ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

ปัญหาครอบครัว
รายละเอียด
ตอนนี้ดิฉั๊นมีครอบครัว มีลูก2คน มีสามี ที่รักและเป็นห่วงดิฉั๊นมากกว่าชีวิตของเค้า ดิฉั๊นเป็นหนี้ค่ะ หนี้นอกระบบ หลายเจ้า สุดท้าย เอาของเจ้านั้นมาปิดเจ้านี้ วกไปวนมา จนดอกกับต้นวนมาชนกัน จนเป็นหนี้มากมาย หาทางออกไม่ได้ สุดท้าย ก็เครียดมาก ถึกมากที่สุด เพราะ สามีไม่ชอบให้สร้างหนี้ ไม่ชอบให้โกหกปิดบัง มีอะไรให้บอก เพราะเค้าเคยช่วยเคลียร์หนี้ให้แล้วรอบนึง และ สามีขอให้ดิฉั๊นรับปากเค้าว่า จะไม่ก่อหนี้เพิ่มอีก และถ้าก่อหนี้อีก คือ ต้องเลิกกัน และเค้าจะไม่ช่วยอีกแล้ว เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี เงินเดือนน้อย ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ดิฉั๊นก็หันไปพึ่งการกู้หนี้นอกระบบมาอีก และ ที่สำคัญ สามีไม่รู้ 1.กลัวสามีรู้เรื่องที่ดิฉั๊นก่อหนี้ พยายามปิดบัง จนเป็นทุกข์ และหาทางออกไม่ได้ 2.พยายามหาทางปิดหนี้ โดย คิดคนเดียว หาทางออกคนเดียว สุดท้ายก็ เครียด จบปัญหาไม่ได้ 3.กลัวเจ้าหนี้จะติดต่อมาทางสามี เมื่อดิฉั๊นหาดอกส่งเจ้าหนี้ไม่ได้ 4.แม้พ่อแม่ก็ไม่เคยรู้ว่าดิฉั๊นติดหนี้นอกระบบ เพราะไม่อยากให้ท่านเป็นทุกข์ ท่านเหนื่อยมามาก และแก่มากแล้ว ดิฉั๊นอยากระบายอยากเล่าให้ใครซักคนฟัง แต่ พอมองหน้าคนที่อยาหเล่าแล้ว ก็เกิดอาการกลัว ตัวสั่น หน้าชา คนๆนั้น คือ สามีอันเป็นที่รักของดิฉั๊นเอง เพราะเค้าให้อภัยดิฉั๊นมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ดิฉั๊นเลยคิดว่า ดิฉั๊นทำไมเลวได้เช่นนี้ ทำร้ายความรู้สึกของคนที่รักดิฉั๊นได้ถึงเพียงนี้หรือ
ความต้องการ
1.อยากระบายความเครียด 2.อยากหาทางออกเรื่องหนี้สิน 3.อยากเปิดใจคุยกับสามี แต่ กลัวเหลือเกิน กลัวมาก กลัวการสูญเสีย กลัวการแตกหัก กลัวอารมณ์ 4.กลัวเวรกรรม อันนี้กลัวมาก
ชื่อผู้ถาม
บังอร
วันที่เขียน
21 ตุลาคม พ.ศ. 2557 14:28:38
จำนวนคนเข้าดู
3030

คำตอบ

คำตอบที่ 1
โอกาสชีวิตคนเรานั้น มีไม่มาก
ถ้าเราบริหารจัดการได้ ก็ไม่ต้องก่อหนี้
ความอยากรวยเร็ว ๆ อยากได้มาก ๆ ทำให้เราไปกู้หนี้สิน
และสุดท้ายหลายคนก็จะเครียดกับหนี้
แล้วหลายคนก็ยอมรับความจริงไม่ได้
ถือว่า คุณได้บทเรียนเรื่องนี้มากพอแล้ว จริง ๆ ควรเชื่อและปฏิบัติตามที่สามีบอก
เขาทำดีที่สุดแล้ว

ถ้าเราโกหก มันก็จะโกหกต่อเนื่องไปเป็นทอด ๆ นี่คือสิ่งที่เราจะต้องแก้ไข มุสาวาทา จึงเป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสบอกให้ปฏิบัติ

ต้องเข้าใจให้ถูก กรรมคือสิ่งที่เราทำ เรากู้หนี้เขา ก็เป็นกรรม
เมื่อทำอะไร จะต้องมีผลเสมอ เช่น เรากิน เราก็ได้สัมผัสว่า รสชาติเป็นอย่างไร
ถ้า 5 ปีก่อน เราไม่กู้ใคร วันนี้่ เราก็ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องวิ่งหนีใคร

อย่าอาย จงยอมรับความจริง
หาวิธีพูดกับเขา ขอโทษ อย่ารอให้สายเกินไป
ผัวเมียกัน บางทีเขาอาจพอให้อภัยเราได้ แต่ครั้งนี้ควรเป็นครั้งสุดท้ายจริง ๆ
แต่ถ้าเขาไม่ให้อภัยคุณ เขาจะเลิก ก็เลิกไปเถอะ เพื่อให้เขาและลูก ๆ ไม่ต้องมาจมกับเรา ให้สามีและลูกเดินหน้าไป
ส่วนคุณก็ต้องอดทน ไปทำงานใหม่

ชีวิตคือการเดินหน้า อย่าเดินย่ำเท้าซ้ำ ๆ ถ้ารู้ว่าผิดพลาด ต้องรีบแก้ไขทันที
อย่ากลัวความจริง อย่าอายที่จะบอกความจริง
คนเราโลภได้ และบางทีเราอาจโลภเกินไป อยากได้ของใหม่ ๆ อยากได้หน้า อยากมีชื่อเสียงมากเกินไป ก็เลยสร้างหนี้
จงรู้จักและรู้ให้เท่าทันความอยากของตัวเอง

ทุกสิ่งอย่างเปลี่ยนแปลงได้ แก้ไขได้
แต่ก็ต้องยอมรับความจริงก่อน
อย่าฝืนความจริง อย่าหลอกใครแม้กระทั่งตัวเอง
ขอให้กำลังใจ สู้ ลุย แก้ปัญหานี้สินต่อไป หารายได้ให้มากขึ้น แต่ต้องถูกศีลธรรมกฎหมาย

แนะนำให้ฟังสิ่งนี้ http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143

แนะนำให้ไปศึกษาธรรมที่วัดสักระยะ (ไปนั่งสมาธิ เดินจงกรม เจริญสติภาวนา)
แนะตรงนี้  http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews3&newsid=195
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 00:16:57
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร