ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

เหมือนทั้งโลกหันหลังให้อยากตายครับ
รายละเอียด
ผมอายุ 20 ปี เป็นไบโพลาครับ ครอบครัวผมแม่เลี้ยงคนเดียวมาตั้งแต่เด็กครับ ผมขอเขียนถึงสิ่งแย่ที่เคยทำครับ 1 ผมเถียงแม่มาตลอดตั้งแต่เด็กทำแม่ร้องไห้หลายครั้ง 2 ผมเคยคบกับคนไม่ดีเป็นแฟน โกหกแม่สารพัดเกี่ยวกับคนนี้ 3 ผมเคยทำไม่ดีกับแฟนเก่าคนแรกงี่เง่าเอาแต่ใจทำร้ายใจเขาสารพัด 4 ทำสิ่งไม่เหมาะไม่ควรกับแฟนในสถานศึกษาตอนยังเด็กครับ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ 1 ผมโดนคนไม่ดีที่เคยคบเอารุปที่เคยถ่ายไว้มาแบล็คเมลขู่เรียกเงิน และเอาลงในเวบสถานศึกษา และตามเฟสบุคของเพือนๆผม 2 ผมต้องย้ายที่เรียนถึง 3 ครั้ง อายุ 20 เพิ่งอยุ่ปี 1 ครับ 3 ผมเปนไบโพลา โรคนี้ทำให้จิตตกอยากตา ย คิดมาก พอคุยกับแฟนก็โดนด่า รำคาญ ไล่ไห้ไปตายครับ ตอนนี้อยากตายมากเลยครับ เวลาอาการกำเริบผมจะไม่คุยกับแม่เพราะทำเรื่องแย่ๆกับท่านมากพอแล้ว จึงสัญญาว่าจัไม่เอาเรื่องไม่ดีไปไห้ท่นรับรุ้อีก ตอนนี้อยากตายครับ ไม่เหลือใคร แฟนก้อไม่เคยเหนค่าผมเลย พออาการนี้ด้านซึมเศร้ากำเริบเค้าก็รำคาญหงุดหงิดและต่อว่าผม ทำให้ผมไม่รุ้สึกว่าเหลือคุนค่าเลยครับ อยากได้แค่กำลังใจ แต่ตอนนี้ชีวิตมืดมากครับ ทุกอย่างตีไปหมด
ความต้องการ
คำปรึกษากำลังใจ แนวทางแก้ไขครับ
ชื่อผู้ถาม
KKK
วันที่เขียน
7 ธันวาคม พ.ศ. 2556 15:14:53
จำนวนคนเข้าดู
2159

คำตอบ

คำตอบที่ 1
อะไรที่เกิดขึ้นกับคุณ ไม่ว่าจะโดนประจาน โดนอะไรนั้น ให้พักไว้ก่อน ไม่ต้องไปคิด ทิ้งไว้ก่อน และให้อภัยทุกคน อย่าไปโกรธโทษเคืองเขา ตอนนี้ คุณต้องมาแก้ปัญหาข้างในคุณก่อน

โรคต่าง ๆ ที่หมอทั่วไปบอกเรานั้น ให้ฟังไว้ก่อน ทุกคนมีโรคประจำทั้งนั้น แล้วแต่ว่ามันจะออกอาการเมื่อไหร่ ไม่มีโรคอะไรร้ายแรงเท่าโรคคือ โลภะ โทสะ และโมะ ซึ่งโรคพวกนี้เกิดที่ใจ พระพุทธองค์จึงเน้นให้ดูแลและจัดการใจของเรา

มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา
มโนเสฏฺฐา มโนมยา
มนสา เจ ปทุฏฺเฐน
ภาสติ วา กโรติ วา
ตโต นํ ทุกฺขมเนฺวติ
จกฺกํว วหโต ปทํ ฯ
ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจ
ถ้าบุคคลมีใจร้ายแล้ว พูดอยู่ก็ดี ทำอยู่ก็ดี ทุกข์ย่อมไปตามเขา
เพราะเหตุนั้น ดุจล้ออันหมุนไปตามรอยเท้าโค ผู้นำแอกไปอยู่ฉะนั้น ฯ

ดังนั้น เราต้องจัดการใจของเราให้ได้ จึงจะแก้ไขทุกอย่างได้
อย่าไปเลียนแบบใคร เราต้องดูแลใจเรา ทำใจเราให้มีสติ รู้่เท่าทันความอยากความคิดที่มันเกิดขึ้นในใจเรา
ปิดโลกการสื่อสารทุกช่องทาง ลาเพื่อน ญาติ ๆ ไปเจริญภาวนาที่วัดนี้สัก 15 วัน 30 วัน 120 วัน  คุณจะเปลี่ยนไปเป็นคนใหม่ จะรู้ว่าชีวิตนั้นสามารถฝึกหัดได้ แก้ไขได้ ปรับปรุงได้ และต้องลงมือปรับปรุง ไม่ใช่ปล่อยให้หมดวันคืนไปเปล่า ๆ ไม่ใช่รอให้หมดลมเปล่า ๆ

และคุณจะรู้ว่า ชีวิตนั้น มีคุณค่ามีประโยชน์เยอะมาก และตัวคุณก็สามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ให้ตัวคุณเองและสร้างประโยชน์ให้สังคมให้คนอื่นได้ คุณจะรู้สึกว่า พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเรามานั้น เป็นสุดยอดมนุษย์จริง ๆ เราจะไปทำสิ่งร้าย ๆ กับพ่อแม่นั้นไม่ได้เลย

ลองไปดูที่วัดนี้ ฟรีทุกอย่าง ไม่ต้องกังวล ขอให้คุณสนใจศึกษาปฏิบัติเท่านั้น  http://bhaddanta01.blogspot.com/

จงจำไว้ว่า เราจะปรึกษาคน 1000 คน อ่านหนังสือ 1000 เล่ม ก็มีประโยชน์นิดเดียวคือผ่านหูผ่านตาแล้วก็ผ่านไปเลย ถ้าไม่ลงมือทำ ดังนั้น ต้องลงมือทำ
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
8 ธันวาคม พ.ศ. 2556 13:37:53
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร