ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

ปัญหาครอบครัวค่ะ
รายละเอียด
เป็นเรื่องของแม่แฟนค่ะ แม่แฟนเป็นคนติดเหล้าค่ะ พอดื่มเหล้าก็จะเมาแบบไม่หยุด แต่ดิฉันไม่ได้อยู่บ้านแฟนนะคะ อยู่บ้านของตัวเอง พอแม่แฟนเมาก็จะมีปัญหาตามมาเช่น ตีกับคนข้างบ้าน ทะเลาะกับป้าของแฟน(พี่สะใภ้ของแม่แฟน) และทุกครั้งที่มีปัญหาญาติๆของแฟนก็ต้องโทรมาตามแฟนไปจัดการ เพราะมีเค้าคนเดียวที่จัดการได้ ล่าสุดอยู่ๆก็เมาแล้วหายไป แฟนก็ไปแจ้งความตามหากันจนแฟนต้องลางานไปหลายวัน โทรก็ไม่ติด พอผ่านไปสักอาทิตย์นึง แฟนเกิดโทตติดขึ้นมาคนที่รับเป็นผู้หญิง พอรับปุ๊แฟนก็ขอสายยแม่ทันที่ ปลายสายตะโกนถามแม่ของแฟนว่า"ป้อมลูกมึงโทรมาจะคุยมั้ย" แม่แฟนตอบว่าไม่คุย รุหง่างนั้นแฟนได้ยินเสียผู้ชาย เป็นต่างชาติค่ะคิดว่าน่าจะเป็นเสียงชาวญี่ปุ่นม แฟนถึงกับปล่อยโฮ นี่ไม่ใช้ครั้งแรกค่ะ เคยเป็นแบบนี้มาครั้งนึงแล้วก่อนที่ฉันกับแฟนจะแต่งงาน ครั้งนั้นบอกว่าอยู่ไม่ได้เพราะพ่อแฟนซ้อม ทั้งๆที่พ่อแฟนขาไม่ดีจากอุบัติเหตุ พอเราแต่งงานกันแม่ดิฉันทราบเรื่องบ้างก็พาลไม่ชอบเพราะมีครั้งนึงที่พ่อแฟนรถคว่ำแล้วเป็นดิฉันกับแม่แล้วก็แฟนที่ไปดูแลจัดการทุกอย่างค่าโรงพยาบาล ขึ้นโรงขึ้นศาล (ครอบครัวแฟนฐานะไม่ค่อยดี) ส่วนแม่แฟนใช้ข้ออ้างว่าไม่ว่างทำงาน แฟนมีพี่น้องสามคนค่ะ ซ่งพอแฟนย้ายมาอยู่บ้านดิฉันก็ไม่มีใครดูแลน้องๆเงินเดือนของแม่แฟนแต่อาละเดือนที่หยุดซะมากกว่าทำก็ไม่เคยถึงน้องๆดิฉันมีลูกแล้วหนึ่งคนก็ต้องรับภาระน้องแฟนอีกคน คือสงสารแฟนค่ะทุกวันนี้แฟนเครียดมากไม่มีกะจิกะใจจะทำงาน จะทำแย่างไรอยากรู้ว่าพฤติกรรมแบบนี้ของแม่แฟน เค้าต้องการอะไรค่ะ แก้อย่างไรดี
ความต้องการ
ขอคำปรึกษาด้วยค่ะ
ชื่อผู้ถาม
คามาเร่
วันที่เขียน
5 ธันวาคม พ.ศ. 2556 12:04:21
จำนวนคนเข้าดู
1184

คำตอบ

คำตอบที่ 1
1. ชีวิตใครก็ชีวิตมัน เมื่อถึงคราวสิ้นลมจากกันก็ไปใครไปมัน ใครทำแบบใด ก็จะได้รับผลแบบนั้น นี่คือวิถีโลก นี่คือชีวิต เขาจึงบอกว่า กัมมุนา วัตตตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามการกระทำของตัวเอง

2. คุณและสามีคุณต้องมีสติ แยกแยะให้ได้ว่า ชีวิตเราก็อีกชีวิต ชีวิตแม่ก็อีกชีวิต เราต้องพยายามช่วยแม่ ไม่อยากให้แม่เมามาย ทำเรื่องเสียหาย อาละวาดนั้นถูกต้องแล้ว

3. จงระลึกไว้เสมอว่า การตอบแทนบุญคุณของแม่นั้น ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่า การช่วยทำให้แม่มีสัมมาทิฐิ เข้าใจถูกต้อง เห็นถูกต้องตามธรรม รู้ว่าอะไรเป็นบุญแท้บาปแท้ รู้ว่าอะไรเป็นสาระแท้สาระเทียมของชีวิต แม้ว่าเราจะให้เงินทองแม่หมื่นล้านแสนล้าน ก็ไม่เท่ากับทำให้แม่มีสัมมาทิฐิ ตอนนี้แม่ยังหลงไหลอยู่ จึงมีพฤติกรรมแบบนั้น อย่าท้อ ลองหาทางดูก่อน

ถ้าพอเป็นไปได้ คุยกับแม่อย่างจริงจัง ชวนแม่ไปศึกษาและปฏิบัติธรรมที่วัดได้ไหม ไปอยู่กันยาว ๆ สัก 5 วัน 10 วัน หรือ 1 เดือน (คุณและสามีอาจไป ๆ มาๆ อย่าเพิ่งให้แม่ไปคนเดียว) ถ้าแม่ทำได้ เราอาจมีรางวัลให้แม่ เช่นอยู่วัดได้ 10 วัน อาจมีเงินให้ (เท่าไหร่ก็ว่าไป)  ถ้าครั้งที่ 2 อยู่ได้อีก....วัน ก็เพิ่มจำนวนขึ้น

บางครั้ง เราก็ต้องใช้อุบายเพื่อให้เขาปรับเปลี่ยนตัวเอง จูงใจ หรือจ้างให้ไปก็ได้ ไม่ผิดอะไรหรอก

แต่เมื่อลองดูแล้ว ไม่มีอะไรดีขึ้นกว่าเดิม แม่ไม่เอาแม่ไม่สนใจเลย ก็ไม่ต้องไปเสียใจ ให้มุ่งมั่นทำงานสร้างฐานะของตัวเองไป ส่วนแม่เราก็จะไปช่วยในบางกรณีที่เป็นไปได้เท่านั้น ชีวิตเขา อายุขนาดนั้นแล้ว เขาจะอย่างไรก็สุดแท้แต่เขาแล้ว
เรารักแม่ อยากช่วยแม่ ไม่ผิด แต่ไปปเครียดเรื่องแม่จนเสียการเสียงานนั้นไม่ดีเลย อย่าอายที่แม่เราเป็นอย่างไร ให้เรายอมรับความจริง ไม่ต้องไปโกหกใคร แม่เป็นอย่างไรเราก็พูดและบอกอย่างนั้น (ถ้าเขาถาม)

ให้ชวนแม่ไปวัดนี้  http://bhaddanta01.blogspot.com/
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
5 ธันวาคม พ.ศ. 2556 19:27:48
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร