คำตอบที่ 1
๑. ตั้งเป้าหมายชีวิต วางแผน และดำเนินอย่างจริงจัง
๒. ไปในที่ที่เจริญใจ หรือได้กำลังใจ หรือได้คิด เช่น วัด บ้านพักคนชรา บ้านเด็กกำพร้า โรงพยาบาล
๓. รวบรวมรายชื่อคนดีที่รู้จักตั้งแต่เกิดมาจนถึงบัดนี้ ใครบ้าง และคนนั้นมีดีอะไร สิ่งใดที่เราประทับใจ
๔. ให้และเห็นความสำคัญกับงาน และคนที่อยู่ต่อหน้า
๕. เขียนประวัติของตนเองว่าหากเราต้องจากโลกไปในวันนี้ คนที่อยู่ข้างหลังจะกล่าวถึงเราว่าอย่างไร
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 88
วันที่เขียน
2 มีนาคม พ.ศ. 2556 01:13:09
คำตอบที่ 2
อย่าอยู่ในโลกของความคิด
จงอยู่ในโลกแห่งความจริง
จัดบ้านให้สะอาดเป็นระเบียบ
ตั้งใจล้างแก้ว อย่างไม่รีบร้อน สนใจล้างแบบอยู่กับการล้างเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
ใส่ใจเต็มที่ ร้อยเปอร์เซนต์กับสิ่งที่ทำ
หยุดเปรียบเทียบ
อย่าฝากความสุขไว้ที่ปากใคร สายตาใครขอให้พอใจในสิ่งที่ทำ
บริการผู้อื่นด้วยจริงใจ
ลองทำดู จะรู้ว่าความสุขอยู่ที่ใด
ชื่อผู้ตอบ
พระวิปัสสนาจารย์ 10
วันที่เขียน
2 มีนาคม พ.ศ. 2556 10:37:56
คำตอบที่ 3
คุณทำทุกอย่างดีแล้ว แต่คุณวิตกกังวลเพราะคนอื่น หยุดสิ่งเหล่านั้นครับแล้วอยู่กับปัจจุบัน
ความรู้ที่คุณมีอยู่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมากครับ อย่าคิดว่าเราจะได้อะไรจากสังคม
แต่ตั้งใจว่าเราจะให้อะไรแก่สังคม การศึกษาที่เราเรียนมาจะเกิดประโยชน์สูงสุดครับ
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 44
วันที่เขียน
4 มีนาคม พ.ศ. 2556 06:47:10
คำตอบที่ 4
คุณทำทุกอย่างดีแล้ว แต่คุณวิตกกังวลเพราะคนอื่น หยุดสิ่งเหล่านั้นครับแล้วอยู่กับปัจจุบัน
ความรู้ที่คุณมีอยู่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมากครับ อย่าคิดว่าเราจะได้อะไรจากสังคม
แต่ตั้งใจว่าเราจะให้อะไรแก่สังคม การศึกษาที่เราเรียนมาจะเกิดประโยชน์สูงสุดครับ
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 44
วันที่เขียน
4 มีนาคม พ.ศ. 2556 06:47:21
คำตอบที่ 5
คุณทำทุกอย่างดีแล้ว แต่คุณวิตกกังวลเพราะคนอื่น หยุดสิ่งเหล่านั้นครับแล้วอยู่กับปัจจุบัน
ความรู้ที่คุณมีอยู่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมากครับ อย่าคิดว่าเราจะได้อะไรจากสังคม
แต่ตั้งใจว่าเราจะให้อะไรแก่สังคม การศึกษาที่เราเรียนมาจะเกิดประโยชน์สูงสุดครับ
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 44
วันที่เขียน
4 มีนาคม พ.ศ. 2556 06:47:22
คำตอบที่ 6
๑
เรามาตัวเปล่านะ ไม่ได้เอาอะไรมาด้วย
จากไป ก็ไปตัวเปล่า
ที่อยู่นี้ จะเอาอะไร แสวงหาสิ่งใด
สิ่งที่ได้มา บางทีต้องสูญเสียไป ต้องทำใจและเข้าใจ
ให้พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเสมอด้วย
๒
ไม่สำคัญว่าได้อะไร หรือเป็นอะไร
สำคัญที่ว่า เราเต็มที่กับสิ่งที่ทำ พอใจกับสิ่งที่ได้หรือยัง
นั่น คือประตูแห่งความสุข
ต่อให้ได้ความเป็นจักรพรรดิ แต่ไม่ยินดี พอใจ ก้หาสุขไม่
แต่หากเป็นชาวนา สมหวัง พอใจ ในความเป็น ก้ย่อมหาสุขใด้
๓
ท่านอาจเข้าใจว่า อาชีพนั้น ตำแหน่งนั้น
สำคัญกว่า อาชีพนี้ ตำแหน่งนี้
แท้ที่จริง ความเป็นทุกอย่างไม่ต่างกันเลย มันก้แค่ความเป็น
สิ่งที่ทำให้ต่าง คือ เราคิดไปเอง ปรุงไปเอง
แท้ที่จริง ทุกสิ่งสำคัญเท่ากัน
และถ้าเราฉลาด ทุกสิ่งที่เราทำ ทุกภาวะที่เราเป็น จะให้ความสุขได้เท่ากัน
ความุขมีอยู่แล้ว
ความคิดของเราโยนมันไปข้างหน้าแล้ววิ่งตาม
ความสุขอยู่ในปัจจุบันขณะ
กับสิ่งที่ทำอยู่ เต็มร้อย
๔
ถ้าใจไม่เคยพอ ไม่เคยเห็นคุณค่า
ต่อให้เปลี่ยนคน เปลี่ยนงาน เปลี่ยนชีวิตร้อยพันอย่าง ร้อยพันครั้ง
ก็หาความสุขพบไม่
ความสุขอยู่กับเราตั้งแต่เกิด
แต่เรากลับไปมองหาความสุข ณ ที่อื่น
เลิกคิดว่าจะเป็นอะไร จึงจะมีสุข
แต่จงเป็นในสิ่งที่เป็นให้เต็มที่ รักและภูมิใจ พอใจ
ความสุขก็บังเกิดแล้วทันที
ที่นี่ เดี๋ยวนี้
ชื่อผู้ตอบ
พระวิปัสสนาจารย์ 10
วันที่เขียน
5 มีนาคม พ.ศ. 2556 16:40:20