแล้ว ที่ให้เราใช้ชื่อ ดังนั้น เราอย่าให้เขามาเสียชื่อ มาพังเพราะเรา

ไม่ว่ามีปัญหาชีวิตแบบใด มีหนี้สินมากน้อยขนาดไหน ขอให้อดทน เพราะทุกสิ่งอย่างมันไม่ได้เกิดขึ้นมาเองแบบลอย ๆ แต่มันเกิดเพราะเราสร้างขึ้น เราอยากได้อยากมี ซึ่งก็เป็นปกติชีวิตคนเรา แต่เราไม่สามารถหาเงินมาเติมไปสิ่งที่กู้ได้แค่นั้น มันก็เลยมีปัญหากันบ้าง ซึงก็มีหลายคนที่มีแบบนี้ แต่เราก็ต้องอดทน หาทางแก้ไขปัญหาให้ได้ 

อย่าปกปิดตัวเอง ให้เปิดหน้าคุยกับทุกคน อย่าไปคิดอยากฆ่าตัวตาย เพราะแสดงว่า เราไม่เก่งจริง อ่อนแอ ตอนที่มีเงินมีรายได้ดี ๆ มีชื่อเสียงหน้าตามีความสุข  เรายังไม่คิดฆ่าตัวตาย แค่มีหนี้สิน มีปัญหาเข้ามา กลับไม่สามารถสู้กับความจริงได้ จะหนีไปปลิดชีวิตตัวเอง แบบนี้ ใช้ไม่ได้

เป็นคน ต้องกล้ารับ กล้าสุ้กับปัญหา ไม่ใช่หนีปัญหา ทิ้งให้ลูกมีปมด้อย พ่อหนีไป
เราต้องทำให้ลูกอบอุ่น เข้มแข็ง ทำให้เมียอบอุ่นเข้มแข็ง
เป็นผู้นำครอบครัวทั้งกายและใจ 
ทุกข์แค่ไหน จนแค่ไหนก็ตาม ต้องอดทน อย่าไปทำส่ิงผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม
พูดจาให้สุภาพนุ่มนวลกับทุกคน นอบน้อม ขอโอกาส ขอโทษทุกคน
อย่าถือตัว ทำทีใหญ่โต โดยเฉพาะกับลูกเมีย อย่าโมโหหงุดหงิดคิดว่า เขาเป็นที่ระบายอารมณ์ของเรา

อดทนสู้ มองหาโอกาส ประหยัด  เข็มแข็ง มีสติ ไม่โวยวาย ไม่บ่นเพ้อ ไม่เฟ้อฝัน ไม่ซึมเซา ไม่เอาแต่โทษคนโน้นคนนี้ ไม่เอาแต่โทษเวรกรรม ไม่ต้องโทษตัวเอง ไม่ต้องโทษใคร เรารุ้ปัญหาแล้ว ก็หาทางแก้ปัญหา คือ ไม่สร้างหนี้ใหม่ ขายของที่มีออก ปลดหนี้ที่มีออก หาเงินมาใช้หนี้เขาให้หมดก่อน 

จำไว้ เมื่อเราสร้างปัญหาได้ เราก็จะแก้ปัญหาได้
มีสติ มีปัญญา หาข้อมูลให้เป็น ทำแบบนี้ ไม่นานหรอก คุณก็จะเคลียร์หนี้สินจบสิ้น 
จำไว้ว่า ถ้ามีหนี้ไม่ถึง 9 แสนล้าน อย่าท้อ หนี้ 4-5 พันล้าน จิ๊บ ๆ ไม่นานก็หมด

ฝึกกราบพระ ฝึกสวดมนต์ ฝึกภาวนา ฝึกแผ่เมตตา ฝึกให้อภัย ฝึกตักบาตร ตอนเช้า ๆ ทำบ่อย ๆ
สิ่งเหล่านี้ มองไม่เห็น แต่เมื่อองค์ประกอบพร้อม ก็จะมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นกับเราแบบไม่น่าเชื่อ

ฝึกฟังและฝึกปฏิบัติตามนี้ ทุก ๆวัน จะช่วยได้มา
http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 10:52:41
คำตอบที่ 2
ขอบคุณครับ ทุกวันนี้ผมสวดมนต์เกือบทุกคืน ทำสังฆทาน ปล่อยปลา เป็นประจำ เมื่อก่อนตอนมีเงินหาเงินง่ายผมบุญบ่อยมาก ใครเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือถ้าไม่เกินกำลังก็ช่วยหมด ซื้อข้าวสารอาหารแห้งช่วยคนถูกน้ำท่วม หวังว่าบุญที่ทำไว้เวลาเราตกอับจะมีคนช่วยเราบ้าง เรื่องรถมอเตอร์ไซค์ถอยออกมาให้เขาเอาไปขายนอกหมดแล้วไม่มีจะคืนครับ
ชื่อผู้ตอบ
จุ้ย
วันที่เขียน
24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 20:23:14
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร