คำตอบที่ 1
ตอบคุณวิ
เท่าที่อาจารย์ฟังสภาพปัญหาแล้ว เข้าใจว่าตัวคุณวิเอง เป็นคนมีความฉลาด รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่
มีนิสัยห่วงหน้าพะวงหลัง กังวลกับเรื่องในอนาคต เรื่องความคิดของคนในสังคม เรื่องความหลังที่
ผูกพันกันมาก่อน ฯลฯ ทำให้ความฉลาดในตัวไม่สามารถพัฒนามาเป็นตัว "ปัญญา" ที่จะตัดกองทุกข์นี้ได้
อาจารย์ขออนุญาตให้คำแนะนำ ดังนี้ คุณวิลองนำไปพิจารณาดูว่าจะปฏิบัติตามหรือไม่ย่อมขึ้นอยู่กับตัวคุณวิเองอาจารย์คงทำได้แค่แนะนำเท่านั้นครับ
1.ชีวิตมีสุขและทุกข์สลับกันไปมาเรื่อยๆ หากคุณวิเชื่อเรื่องกรรมหรือชาติปางก่อนแล้ว จะพบว่า ชีวิตคู่ที่เป็นแบบนี้คุณวิเอง(หรือแม้ตัวอาจารย์เอง)ก็พบกับอาการแห่งทุกข์นี้มาแล้ว ซ้ำๆแบบนี้ มานับครั้งไม่ถ้วน คุณวิอาจจะรู้สึกทุกข์และอาลัยอาวรณ์ในความรักครั้งปัจจุบันนี้มาก แต่อาจารย์อยากบอกว่า คุณวิกำลังเข้าใจผิด ตัวคุณวิ เคยพบเคยทุกข์กับความรักแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว และสามารถพ้นทุกข์มาแล้วเช่นกัน ครั้งนี้ จึงเป็นแค่อีกครั้งนึงเท่านั้นที่ต้องมาพบทุกข์เพราะความรัก
ดังนั้น ลองติตรองดูว่า ตนเองจะทุกข์แบบนี้ซ้ำอีกกี่ครั้งถึงจะพอ เมื่อไหร่ถึงจะเลิกจมอยู่กับกองทุกข์แบบนี้เสียที จะต้องร้องไห้อีกครั้งถึงจะมีสติจนเกิดปัญญาเห็นความเกิดความดับของกองทุกข์ และเข็ดหลาบกับความเหนียวรั้งกับอาการทุกข์นี้ และเมื่อไหร่ถึงจะมีปัญญาที่พบว่าความรักที่แท้จริงนั้นต้องรู้จักรักตนเองก่อน รักตนเองให้เป็นจึงรักคนอื่นเป็น สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณวินี้ ไม่อาจเรียกได้ว่าความรักที่แท้จริงครับเพราะมันเป็นการเบียดเบียนตนเอง ยังไม่รู้จักรักตนเองเป็น กลับไปคิดดูนะครับ
2.สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มีหน้าที่ดลใจให้สามีคุณวิเปลี่ยนความคิดได้หรอกครับ ทุกประการอยู่ที่ตัวคุณวิเอง ที่ต้องช่วยตนเองก่อนเมื่อรักตนเองเป็น ช่วยตัวเองได้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงจะลงมาช่วย
ดังนั้น สิ่งที่คุณวิ ควรทำ คือ
2.1 ทบทวนตนเอง ว่าที่ผ่านมา ตนเองเป็นใคร ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ จบอะไรมา ทำงานมากี่ที่ ประสบความสำเร็จอะไรบ้างล้มเหลวอะไรบ้าง มีใครที่รักคุณวิ บ้าง พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน
2.2 ปัจจุบันทำตัวให้สมกับ “คุณค่า” ของตนเองหรือยัง ทำตัวให้คนที่รักคุณวิ เป็นทุกข์หรือเป็นสุข
2.3 คุณวิห่วงหน้าตา แคร์สังคม อะไรบ้าง และสังคมที่คุณวิแคร์นั้น เค้ารักคุณวิหรือเปล่า เค้ารักเท่ากับคนที่รักคุณวิ ในข้อ 2.1 หรือไม่
2.4 จากข้อ 2.2 คุณวิ จะเอา “คุณค่า” ของตนเอง มาสร้างอะไรดีๆให้กับตัวเองในอนาคตบ้าง หรือกับสังคมด้อยโอกาสบ้างก่อนที่คุณวิจะจากโลกนี้ไปโดยที่ได้สร้างผลงานดีๆให้กับตนเองหรือยัง
3."สวดมนต์ขอให้ถ้าอยู่กับเค้าและทุกข์มากกว่าสุขถ่วงความเจริญก็ขอให้เลิกกัน แต่ถ้าอยู่ด้วยกัน และสุกข์มากกว่าทุกข์มีความเจริญขึ้นก็ขอให้ได้มีครอบครัวแบบปรกติเหมือนคนอื่นๆ เค้า .. อย่างน้องสิ่ิงศักดิืสิทธิ์ได้ดลใจ เพราะไม่รู้จะเอาอย่างไงกับชีวิตแบบนี้ .. ดี"
อันนี้ อาจารย์พูดตรงๆแบบไม่กลัวคุณวิโกรธ ครับว่า... สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านไม่ดลใจหรอกครับ
อุปมาเหมือน คุณวิ ยืนมอง เด็ก 2 คน ที่วิ่งแล้วหกล้มทั้งคู่
เด็กคนแรก นอนล้มและร้องไห้ โอดโอย ดิ้นไปดิ้นมา ร้องไห้เสียใจว่าไม่น่าล้มเลย วิ่งมาดีๆแล้ว ร้องเท้าก็ขาด กางเกงก็ขาด อายคนดูรอบๆ เมื่อก่อนวิ่งชนะทุกครั้งมีความสุขมากๆ ครั้งนี้ไม่น่าล้มเลยพร้อมภาวนาในใจว่าขอให้มีคนมาช่วยอุ้มฉันเถิด รักษาแผลให้ฉันเถิด ขอให้แผลฉันหายดีเหมือนเดิม
เด็กคนที่สอง นอนล้มและพยายามลุกขึ้นยืนเอง แต่ด้วยขาเจ็บจึงลุกไม่ถนัด เซไปเซมา แต่ก็กัดฟันลุกขึ้น น้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวดแต่ก็พยายามสู้กับความเจ็บปวด พยายามช่วยให้ตนเองพ้นจากความทุกข์
คำถาม คือ คุณวิคิดว่า เด็กคนไหนมันน่าช่วยกว่ากัน ????????????
จงช่วยตนเองก่อนแล้วฟ้าดินจะช่วยครับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะมาช่วย ก็ต่อเมื่อ คนๆนั้นจะลุกขึ้นยืนเมื่อยืนแล้วจะล้ม ท่านจะมาช่วยครับ
คำถามอีกครั้ง คือ คุณวิ จะเป็นเด็กคนแรก หรือ คนที่สอง ครับ
อาจารย์ขอฝากข้อคิดไว้เพียงเท่านี้ครับ
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 399
วันที่เขียน
13 ธันวาคม พ.ศ. 2556 17:30:26
คำตอบที่ 2
อาจารย์ค่ะ ..ขอบพระคุณมากค่ะ ในคำแนะนำ ปัญญาคือสิ่งดับทุกข์
วิตัดสินใจ..ค่อย ๆ ถอนใจออกจากทุกข์นี้ ตลอดชีวิตที่่ผ่านมา วิไม่่เคยทำเพื่อพ่อแม่ นอกจากตัวเองและคนที่วิเรียกว่าแฟนกับสามี ต่อแต่นี้ไป..อนาคตจะเป็นเช่นไร ไม่รู้ค่ะ จะดีหรือร้าย แต่ที่แน่ ๆ วิจะทำเพื่อคนที่รักวิมากที่สุด และก็เพื่อตัวเอง
..สามีปล่อยเค้าไปค่ะ..ให้เค้าได้อยู่กับสิ่งที่เป็นของเขา
ขอบพระคุณอีกครั้งที่ให้แสงสว่าง และผลจะเป็นอย่างไร ถ้ามีโอกาส วิจะเค้ามาเล่าให้ฟังค่ะ
ชื่อผู้ตอบ
วิ
วันที่เขียน
13 ธันวาคม พ.ศ. 2556 21:52:52