สารภาพผิดกับสามี

รายละเอียด

ดิฉันสารภาพผิดกับสามีในเรื่องที่ทำผิดไว้มาก และสามีก็เคยทำผิดกับดิฉันเช่นกัน ที่ดิฉันตัดสินใจสารภาพ เพราะไม่อยากให้เขารู้สึกผิดอยู่คนเดียว ทำดีกับฉันอยู่ฝ่ายเดียว บางครั้งดิฉันทำดีกับเขา แต่เขาไม่ยอมทำ เขาบอกว่าเขารู้สึกผิดเลยไม่อยากให้ดิฉันดีกับเขาจนเกินไป ดิฉันคิดอยู่นาน จึงตัดสินใจสารภาพ เพราะมันเหมือนดิฉันกำลังเอาเปรียบเขาอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าที่ตัดสินใจครั้งนี้ มันถูกหรือผิด แต่ที่ดิฉันแน่ใจได้คือ เขาอาจไม่เหมือนเดิมแล้ว และจากนี้ความสัมพันธ์ของเรา จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เขาบอกว่าเขารัก รักฉัน และเจ็บมาก อย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน ดิฉันบอกว่า จะให้ทำยังไงก็ได้ ดิฉันเคารพการตัดสินใจของเขา เขาบอกว่าขอเวลาหน่อย แต่สิ่งที่ดิฉันแน่ใจคือ ดิฉันไม่มีวันทำผิดกับเขาอีก เพราะดิฉันรู้แล้ว ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ แค่เสี้ยวอารมณ์ชั่ววูบ มันย้อนกลับมาทำร้ายดิฉัน และคนที่รัก ได้มหาศาลขนาดนี้ เข็ดจริงๆมันเป็นแบบนี้เอง

ความต้องการ

ดิฉันต้องทำอย่างไรดีคะ ดิฉันรักเขา อยากให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม แนะนำทางให้ด้วยค่ะ คิดอะไรไม่ออกเลย สับสนมาก

ชื่อผู้ถาม

ผิดไปแล้ว

วันที่เขียน

9 มกราคม พ.ศ. 2557 08:49:55

จำนวนคนเข้าดู

1652

คำตอบที่ 1

จิตที่เป็นกุศล แม้ชั่วขณะหนึ่ง ย่อมจะนำพาชีวิตไปในทางที่ดีขึ้น 
ความกล้าหาญในการที่จะเดินไปข้างหน้า ยอมรับผลของการกระทำที่เราเคยทำผิดไว้
แม้ไม่มีใครเข้าใจ แต่สักวันใจเราก็จะหลุดพ้นในเร็ววัน เพราะเราจะไม่รู้สึกอึดอัด ไม่รู้สึกกระวนกระวาย ไม่รู้สึกกังวลใดๆทั้งนั้นเหมือนที่เคยเก็บความผิดนั้นไว้คนเดียวอีกแล้ว ไม่ต่างจากการที่เราโดนปลิงเกาะนั้นแหละ โดยเฉพาะผู้หญิง ไม่มีใครชอบสรีระมันนักหรอกใช่มั้ย แต่หากโดนมันกัดและดูดเลือดของเราไปทีละนิดๆ เราจะตัดใจกัดฟันหลับตาเสียสละมือไปสัมผัสตัวมันชั่ววินาทีเพื่อดึงมันออกไปให้พ้นจากตัวเราเสีย ไม่ให้มันทำร้ายเราอีก หรือเราจะปล่อยให่้มันทำร้ายเราอยู่ร่ำไป

ต้องขอชื่นชม คุณมีทั้งความกล้าหาญ และความรู้ดีรู้ชั่ว มีความละอาย และมีความปรารถนาดี มีความดีในตัวอยู่เต็มเปี่ยม คนที่เคยทำผิดหาใช่คนไม่ดี คนที่รู้ว่าอะไรผิด อะไรควรไม่ควร คนนั้นได้ชื่อว่าเกิดเป็นคน ซึ่งคุณได้ทำมันแล้ว ฉนั้นจงยิ้มให้กับตัวเองอย่างอกผายไหล่ผึ่งว่าคุณทำถูก 

บทเรียนถ้าทำให้ชีวิตจดจำและเอาไว้ห้ามตัวเองไม่ให้ทำมันอีก มันจะเป็นเกราะคุ้มครองให้เราเดินไปตามทางที่ดีๆ ต่อจากนี้เชื่อว่าสิ่งที่คุณจะได้แน่ๆ คือสติ ต่อไปนี้คุณจะมีสติในทุกๆการตัดสินใจ จะมีการยั้งคิดเสมอ เพราะเราได้รู้แล้ว 

ส่วนเรื่องความเสียใจ ความเสียดาย ลึกๆอาจมีบ้างใช่มั้ย ที่ความรู้สึกดิบๆ ของคนปกติอย่างเรามันคอยเรียกร้องออกมาว่า แหม ฉันไม่น่าบอกเค้าไปเลย ...ความว้าเหว่ เสียใจ หลังจากนี้ที่มันจะเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอุตสาหะในการฝ่ามันไปอีกขั้นตอนหนึ่ง

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจบอกความจริง สารภาพกับเค้าไปนั้น ในใจเรารู้อยู่แล้วว่าผลมันจะเป็นยังไงใช่มั้ย ธรรมชาติของผู้ชายอาจไม่เหมือนกับเรานะ ต้องเข้าใจในส่วนนี้ โดยไม่ต้องไปถามเค้าไม่เรียกร้องอะไรจากเค้า เวลาเราโกรธหรือเสียใจ บางทีเราเองยังอธิบายไม่ได้เลย เวลาเราโกรธเราเสียใจ หูก็เหมือนหนวก ตาก็เหมือนจะบอด ใครบอกใครพูดอะไร ก็ไม่รับรู้ทั้งนั้น

แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เสียงมันจะดังผุดขึ้นจากข้างในตัวของเราหรือเค้าเอง ว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องการ เมื่อถึงตอนนั้นควรต้องยอมรับมันนะ อย่ายึดมั่นถือมั่น อย่าเหนี่ยวรั้งโลกนี้ไว้กับตัวเรา มันจะเท่ากับเราเอามีดที่ผูกเชือกเอาไว้ปักมันลงที่กลางดวงใจของเรา แล้วไปแขวนไว้กับแกนโลก โลกมันหมุนไปเรื่อยๆของมัน เราจะเจ็บปวดแค่ไหน ความรักก็เช่นกัน จะดึงมีกออกจากออกไปเสีย แผลมันจะดีขึ้นๆ เราก็เป็นอิสระ ตอนนี้ห่วงดวงใจของเราที่สุด อยากให้ไปทางไหน ไม่มีใครบอกได้ นอกจากตัวเอง ลองไตร่ตรองดูก่อนนะ ถ้าเค้ารักเรา ไม่ว่ายังไง ในส่วนของเค้าเค้าต้องยอมรับในเรื่องของเราให้ได้ เพราะมันเกิดขึ้นแล้วแกไขอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเค้ายอมรับไม่ได้ อยู่กันไปก็มีแต่เราที่จะเสียใจ    

ในขณะที่คุณรับในสิ่งที่แฟนกระทำดีต่อคุณทั้งเพราะเค้าทำผิดต่อคุณ แต่ในใจคุณยังคิดละอายเพราะเหมือนเป็นการเอาเปรียบเค้า แทนที่คุณจะยิ้มอย่างเย่อหยิ่งที่ได้รับอะไรดีๆจากเค้า แทนที่คุณจะมัวคิดแค้นเค้า คุณกลับคิดกลัวว่าตัวเองจะเอาเปรียบแฟน นั่นเป็นจิตที่สูงส่ง

จงเชื่อมั่นในการตัดสินใจที่ปรารถนาดีของคุณ ถ้าผลของมัน ณ ตอนนี้มันไม่สวยงามนัก จงเข้มแข็งและยอมรับมัน เรื่องความรักมันละเอียดอ่อน ทุกคนก็มีความอดทนต่างกัน มีธรรมะในใจต่างกัน มีอารมณ์ต่างกัน มุมมองก็ต่างกัน 

คงต้องอาศัยเวลา และบุญทำกรรมแต่งส่งเสริมเอื้อหนุน เมื่อความไว้วางใจมันสึกกร่อน ก็ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างในการเสริมสร้างมันขึ้นมาใหม่ อาจต้องอาศัยเวลา หรือสถานการณ์ร่วมเป็นร่วมตายใดๆ มันคาดการณ์ไม่ได้ ความคิดความรู้สึกของคนอื่นเราบังคับเค้าไม่ได้นะ ข่มจิต ระงับอารมณ์ของเราง่ายที่สุด รับรู้ว่าตัวเองกำลังทุกข์ แต่อย่าไปเสริมเพิ่มทุกข์เข้าไปอีก 

คุณทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว คุณกล้าหาญมาก และเป็นคนดี จงเข้มแข็งและยิ้มให้ตัวเอง สักวันมันจะดีขึ้น เพราะผลของกรรมครั้งนั้น คุณรับมันไปแล้ว หมดกรรมไปแล้ว 

ชื่อผู้ตอบ

อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 299

วันที่เขียน

9 มกราคม พ.ศ. 2557 21:19:58