หมายเหตุ สายด่วนชาวพุทธ

เครียดเรื่องสอบ กลัวสอบไม่ติด กลัวไม่มีที่เรียน
เดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงสำหรับชีวิตของคนในวัยเรียน นักเรียนจบ ป.6 ต้องสอบต่อ ม. 1 นักเรียนจบ ม.3 ต้องสอบต่อ ม.4 นักเรียนจบ ม.6 ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย  หลายคนในวัยเรียนต้องสอบแข่งขันเพื่อให้ได้เข้าเรียนในสถาบันที่ตัวเองคิดว่าดี หรือที่คนอื่นบอกว่าดี 

การสอบแข่งขันนั้น เป็นธรรมดาว่า เมื่อมีที่นั่งเรียนเพียงจำกัด สถาบันก็รับได้จำกัด
ถ้าเราอยากสอบเข้าได้ เราก็ต้องทำข้อสอบให้ได้ดี การทำข้อสอบให้ได้ดีนั้น เป็นผลมาจากการฝึกฝน ฝึกทักษะ ค้นคว้า ทำแบบฝึกหัดมาอย่างช่ำชองและมีเวลายาวนานเพียงพอ

การทำอะไรเร่ง ๆ ด่วน ๆ ตลอดทั้งปีไม่เตรียมการสอบ
แต่มาเตรียมเอาในระยะกระชั้นชิด จะเครียดและวิตกกังวลได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาสอบแล้ว ก็ต้องสอบ
และตั้งใจทำข้อสอบอย่างดีที่สุด แม้ว่าจะพร้อมหรือไม่พร้อมก็ตาม

ส่วนผลที่จะออกมา ไม่ว่าจะสอบได้หรือไม่ได้ ก็อย่าตื่นเต้นหรือเครียดเกินไป
ถ้าสอบเข้าได้ ก็ให้ตั้งใจเรียนต่อไปให้จบ หากสอบเข้าไม่ได้ ก็อย่าโทษตัวเองหรือโทษใครอื่น
ให้ไปมองหาสถาบันอื่น ๆ ที่เขาอาจยังรับอยู่แล้วรีบไปติดต่อเข้าเรียน 
เวลาที่สูญเสียไปนั้นน่าเสียดาย ถ้าไม่เรียนอะไรเลย

อย่าไปเสียเวลาเรื่องดวง เรื่องโชคชะตา เรื่องหมอดูหมอเดา
อย่าเสียเวลาเรื่องอธิษฐานขอพรให้เจ้าพ่อเจ้าแม่ เทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรที่ไหนให้มาช่วยเรา
เราต้องช่วยและทำด้วยตัวเราเอง อยากได้อะไรอยากเป็นอะไร ก็ฝึกเรียนรู้ลุยด้วยตัวเราเอง
อย่าไปเพาะนิสัยติดสินบน จัดเงินใส่ซองให้ใคร ถ้าพ่อแม่จะจัดซอง ให้รีบห้ามปรามอย่าทำ
ให้สอบเข้าเรียนด้วยความสามารถของตัวเราเอง
ถ้าสอบเข้าไม่ได้ก็ไม่ต้องไปเรียนที่นั่น ต้องยอมรับแล้วไปหาที่เรียนใหม่

จงรำลึกไว้เสมอว่า การเรียนหนังสือในระบบโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยเป็นเพียงการเรียนรู้ส่วนหนึ่งเท่านั้น
เมื่อเรียนจบมาก็ได้วุฒิตามที่เขากำหนดให้เท่านั้น
แต่ความรู้ที่แท้จริง ไม่มีใครจัดสอนให้ได้ แต่ละคนต้องอ่าน ต้องค้นคว้า ต้องทดลอง ต้องฝึกทักษะสร้างขึ้นเอง
ดังนั้น การศึกษานอกระบบด้วยตัวของเราเอง จึงเป็นสิ่งที่เราศึกษาเองได้ ไม่ต้องไปรอใครกระตุ้น

เมื่อเรารู้จริง ชำนาญจริง เราจะเกิดความมั่นใจ ไม่หวั่นเกรงอะไร
ไม่ว่าเราจะเรียนจบในระบบหรือไม่ได้เรียนอะไรในระบบเลยก็ตาม
เราจะสามารถทำงานได้ดี สามารถสร้างอาชีพได้ สร้างงานด้วยตัวเองได้
ไม่จำเป็นต้องไปเป็นลูกจ้างใครก็ได้ ทำอาชีพอิสระ สร้างสรรค์ผลงานเลิศ ๆ ออกมาเองก็ได้

คนจะประสบความสำเร็จคือคนที่ขยัน มุ่งมั่น ทุ่มเท และเอาจริงเอาจังเท่านั้น
ส่วนคนเหลาะแหละ ทำอะไรเล่น ๆ เพื่อให้ได้ชื่อว่าได้ทำแล้ว แม้จะเรียนจบสูง หรือเรียนจบหลายสถาบันแค่ไหนก็ยากจะประสบความสำเร็จได้ แม้จะมีปริญญาบัตรประกาศนียบัตรติดโก้รอบฝาบ้านก็ไม่มีประโยชน์อะไร

การผิดหวัง เป็นเรื่องปกติธรรมดา เมื่อผิดหวัง ให้รีบทำใจ ตัดใจ ปล่อยวาง อย่าเสียเวลานาน ให้รีบสร้างโอกาสใหม่ให้ตัวเอง
การสมหวัง เป็นเรื่องปกติธรรมดา เมื่อสมหวัง อย่าประมาทตื่นเต้นดีใจจนเกินไป ให้ข่มความรู้สึกลง เพราะวันหน้า เราอาจผิดหวังในเรื่องอื่น ๆ ก็ได้ ตราบใดที่เรายังไม่หมดลมหายใจ เราจะต้องได้พบกับความผิดหวังและความสมหวังคละเคล้ากันไปเสมอ
และคนโดยส่วนมาก จะได้พบความผิดหวังมากกว่าสมหวังเสมอ อันนี้เป็นธรรมดา ไม่ต้องแปลกประหลาดใจ ไม่ต้องไปร้องไห้คร่ำครวญ เมื่อผิดหวังไม่ได้ดังใจ

ไม่ว่าจะผิดหวัง หรือสมหวัง
ให้คิดเสมอว่า นี่คือประสบการณ์ของชีวิตที่ทุกคนจะได้พบเจอ ให้ปล่อยวางให้ได้ สร้างความมุ่งมั่นใหม่
ชีวิตคือประสบการณ์ที่ต่อเนื่องยาวนาน อย่าเพิ่งด่วนรีบสรุปอะไร เมื่อได้สมหวังดังใจนึก
อย่าเผลอสติกับความสำเร็จที่ได้มา ฝึกสติให้ไม่ประมาทในทุกการเคลื่อนไหวของตัวเอง

ความแข็งแรง ความหนุ่มสาวของเรา กาลเวลา สถานที่ หรือบุคคลอื่น ๆ ที่เราไปเกี่ยวข้องด้วย ไม่มีอะไรแน่นอน อย่ามั่นใจนัก
ทุกสิ่งแปรเปลี่ยนไปได้เสมอ คนที่ว่ารักกันแทบจะกลืนกิน พอวันเวลาผ่านไป ก็อาจทะเลาะวิวาท ทุบตี เลิกรา บางคู่รักถึงขนาดฆ่ากันก็มีอย่างที่เป็นข่าวให้เราได้เห็นอยู่แทบทุกวัน

จงสร้างกำลังใจให้ตัวเอง ด้วยตัวเอง อย่าหวังหรือรอกำลังใจจากใคร
อดทน ลุยไปด้วยความมุ่งมั่น แน่วแน่ มั่นคงต่อจุดหมาย ไม่ท้อแท้ 
ไม่นานเราก็ประสบความสำเร็จแน่นอน 
เขียนโดย : สายด่วนชาวพุทธ
เขียนเมื่อ : 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
อ่าน : 5726