ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

ไม่เข้าใจ
รายละเอียด
พ่อกับแม่แยกทางกัน หนูกับพี่ชายอยู่กับพ่อมาตลอด จนพ่อไปทำงานที่ระยอง หนูกับพี่ชายอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าที่จังหวัดนนทบุรี ทุกเดือนพ่อจะโอนเงินค่าห้องมาให้ทุกเดือน เดือนละ3พันบาท ปู่จะโอนเงินมาให้เดือนละ 2พันบาท ช่วยเพราะรู้ว่าที่บ้านลำบาก แต่สมัยนี้มันก็ไม่พอ เพราะหนูอยู่กันสองคนพี่น้องไหนจะกินไหนจะเรียน ก็ต้องหาเงินเอง บ้างก็ต้องไปยืมญาติบ้าง ขโมยบ้าง หลอกเขามาบ้าง อยู่กันแบบสบายบ้าง ลำบากบ้าง 5-6เดือนที่พ่อไปทำงาน พ่อจะโทรกลับมาหาหนูทุกวัน ว่าอยากกลับ มีปัญหากับคนที่ระยอง แล้วพ่อก็กลับมา อยู่ได้2เดือน ก็เริ่มมีปัญหา เรื่องเงิน ช่วงที่พ่อกลับมาหนูก็มีแฟนคนนึง เวลาไม่มีเงินกิน ไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง หนูก็จะยืมแฟนหนูมาให้ก่อน ทุกครั้งหนูก็เอาเงินที่ปู่โอนให้2พัน มาใช้หนี้แฟน เป็นแบบนี้ทุกครั้ง จนเดือนที่ผ่านมา ค้างค่าเช่าห้อง2เดือน รวมๆก็6พันกว่าบาท หนูก็ยืมแฟนเคลียหนี้ ยืมมากินใช้ในบ้าน เพราะไม่มีใครทำงาน หนูก็คิดว่าปู่โอนมา ก็จะทะยอยคืนแฟน แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เลย พ่อโทรหาปู่บอกให้โอนเงินมาให้เขา ไม่ให้โอนให้หนู หนูก็เลยไปถามว่าทำไม พ่อก็โวยวายใช้คำหยาบกับหนู หาว่าเงินอยู่ที่หนูแล้วไม่มีใครได้ใช้ หนูก็ยอมเพราะรู้ว่าทำอะไรไม่ได้ หลังจากวันนั้น2วัน หนูก็ไปบอกพ่อ ว่าต้องคืนเงินให้แฟนหนูนะ ยืมมานานแล้ว เคลียไปก่อนค่อยยืมใหม่ จะได้ไม่หน้าเกลียด พ่อกับสวนหนูมาทันทีว่า "กูไม่ใช่คนยืม ทำไงกูต้องคืน มึงเป็นคนยืม มึงก็หามาคืนเองสิ" หนูก็เลยบอกพ่อไปว่า ก็จะเอาเงินปู่มาคืนนี้ไง แต่พ่อเอาไปหนูจะหาที่ไหนมาคืนหละ พูดจบปุ๊บ พ่อก็ลากหนูจากที่นอน ไปหน้าห้อง จับหัวหนูกดลงกลับพื้น ตบหนู แล้วก็ด่าว่าหนู หาว่าหนูจะเอาเงินคนเดียว ว่าหนูโกหก สาระพัด ต่อหน้าพี่ชายที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ หนูจึงย้ายมาอยู่กับแม่ แต่แม่ก็ยังไม่เข้าใจหนู ถึงแม่จะรู้ว่าเป็นเรื่องจริง แต่แม่ก็ยังคิดว่าพ่อไม่ผิด ที่ทำกะหนูแบบนั้น แม่ก็ยกทุกอย่างมาพูดช่วยพ่อ ต้องให้หนูโดนฆ่าตายก่อหรอถึงจะ คิดว่าพ่อทำเกินไป
ความต้องการ
แค่หาที่ระบาย แค่อยากได้ความคิดเห็น อยากได้กำลังใจ อยากได้ที่ปรึกษา
ชื่อผู้ถาม
ดิว
วันที่เขียน
14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 02:34:45
จำนวนคนเข้าดู
1163

คำตอบ

คำตอบที่ 1
ชีวิตคนเรา จะหาความพร้อม ความครบถ้วนพอดีนั้น ยากอยู่
อย่างชีวิตหนู พ่อแม่ต้องเลิกรากัน แต่ยังดีที่มีพ่อกับปู่ช่วยได้บ้าง ถ้าไม่มีสองท่านนี้ หนูอาจลำบากหนักยิ่งขึ้นกว่านี้

ให้อภัยพ่อเสีย แล้วมามองดูว่า มีเหตุผลอะไร ทำไมชีวิตจึงเป็นแบบนี้
บางครั้ง เราอาจสรุปเอาเฉพาะหน้า แต่ที่แล้ว ๆ มายาวไกล ไกลเกินกว่าเราจะเข้าใจนั้น มันไกลมาก อาจชาติที่แล้ว 100 ชาติที่แล้ว หรือชาติเก่า ๆ นับไม่ถ้วน

จงเข้าใจอย่างหนึ่ง ในโลกนี้ คนที่ไม่เคยเป็นญาติกัน ไม่เคยเป็นพ่อแม่พี่น้องสามีภรรยากันนั้น ไม่มีเลย หมายว่า ทุกคนนั้นเคยเกิดเคยตายซ้ำแล้ว ๆ ซ้ำเล่า เคยเป็นโน่นนี่นั่นมาสารพัด

ทุกอย่างสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นกับทุกคนนั้น เพราะกรรมคือการกระทำของคนนั้น ๆ เอง
ทำไมตอนเรียนมหาวิทยาลัย บางคนเรียนเก่งจัง เพราะตอนเป็นเด็ก เขาฝึกทักษะในการเรียนมาดี 
ทำไม คนนี้มีเงินมีงานทำ เพราะเมื่อ 20 ปีก่อน เขาลำบาก และรู้จักหาช่องทางประกอบอาชีพ เขาประหยัด เขาอดทน เขาอดออม จึงมีวันนี้

ไม่มีอะไรง่ายในการชีวิต แต่ถ้าไม่ไม่ประมาท ไม่ท้อแท้ ไม่มัวแต่โทษเวรกรรม ไม่หวังรอโชคลาภ ไม่รอบุญวาสนาเก่า ๆ
แต่ลุย ลงมือทำในปัจจุบัน ชีวิตเราก็ก้าวหน้าได้

ใครทำกรรมอะไรไว้ ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี กรรมนั้น ๆ จะให้ผลแน่นอน แต่อาจให้ผลช้าหรือเร็วสลับผสมปนเปกันไป

ถ้าหนูโกหก หลอกลวงคนอื่น สักวัน ก็มีคนอื่นมาโกหกหลอกลวงหนู
ถ้าหนูขโมยของคนอื่น สักวัน คนอื่นก็จะมาขโมยของหนู
ถ้าหนูด่าคนอื่น คนอื่นก็จะด่าหนู
ถ้าหนูจริงใจซื่อสัตย์กับคนอื่น ไม่โกหกใคร ไม่หยิงฉวยของใคร ก็จะไม่มีใครทำมาแบบนั้นกับหนู

ให้เปลี่ยนวิธีคิดเสีย เปลี่ยนการกระทำเสีย 
ส่วนที่ทำ ๆ ไปแล้ว ก็รอรับผลของมัน ไม่เร็วก็ช้า มันก็จะมาถึงแน่นอน

กรรม สำคัญมาก อย่าประมาท อย่าคิดว่า ช่างมันเถอะ แค่นี้เอง...
เพราะเวลามันให้ผล ถ้าเป็นกรรมไม่ดี หนูจะเดือดร้อน และคร่ำครวญ แล้วก็จะตีโพยตีพายว่า "ทำไมเป็นอย่างนี้ ๆ ทำไมชีวิตฉันต้องเป็นอย่างนี้" 

จงสร้างกรรมดีไว้ จงพูดดี จงคิดดี
หมั่นเรียน หมั่นค้นคว้า หมันฝึกอาชีพติดตัว ไม่นานก็เจริญก้าวหน้าได้
อยากได้อะไร เมื่อไม่มีเงิน ก็ไม่ต้องไปซื้อ อดเอา 
ไม่เท่ ไม่ทันสมัย ไม่หรู ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร เราจะไปเห่อตามคนอื่นเขาทำไม

ความสุข อยู่ที่เราคิดอย่างไร เราทำอย่างไร เราพูดอย่างไร
ความสุข ไม่ต้องซื้อด้วยเงินทองเลย
ฝึกฟังและปฏิบัติตามนี้ แล้วหนูจะมีความสุข
http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 10:44:57
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร