ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

เรื่องสมาธิ
รายละเอียด
กราบนมัสการ ค่ะ หนูมีคำถาม ดังนี้ ค่ะ 1. หนูนั่งสมาธิ ค่ะ นึกถึง พระหลายๆ รูป ที่สอน เรื่องกำหนดลมหายใจ เข้าออก ให้คิดถึง ลมหายใจ เข้า - ออก (จมูก หัวใจ ปอด) --> (ปอด หัวใจ จมูก) หนูไม่เข้าใจค่ะ และก็ทำไม่ค่อยได้ ด้วย มีวิธีง่ายๆ มั๊ยคะ 2. เราทำเพื่ออะไรคะ คือ ทำแล้ว ได้ขึ้นสวรรค์ อะไรที่เราทำไม่ดี ก็จะหายจริงๆ เหรอค่ะ เห็นพระดังๆ หลายๆ รูป บอกว่า การเจริญกรรมฐาน แก้กรรมได้จริงๆ มันก็ไม่ต่างกับศาสนาคริตส์ ใช่มั๊ยค่ะ คือล้างบาปแล้วได้ขึ้นสวรรค์ หนูสงสัยมานานมากเลยค่ะ มีโอกาสเจอเว็บไซด์ นี้ เลยขอปรึกษา ปัญหา ด้วยคะ
ความต้องการ
รบกวน ตอบ แบบง่ายๆ ให้ดูเข้าใจด้วย ค่ะ ถ้าหนูสงสัยอะไร หนูขอเข้ามาถามอีกคะ
ชื่อผู้ถาม
น้องใจเดียว
วันที่เขียน
4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 10:43:06
จำนวนคนเข้าดู
1155

คำตอบ

คำตอบที่ 1

ถามว่า การกำหนดลมหายใจเข้าออก “จมูก-หัวใจ-ปอด” นั้น  อธิบายเป็นข้อๆ ง่ายๆ ดังนี้ครับ

1.เนื่องจากลมเป็นของละเอียดมาก มองไม่เห็น จับต้องได้ยาก  ดังนั้นครูอาจารย์จึงใช้เทคนิคให้ฝึกง่ายขึ้นโดยให้
ผู้นั่งสมาธิใช้สติ ติดตามลมตั้งแต่ลมเข้าจนกระทั่งลมออก
 
ลมขาเข้า
สูดลมหายใจเข้า ลมก็จะผ่านรูจมูก  ก็ให้กำหนดรู้ที่ “จมูก”
ลมผ่านลงมากลางอก ก็ให้กำหนดรู้ที่ “หัวใจ”
ลมหายใจสุดภายในท้อง ก็ให้กำหนดรู้ที่ “ปอด”
 
ลมขาออก
ลมหายใจเริ่มออกจากในท้อง ก็ให้กำหนดรู้ที่ “ปอด”
ลมผ่านลงมากลางอก ก็ให้กำหนดรู้ที่ “หัวใจ”
สูดลมหายใจปล่อยออกสู่บรรยากาศ ลมก็จะผ่านรูจมูก  ก็ให้กำหนดรู้ที่ “จมูก”
 
 
บางสำนัก ก็ไม่ได้กำหนดเป็น “จมูก-หัวใจ-ปอด” 
อาจกำหนดเป็น “ปลายจมูก-กลางอก-ท้อง”
ซึ่งก็แล้วแต่สำนักจะออกแบบกันได้ไม่มีบังคับชื่อเรียกอวัยวะแต่ประการใด 
สาระสำคัญอยู่ที่การ “มีสติ ระลึกรู้ เท่าทันกับการเคลื่อนไหลของลมหายใจเข้าออกผ่านจุดต่างๆ”
 
2.ถ้าหนูนั่งสมาธิแล้วไม่ถนัดกับการตามลมหายใจ(เค้าเรียกว่า อานาปาณสติกรรมฐาน)  ก็สามารถฝึกสมาธิด้วยวิธีอื่นๆมากมาย
พระพุทธเจ้าได้ให้แนวทางนั่งสมาธิไว้ 40 วิธี  ซึ่งการที่จะเลือกใช้วิธีใดนั้น ขึ้นอยู่กับพื้นนิสัยใจคอ(เค้าเรียกว่า จริตนิสัย)
หากเลือกวิธีนั่งสมาธิได้ถูกกับนิสัยใจคอ ก็จะทำให้มีผลก้าวหน้าได้เร็วครับ
 
สำหรับแนวทางการนั่งสมาธิ 40 วิธี (เรียกว่า กรรมฐาน 40)  สามารถ Search หาใน Google ได้ครับ
ซึ่งแต่ละวิธีก็จะเหมาะกับบุคคลต่างๆกันไป
 
อย่างไรก็ตาม มีวิธีนั่งสมาธิอยู่บางวิธี ที่เป็นวิธีกลางๆเหมาะกับผู้คนส่วนใหญ่ เป็น Super Highway และเป็นวิธีที่นำตัวเราไปจนถึงที่สุดแห่งการพ้นทุกข์ได้ นั่นคือ
การปฏิบัติตามแนวทาง “สติปัฏฐาน”   ครับ   หรือ อาจจะเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.vipassanathai.org/main.php?url=about1&code=about1
 
 
3. ทำไปเพื่ออะไร  เพื่อขึ้นสวรรค์  แก้กรรม ฯลฯ  ตอบที่ละข้อครับ

3.1 ทำไปเพื่ออะไร : เพื่อสร้างจิตของเราให้มีคุณภาพครับ หนูเคยนั่งเรียนในห้องแล้ววันนั้นจิตใจมีสมาธิดีตั้งใจฟังอาจารย์ไหมครับ ถ้าจิตใจมีสมาธิดีเรียนอะไรก็เข้าใจได้เร็วกว่าวันที่นั่งคุยกับเพื่อน
ถ้าหนูขับรถเป็น วันไหนที่มีสมาธิในการขับรถก็จะปลอดภัยกว่าวันที่จิตใจว้าวุ่น คิดมาก
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า จิตใจที่มีสมาธิจะสร้างประโยชน์ได้มาก  อีกหน่อยหนูต้องโตขึ้น เรียนจบ ทำงาน ก็ต้องใช้สมาธิในการทำงาน งานจึงออกมาดี ได้เงินเดือนดี ฯลฯ
สรุป คือ การนั่งสมาธิ คือ การฝึกหัดจิตใจให้มีคุณภาพ มีพลัง ควรแก่การเรียน การทำงาน ครับ
 
3.2 ขึ้นสวรรค์ได้ไหม  : ได้ครับ ถ้าหนูเชื่อเรื่องโลกนี้โลกหน้า และเชื่อเรื่องกรรมดีกรรมชั่วนะครับ
ขอยกตัวอย่างง่ายๆ เหมือนหนูมีกระติกน้ำ 1 ใบใส่น้ำไว้นิดเดียว  แล้วหนูตักเกลือใส่ลงไป 1 ช้อนใหญ่  น้ำในกระติกก็จะเค็มมาก  ใช่ไหมครับ
ถ้าเราเปรียบเทียบว่า
เกลือ คือ กรรมชั่ว
น้ำเปล่า คือ  กรรมดี
เมื่อไหร่ที่เกลือมากๆ(บาปมาก)  น้ำน้อยๆ(บุญน้อย)   น้ำในกระติกก็จะเค็มมาก(ชีวิตก็จะเสวยบาปมาก)
 
ทีนี้ ถ้าหนูเอาน้ำเปล่า (บุญ) เติมลงไปมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ        น้ำในกระติกก็จะเค็มลดลงเรื่อยๆ ทั้งๆที่ยังมีเกลือ(บาป) อยู่เท่าเดิม
 
บาปกรรมลบล้างไม่ได้  แต่ทำให้เจือจางลงไปได้ ด้วยการเอาบุญเติมลงไปเรื่อยๆครับ
 
การสร้างบุญบารมี นั้น  พระพุทธเจ้าสอนไว้ให้ทำครบ 3 องค์ประกอบ คือ
-การทำทาน เช่น ให้ทรัพย์เป็นทาน   ให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน   ให้ธรรมะเป็นทาน  ให้อภัยเป็นทาน ฯลฯ
-การรักษาศีล 5 สำหรับชาวบ้าน
-การภาวนา สวดมนต์ นั่งสมาธิ
 
เมื่อทำครบ 3 องค์ประกอบทุกวัน ก็จะได้บุญครบถ้วนครับ
 
3.3 แก้กรรม ได้ไหม : แก้กรรมในเชิงลบล้างให้หมดไปไม่ได้ครับ  แต่เป็นการเจือจางกรรมชั่วตามที่อธิบายในข้อ 3.2 ครับ
แต่อยู่ที่ขนาดของก้อนเกลือด้วยนะครับ ถ้าเกลือ(บาป) ก้อนใหญ่มากๆ จากกรรมชั่วหนักๆ เช่น ฆ่าคน ทำร้ายพ่อแม่ ฯลฯ   ก็คงเจือจางได้ยากมากครับ
 
4.เรื่องกรรมเป็นเรื่องซับซ้อนมากๆ บางทีด้วยตัวเราเองก็พิสูจน์ย้อนหลังไปอดีตชาติหนหลัง หรือ ชาติหน้า ไม่ได้
จึงอยากให้เราเน้น “ผลประโยชน์ ณ ปัจจุบัน” เป็นหลัก ก่อนนะครับ

ทำวันนี้(ชาตินี้)ให้ดี  พรุ่งนี้(ชาติหน้า)ก็จะดีตาม ครับ.....น้องใจเดียวเองมาได้ถูกทางแล้วครับที่สนใจในการพัฒนาจิตให้มีคุณภาพ เพราะ จิตที่มีคุณภาพจะทำกิจการงานสิ่งใดก็ประสบแต่ความสำเร็จได้ง่ายกว่าจิตที่ไม่มีคุณภาพ..... อนุโมทนาด้วยนะครับ

ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 399
วันที่เขียน
4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 13:12:02
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร