ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

ตอนนี้หมดหนทางกับชีวิตค่ะ
รายละเอียด
นมัสการค่ะ ดิฉันกำลังแย่ เนื่องจากปัญหาลุมเล้าเสียจนหมดหนทางแก้ เรื่องแรก - เมื่อ เดือนเมษายนปีที่ 2555 สามีของดิฉันได้มีภรรยาน้อย ทำงานเป็นคนงานก่อสร้าง โดยที่ตัวดิฉันเป็นพนักงานบริษัท ดิฉันรู้สึกเสียใจและเสียเกีรติมาก กับสิ่งที่เกิดขึ้น ดิฉันต้องการจะเลิกสามีไม่ยอมเลิกอยากมี 2 คน สลับวันกันมา จนถึงเดือน ประมาณ มีนาคม ทราบว่าเมียน้อยท้อง และเมียน้อยเพิ่งเลิกกับสามีเก่า 1 อาทิตย์ แล้วเอาสามีดิฉันไปนอนด้วย ดิฉันล้มทั้งยืน ดิฉันก็ต้องการจะเลิกอีกละค่ะ ด้วยความที่เป็นภรรยาที่มาก่อน และแต่งถูกต้องตามประเพณี จึงคิิว่าทำไมตนต้องหนีกับปัญหาที่ตนไม่ได้ก่อ และด้วยความใจอ่อนรักสามีด้วย จึงต้องยอมกล้ำกลืนเรื่อยมา เมียน้อยพยายามทุกทางที่แย่งสามีของดิฉันทั้งอาระวาด โทรละลาน จนเค้าใกล้คลอดเอาลูกในท้องมาอ้าง จนสามีดิฉันไม่กลับมานอนบ้าน 2 - 3 เดือน ด้วยความเป็นภรรยาก็เสียใจมาก จึงแกล้งบอกว่าตนท้อง สามีก็กลับมา สลับวันไปเหมือนเดิม ค่ะ สามีคงจะรักเมียน้อยมากถึงยอมอยู่ใต้ยอมทำตามเกือบทุกอย่าง ดิฉันเริ่มคิดที่จะหนีแยกทางไปจริงๆ แต่ปัญหาที่ตนก่อขึ้นกำลังรัดตัวเอง เรื่องท้องล่ะค่ะ ดิฉันไม่ได้ท้องจริง มิหนำซ้ำญาติพี่น้อง คนรอบข้าง บ้านข้างเคียงก็รู้ว่าท้อง ตอนนี้พยายามหาเด็มมาเลี้ยงเจ้าระหวั่น เพราะถ้านับวันก็ใกล้คลอดเต็มที ไม่รู้จะทำยังไง เลิกกับสามีไม่เท่าไหร่ แต่ญาติพี่น้อง คนรอบข้างน่ะสิ กลายว่าเราหลอกลวงทุกคน และคิดว่าถ้าดิฉันพบเด็กสักคนดิฉันจะอยู่กับเค้าจะรักเค้าให้มากที่สุด ดิฉันสามารถอยู่ได้ เลี้ยงตามลำพังได้ค่ะ ถ้าเลิกกับสามี ดิฉันจะได้ไม่เหงาในบั้นปลายชีวิต ดิฉันจะทำอย่างไรดีค่ะ สามีดิฉันติดอันดับเลวต้้นๆเลยก็ว่่าได้ ที่ดิฉันแคร์คือ คนรอบข้าง ญาติ กับคนข้างบ้านและเพื่อนฝูง
ความต้องการ
ช่วยชีทางออกให้ด้วยค่ะ ว่าจะกู้สถานการณ์อย่างไรกลับคืนมาให้ญาติและคนรอบข้าง เข้าใจและเชื่อใจว่าเราไม่ได้หลอกลวง ขึ้้้้้นหลังเสือและลงยากเสียจริงค่ะ ถ้าย้อนไปได้จะไม่โกหกแบบนี้เลย หรือจะต้องหนีไปอยู่ที่ใหม่ สังคมใหม่ กับคนใหม่ๆทั้งหมด
ชื่อผู้ถาม
คนที่กำลังหมดหนทาง
วันที่เขียน
6 ธันวาคม พ.ศ. 2556 17:23:23
จำนวนคนเข้าดู
1968

คำตอบ

คำตอบที่ 1
1. ไม่ต้องไปโกหกใครอีกแล้ว บอกความจริงกับทุกคน ความจริงเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น
2. ไม่ต้องไปอาย ไม่ต้องไปแคร์ใครล่ะ เราพยายามทำเพื่อให้สามีกลับมาเท่านั้น เราจึงทำแบบนั้น
3. ไม่ต้องไปหาเด็กที่ไหนมาเลี่้ยงทั้งสิ้น จะลำบากเด็กในระยะยาวเปล่า ๆ
4. คุณควรจัดการเรื่องคุณกับสามีและภรรยาใหม่ของเขาให้ลงตัวเสีย ว่าจะเอาอย่างไร จะอยู่อย่างนี้หรืออย่างไร

การจะแก้ปัญหา เราต้องไม่อาย ไม่ต้องกลัวขายหน้า  ถ้าอายก็กลบปัญหาไว้ ไม่ได้แก้ปัญหา
เมื่อทำมาแล้ว ก็ต้องยอมรับ แรก ๆ คนเขาอาจไม่เข้าใจ แต่เมื่อเขารู้ความจริง เขาจะเข้าใจเอง
ใครจะคบหรือไม่คบเราก็ช่างเขาเถอะ

อย่ายึดสามีมากเกินไป สักวันเขาและเราก็ต้องจากกันไปอยู่ดี ไม่วันนี้ก็วันหน้า
เขาก็เป็นแค่สามี แต่ไม่ใช่สมบัติที่จะติดตัวเราไปเมื่อเวลาเราสิ้นลมซะที่ไหน
เขากับเราคนละชีวิต ไม่ใช่ชีวิตเดียวกัน
เมื่อไม่มีเขา เราต้องอยู่ได้
อย่าชะล่าใจ เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมงาน เตรียมอาชีพไว้ด้วย
ว่า เราจะอยู่อย่างไร เมื่อไม่มีเขา

ลองคิดดูให้ดี จะอยู่อย่างนี้ (ให้สามีไป ๆ มาๆ สองบ้าน)
หรือจะมีวิธีใดที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม อย่าทำร้ายกัน อย่าทำลายกัน
เมื่อตัดสินใจเลิก ก็ให้เลิกกันอย่างเข้าใจและเป็นมิตรกัน อย่าเป็นศัตรูกัน
เมื่อพบกัน ก็คุยกันได้ ไม่ใช่จะฆ่าจะแกงกันตลอด
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
6 ธันวาคม พ.ศ. 2556 22:01:43
คำตอบที่ 2
ขอแนะนำให้อ่านและศึกษาพระพุทธพจน์บทนี้ให้ดี
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
6 ธันวาคม พ.ศ. 2556 22:08:26
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร