ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

ชีวิตนี้เกิดมามีแต่ปัญหาเรื่องการเงิน
รายละเอียด
ที่บ้านมีปัญหาเรื่องค้าขาย ส่งดอกไม้สด...ขายไม่ดีเหมือนเมื่ออก่อน แฟนต้องเอารถไปจำนำ นอกระบบ ดอกเบี้ยโหดมาก ดอกไม้สดก่อไม่ค่อยได้ขาย รถ6ล้อออกมาก่อไม่ได้วิ่งคะ เมื่อก่อนเคยเคยเลี้ยงลูกสุนัขขาย ตอนนี้พอเลิกทำก่อเลี้ยงไว้เอง พันธุ์เล็ก 16ตัว ตอนนี้ลำบากมาก ช่วงอาทิตย์นี้ แย่มาก สวดมนต์ทุกวัน วันล่ะชั่วโมง ตอนนี้ก่อกู้นอกระบบร้อยล่ะ 20 จ่ายรายวันอีก วันนึงต้องคิดว่าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายรายวัน จะเอาเงินที่ไหนมาเช่าบ้าน ผ่อนรถ ค่าอาหารหมา คนอดได้แต่ไม่อยากให้สุนัขอด แฟนมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย อยากกรอกยาให้ทั้งเราทั้งสุนัข กินจะได้หนี้ปัญหา หนี้สินทั้งหมด. ..เมื่อก่อนที่เคยค้าขายดีปีก่อน เรา2คน ทำบุญ ถวายดอกไม้ หล่อพระ ถวายพระใหญ่ หมั่นสวดมนต์ แต่ทำไมทำดีไม่ได้ดีเลยคะ ช่วงที่เราเกิดปัญหามีเวลาว่าง จะชวนแฟนสวดมนต์ไปวัด...เก็บเงินซื้อข้าวสาร ถวายวัดตลอด จนแฟนบ่นท้อทำความดีไม่ได้ดีเลยคะ
ความต้องการ
ตอนนี้จะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไงดีคะ ทั้งสวดมนต์ ทั้งทำบุญก่อแล้ว หมั่นทำเป็นประจำด้วย แฟนบอกท้อจนเค้าไม่อยากทำต่อ ไม่อยากไหว้พระ สวดมนต์เลย น้อยใจชีวิตคะ ไม่รู้ว่าทำไมทำความดี ถึงไม่ได้รับผลดี ดวงถึงตกขนาดนี้ ตอนนี้แฟนบอกบางครั้งอยากแก้ปัญหาฆ่าตัวตาย แล้วเอายาพิษให้เรากินกับหมาที่เลี้ยงไว้ก่อน จะได้ไม่เป็นภาระกับคนอื่น
ชื่อผู้ถาม
ชนัญฑ์ณัฏฐ์
วันที่เขียน
6 ตุลาคม พ.ศ. 2561 08:33:49
จำนวนคนเข้าดู
1258

คำตอบ

คำตอบที่ 1
ปัญหาของทั้งสองคนผัวเมีย คือยังเข้าใจผิด ๆ อยู่มาก ต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ให้สมกับพุทธะ เป็นสัมมาทิฐิ 1. เรื่องของธุรกิจ ต้องแก้ด้วยวิธีทางธุรกิจ งานอะไรที่มันไม่ไหว ทำแล้วมีแต่จม ไม่ได้กำไร ก็ต้องเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น รับจ้างทำอย่างอื่น รถเราก็มี ลองติดต่อโรงงานต่าง ๆ ดู ถ้าเราเอารถไปวิ่งส่งของให้เขาจะดีกว่าไหม ลองคุยราคากันดู เช่น โรงงานน้ำดื่ม เขาต้องการคนส่งของตลอด ลองติดต่อไปดู มีหลายโรง โรงนี้ก็ได้ 0 2581 5732 โรงงานน้ำดื่มปทุมธานี 2. ลูกสุนัข เอาไปมอบให้คนอื่นเสีย เพราะเราเลี้ยงไม่ได้ คงมีคนอยากได้อยู่ ต้องตัดใจ ให้มันไปอยู่ดีกินดีดีกว่า มาอดกับเรา อย่ามาผูกมันไว้กับเรา 3. เงินกู้ ต้องงดเลย อย่ากู้อีก พยายามหาเงินด้วยตัวเราเอง ด้วยช่องทางเราเองดีกว่า ไม่ต้องไปกู้ใครอีกแล้ว เพราะจะไม่มีใช้เขา 4. ทำงานอื่น ๆ เพิ่มอีกพอได้ไหม เช่น ถ้าจะปรับรถของเรา ให้เป็นรถที่ขายอาหารตามสั่งได้ ทำใส่หม้อวิ่งไปจอดขายตามสถานที่ต่าง ๆ เห็นมีหลายคนทำอยู่นะ รถกระบะ เขาก็ทำ ปรับแต่งนิดหน่อย ก็ขายได้แล้ว ก็ต้องเหนื่อยทั้งนั้นแหละ ไม่มีอะไรที่ไม่เหนื่อย อดทนเอา 5. สวดมนต์ ..ต้องเข้าใจเรื่องการสวดมนต์ให้ถูก เราสวดมนต์ เพื่อให้จิตสงบ จิตเป็นสมาธิ ไม่ใช่สวดมนต์ให้เงินทองไหลมาหาเรา เมื่อเข้าใจผิด พอไม่ได้เงินทองตามที่คิดไว้ ก็สรุปผิดว่า สวดมนต์แล้ว ทำดีแล้ว ไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมา นี่คือเข้าใจผิด ต้องรีบแก้เสีย จิตที่สงบนั้น จะมีพลัง และทำอะไรก็ประสบความสำเร็จได้ง่าย นี่คือผลของการสวดมนต์ เขาสวดมนต์เพื่อให้จิตสงบ มั่นคง นี่คือจุดประสงค์ของการสวดมนต์ 6. รถมีหลายคัน ถ้าผ่อนไม่ไหว พอจะไปคุยกับไฟแนนซ์ แล้วคืนไปพอได้ไหม สักคันก็ยังดี เพื่อลดภาระ แล้วเราก็ค่อย ๆ ทำเรื่องใช้หนี้เขาไป รีบไปเจรจาดู ไม่ต้องกอดไว้ทุกอย่างหรอก ชีวิตคนเราปรับเปลี่ยนได้ เคยมีมาก พอเรามีน้อยแล้ว ก็กินอยู่แบบคนมีน้อยได้ 7. ชาวพุทธ คนที่มีสัมมาทิฐิ จะไม่คิดแบบนี้นะ "อยากฆ่าตัวตาย อยากกรอกยาให้ทั้งเราทั้งสุนัข กินจะได้หนี้ปัญหา หนี้สินทั้งหมด" เพราะหนี้ที่เราก่อนั้น ถ้าไม่ใช้เขา ตายไป หนี้ก็ติดไปด้วยนะ มันไม่ได้หายไปกับที่เราหมดลมหายใจ เกิดมาใหม่ ก็มาใช้หนี้เขาอยู่นั่นเอง อย่าคิดแบบนี้อีก เจออุปสรรคยุ่งยากอะไร ต้องอดทน เข้มแข็ง เข้าใจธรรมะให้ถูกต้อง และปฏิบัติธรรมะให้ถูกต้อง ต้องคิดแบบนี้ เมื่อเราก่อหนี้ได้ เราก็ใช้คืนเขาได้ ขยัน อ่านหนังสือให้มาก หาความรู้ ฝึกอบรม มองหาโอกาส แล้วลุยทำ ไม่ใช่จะมาคิดหนีหนี้แบบนั้น ไม่ถูก 8. "ทำบุญ ถวายดอกไม้ หล่อพระ ถวายพระใหญ่ หมั่นสวดมนต์ แต่ทำไมทำดีไม่ได้ดีเลย" ทำบุญ ที่เราเล่ามานั้น ทำเพื่อสละ ละความตระหนี่ ของเราเอง ไม่ใช่ทำเพื่อให้ได้นั่นได้นี่เป็นวัตถุสิ่งของเงินทองตอบแทนแบบที่เราคิด นี่คือปัญหาของเรา คือเข้าใจผิด คิดผิด สรุปผิด แล้วก็ไปโทษว่า ทำบุญแล้ว ทำดีแล้ว ไม่ได้ดี ทำดี มันก็ดีอยู่แล้ว มันถูกแล้ว ส่วนวัตถุสิ่งของต่างๆ นั้น ไม่ใช่เรื่องของบุญ ไม่เกี่ยวกัน อยากได้วัตถุสิ่งของ จะให้บุญบันดาลให้ มันไม่ได้ ไม่ถูกหลัก มันต้องลงมือทำ ทำงาน ซื้อหา มันจึงมีมาได้ 9. อย่าน้อยใจ อย่าเศร้าใจ อย่าเสียเวลาโทษนั่นนี่ คิดใหม่ แล้วลุยทำใหม่ดีกว่า เรื่องทางธุรกิจ ใช้วิธีทางธุรกิจจัดการ แม้เราจะสวดมนต์ทั้งวันทั้งคืนแล้วให้เงินไหลมาหาเรา ไม่มีทางหรอก ผิดหลัก คิดไม่ถูกต้อง ไม่เป็นสัมมาทิฐิ 10. เรื่องหนี้ ให้คิดว่า เราแค่เป็นหนี้นะ ไม่ใช่ฆาตกร เราไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก ไม่ต้องหนีเขา คุยกับเขา เจรจากัน ขอผ่อนผัน ผ่อนชำระก็ว่ากันไป ทั้งสองคน ช่วยกันตักเตือนกัน อย่าไปคิดผิด ๆ อีก รีบปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่ให้เป็นสัมมาทิฐิเลย จะได้ไม่เสียทีที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนา
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
6 ตุลาคม พ.ศ. 2561 11:48:40
คำตอบที่ 2
ชีวิตของเรา ไม่ว่าจะด้านดีหรือไม่ดี ก็เป็นบทเรียนให้คนอื่นได้ ชีวิตคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นด้านดีหรือด้านไม่ดี ก็เป็นบทเรียนให้เราได้ มันอยู่ที่ว่า เรารู้จักมองไหม เขาคนนั้นรู้จักมองไหม ตา มองให้เห็นจริง หู ฟังให้ได้ยินจริง ร่างกายสัมผัส ให้รู้จริง ๆ ธรรมะมีอยู่ทุกที่ ทุกลมหายใจเข้าออกของคนเรา ธรรมะ เป็นของฟรี ไม่ต้องซื้อ ขายให้กันไม่ได้ แค่เราใช้จิตของเราลงทุน ตั้งใจ ฝึกหัดและสร้างมันขึ้นมาในจิตของเรา คนอื่นยกธรรมะให้เราไม่ได้ ไม่มีใครสร้างธรรมะให้ใครได้ เราต้องฝึกเองทำเอง เหล่านี้คือธรรมะ สติ รู้ตัวจริงทุกขณะ ทุกอิริยาบถ สมาธิ ตั้งมั่นจริง ปัญญา รู้จริง วิริยะ ลุยทำจริง ขันติ อดทนได้จริง เมตตา รักชีวิตอื่นจริง กรุณา ช่วยเหลือชีวิตอื่นจริง มุทิตา ชื่นชมชีวิตอื่นจริง อุเบกขา ยึดหลักเที่ยงธรรมได้จริง แต่ละวัน ฝึกจิตตัวเอง ให้มั่นคง คล่องแคล่ว ว่องใจ แจ่มใสในธรรมะ ฝึกจิตให้เป็นอิสระ ไม่ให้จิตเป็นทาสของสิ่งเหล่านี้ " ความเหงา เศร้า ว้าเหว้ ซึม ท้อแท้ เสียใจ น้อยใจ เครียด แค้น เคือง จองเวร ผูกเวร คับแค้น โกรธ หงุดหงิด โมโห เก็บกด อิจฉา ริษยา เพ้อ ร้องไห้ คร่ำครวญ อยากตาย ไม่อยากอยู่ วิตก ฟุ้งซ่าน เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ มักมาก หลงติด เสพติด ยึดติด ถือตัว กระด้าง เกียจคร้าน มักง่าย ติดสบาย สำออย สำอาง" Print เอกสารนี้ แล้วอ่านทุกวัน ฝึกทุกวันทุกเช้าเย็น ทำต่อเนื่องไป 9 เดือนเป็นอย่างน้อย นี่คือวิธีการปรับเปลี่ยนระบบความคิดและพฤติกรรมของตนเอง ไปสู่ความก้าวหน้าและความสุขสูงสุดในชีวิต ดาวน์โหลด https://www.buddhisthotline.com/download/buddhisthotline-lifeway.pdf ดูตรงนี้ประกอบ https://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=212 และตรงนี้ https://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=210 และตรงนี้ https://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=209 และตรงนี้ https://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=17
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
6 ตุลาคม พ.ศ. 2561 11:50:13
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร