ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)
เบื่องานที่ทำ
รายละเอียด
กราบมนัสการพระอาจารย์
ดิฉันเบื่องานที่ทำอยู่มาก งานที่ดิฉันทำอยู่เป็นงานบริการ ดิฉันเบื่อหลายๆอย่างจนไม่อยากจะมาทำงาน ด้วยเนื้องานที่ต้องบริการรองรับอารมณ์ลูกค้า ไหนจะเพื่อนร่วมงาน ร่วมถึงเจ้านายมันเบื่อหน่ายไปเสียหมด บางครั้งเบื่อจนไม่อยากพูดกับใครได้แต่นั่งมองนาฬิการอเวลาเลิกงาน รอให้ถึงวันหยุดเร็วๆ หลายครั้งเครียดงานมาก จนนอนไม่หลับ อีกทั้งค่าตอบแทนก้อน้อยไม่ค่อยคุ้มค่าเหนื่อย อยากลองออกไปทำธุรกิจเล็กๆ ดิฉันเลยตัดสินใจจะยื่นใบลาออก แต่ก็ลังเลใจอยู่หลายครั้ง บางคนก็ไม่แนะนำให้ออก บางคนก็ให้อยู่ต่อ อีกใจหนึ่งก็กลัวธุรกิจจะไปไม่รอด
ความต้องการ
ต้องการจะเรียนถามพระอาจารย์ว่าดิฉันควรจะแก้ไขอย่างไรดี
ชื่อผู้ถาม
เบื่อ
วันที่เขียน
16 ธันวาคม พ.ศ. 2556 10:14:26
จำนวนคนเข้าดู
1495
คำตอบ
คำตอบที่ 1
1. รายได้สำคัญมากสำหรับการเป็นอยู่ทุกวันนี้ ถ้าไม่มีรายได้ จะมีปัญหาต่อเนื่องตามมา ยกเว้นแต่ยังพอมีที่ดินไร่นาให้ไปปลูกอะไรได้ ถ้าไม่งั้นก็อดทนทำที่เดิมไปสักระยะก่อน เป็นลูกจ้างเข้าต่อไปก่อน แต่ให้กระปี้กระเปร่ามุ่งมั่นทำงาน อย่าเฉื่อยแฉะ น้อมใจบริการ ใครเขาจะว่าจะด่าจะตำหนิก็ช่างเขาเถอะ (ให้บอกตัวเองว่า เราไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอด อีกไม่นานก็จะไปแล้ว) ผลของการทำงาน คือลูกค้าได้รับบริการที่ประทับใจ ไม่ใช่เงินตอบแทน ส่วนเงินนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขณะทำงาน ให้เรามีใจกับงาน ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องเงินตอบแทน เพราะมันจะทำให้ห่อเหี่ยวใจเปล่า ๆ
2. ต้องมองดูให้ดีว่า จะออกไปทำอะไร ใช้ทุนเยอะขนาดไหน เรามีทุนขนาดไหน และเรารู้เรื่องงานตรงนั้นมากน้อยขนาดไหน ควรเริ่มจากเล็กๆ ก่อน อย่าทำใหญ่โตทีเดียวเลย ลองดูก่อน
3. วางแผนธุรกิจของตนเองให้ดี เมื่อพร้อมแล้วก็อย่าโลเลลังเล ให้ลุยไปได้เลย อย่าชักช้า โอกาสมีทั้งนั้น ถ้าเราทำจริง รู้จริง สุจริต จริงใจ ธุรกิจนั้น ถ้าเริ่มต้นเร็ว ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จเร็ว และมีโอกาสล้มเหลวเร็ว (แต่เราจะได้รับบทเรียนที่มีคุณค่า) ถ้าเริ่มต้นช้า คนอื่นเขาก็ทำไปก่อนและเหลือโอกาสให้เราน้อยลงก็ได้ การตลาดเราต้องแน่นอน กลุ่มลูกค้าเราต้องชัดเจน สินค้าเราต้องมีคุณภาพดีจริง และต้องสู้กับคู่แข่งได้
4. อย่าก่อหนี้ อย่ายืมใคร ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่เห่อสังคม ไม่เห่อแฟชั่น มีน้อยก็กินใช้น้อย มีมากก็กินใช้น้อย รับรอง ชีวิตสุขสบาย นอนหลับสบายดี ตื่นนอนสดชื่นแจ่มใส
5. รู้จักปล่อยวางและผ่อนคลายเป็น ด้วยการฝึกปฏิบัติสติแบบง่าย ๆ ฟังและฝึกตามนี้ทุก ๆ วันดูสัก 3 เดือน
ตามนี้ http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143
2. ต้องมองดูให้ดีว่า จะออกไปทำอะไร ใช้ทุนเยอะขนาดไหน เรามีทุนขนาดไหน และเรารู้เรื่องงานตรงนั้นมากน้อยขนาดไหน ควรเริ่มจากเล็กๆ ก่อน อย่าทำใหญ่โตทีเดียวเลย ลองดูก่อน
3. วางแผนธุรกิจของตนเองให้ดี เมื่อพร้อมแล้วก็อย่าโลเลลังเล ให้ลุยไปได้เลย อย่าชักช้า โอกาสมีทั้งนั้น ถ้าเราทำจริง รู้จริง สุจริต จริงใจ ธุรกิจนั้น ถ้าเริ่มต้นเร็ว ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จเร็ว และมีโอกาสล้มเหลวเร็ว (แต่เราจะได้รับบทเรียนที่มีคุณค่า) ถ้าเริ่มต้นช้า คนอื่นเขาก็ทำไปก่อนและเหลือโอกาสให้เราน้อยลงก็ได้ การตลาดเราต้องแน่นอน กลุ่มลูกค้าเราต้องชัดเจน สินค้าเราต้องมีคุณภาพดีจริง และต้องสู้กับคู่แข่งได้
4. อย่าก่อหนี้ อย่ายืมใคร ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่เห่อสังคม ไม่เห่อแฟชั่น มีน้อยก็กินใช้น้อย มีมากก็กินใช้น้อย รับรอง ชีวิตสุขสบาย นอนหลับสบายดี ตื่นนอนสดชื่นแจ่มใส
5. รู้จักปล่อยวางและผ่อนคลายเป็น ด้วยการฝึกปฏิบัติสติแบบง่าย ๆ ฟังและฝึกตามนี้ทุก ๆ วันดูสัก 3 เดือน
ตามนี้ http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
16 ธันวาคม พ.ศ. 2556 10:31:08
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร