ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

ความรัก หรือ ความเห็นแก่ตัว
รายละเอียด
ผมต้องบอกก่อนว่าผมเป็นเกย์ ผมเรียนอยู่มหาลัยแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ผมรู้จักกับอาร์(ชื่อสมมติ) ตอนช่วงปีใหม่ในปี 2554 เรารู้จักกันเพราะอยู่หอพักด้วยกัน ผมแอบมองอาร์ทุกครั้ง ดีใจทุกครั้งที่เห็นหน้าเขา เราสนิทกันไวมากเราใช้ชีวิตด้วยกัน ไปไหนด้วยกัน เรื่องมาเริ่มขึ้นเมื่อมีหลายคนเดินเข้ามาในชีวิตอาร์ อาร์เป็นคนเฟรนลี่ คุยกับทุกคนที่เข้ามาในชีวิตอาร์ ผมรู้สึกว่าเขาแอบมีใจ และมีใคร ลักษณะการคุยของอาร์ ทำให้ผมเป็นคนคิดมาก ผมกันคนเหล่านั้นออกจากชีวิตอาร์ แม้กระทั่งน้องเทคอาร์ ผมก็เป้นคนกันออก ผมกันทุกคนออกจากชีวิตอาร์ จนผมเผลอไปมีอะไรกับน้องเทคของอาร์ ผมกันทุกคนด้วยวิธีนี้ (แต่ไม่ใช่ทุกคน) เทอมนี้ผมต้องไปฝึกงานต่างจังหวัด ผมรู้ข่าวว่าอาร์กับน้องเทคมีอะไรกัน น้องเทคพูดสารภาพจนหมดว่าเคยมีอะไรกับผม เมื่อผมรู้ข่าว ผมก็ขี่มอเตอร์ไซต์ กลับมาในคืนนั้น มันห่างจากมหาลัยแค่150 กม ผมมาถึงห้อง อาร์ไม่มองหน้าผมเลย อาร์ไม่คุยกับผมเลย อกผมจะแตก ผมรักเขามาก รักมากสุดชีวิต อาร์เคยบอกผมว่า อาร์คิดกับผมแค่เพื่อน แค่เพื่อนเท่านั้น ผมไม่เข้าใจ? แล้วที่เรามีไรกัน ไปไหนด้วยกัน มีความสุขด้วยกันมาตลอด3ปีนั้นแหล่ะ ผมรู้ว่าตัวผมผิด ผิดเกินให้อภัย ผมแค่จะบอกเขาว่าผมขอโทษ ขอโทษจากใจ มันจะไม่เกิดขึ้นอีก อาร์ต้องการให้ผมจากเขาไปตามความเห็นของเพื่อนเขา แต่ผมจากเขาไปไม่ได้ ผมรักเขา ผมขี่รถมอเตอร์ไซไปกลับ เพื่อมาขอโทษ มันคงไม่พอที่จะให้อภัย อาร์คงเกลียดผม ผมรู้ว่าเอาความผิดของแต่ละฝ่ายมาหักล้างกันไม่ได้ ความดีหักล้างความชัวไม่ได้ แต่ผมขอโอกาส ขอโอกาสแก้ตัว ขออย่างเดียว อย่าทิ้งผมไปได้เปล่า ผมจะอยู่ได้ไงหากไม่มีอาร์ ผมอยู่ไม่ได้ ผมรักเขา รักมาก มากจนแม้ชีวิตนี้ก็สละให้เขาได้ ทุกวันนี้ผมเป็นโรคหัวใจ ผมร้องไห้จนอาการกำเริบ ผมคิดมาก ผมโทษตัวเองทุกวัน ไม่มีวันไหนที่รู้สึกแย่ ผมยังรอ รอโอกาส ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีอาร์ ผมจะทำยังไงดี ผมทำให้อาร์เสียใจ จนผมไม่อยากมีชีวิตอยู่ หากผมตายไป อาร์จะอโหสิกรรมให้ผมไหม ผมขอโทษ อย่าจากผมไปนะ อย่าทิ้งผมไป
ความต้องการ
ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา ผมรักเขาจริงๆ
ชื่อผู้ถาม
นัท
วันที่เขียน
21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 13:32:23
จำนวนคนเข้าดู
1684

คำตอบ

คำตอบที่ 1
เรื่อง ความรักย่อม มีสุขและทุกข์ปะปนกันเป็นเรื่องธรรมดา

อาจารย์ ขอให้คุณนัทลองคิดดูว่า ก่อนหน้าที่ จะมารู้จัก อาร์ นั้น คุณนัทมีชีวิต อยู่มาได้อย่างไร 
มีหัวเราะมีร้องไห้ มีสุขมีทุกข์  ได้ตามปกติ

ดังนั้นประโยคที่บอกว่า  "ผมอยู่ไม่ได้ โดยไม่มีเขา"  จึงไม่ใช้ FACT
แต่มันเกิดจาก ความทุกข์ใจ อย่างแสนสาหัสจึงทำให้พูดออกไปแบบนั้น

จึงขอให้ทำความเข้าใจใหม่ให้ถูกต้อง ว่า " ฉันทุกข้ใจ แต่ฉันก็ยืนอยู่ต่อไปได้"  นี่จึงเป็น FACT

เกิดเป็นคน ต้องรู้จัก FACT ครับไม่เช่นนั้นเราจะรักใครไม่เป็นหรือรักได้ก็รักไม่ยาวนาน เพราะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่บนความจริง

ตรงนี้สำคัญมากๆ  คนที่รักตัวเองไม่เป็น ดูแลตัวเองให้ดีไม่เป็นนี่ไม่สามารถไปดูแลคนอื่นได้ เพราะจะมีแต่อารมณ์ล้วน ๆ  
บางทีก็เพ้อเจ้อ ใครๆก็ไม่สนใจคนเพ้อเจ้อหรอกครับ อยู่ใกล้แล้วจะพลอยลำบาก เดี๋ยวสามวันดีสี่วันร้าย อารมณ์ไม่มั่นคง

อยากให้ใครรัก ต้องรักตัวเองให้เป็นก่อน  ทำตัวเองให้มีค่า ไม่ทำตัวให้ต่ำ  เมื่อตนเองมีค่าใครๆก็จะมารักเอง

 การพร่ำขอโทษ หรือโอดครวญ คร่ำครวญ ไม่เป็นประโชน์เลยเลิกทำเถิดนะครับ  กลับตัวใหม่ สร้างตนเองให้มีค่า มีสง่า ทำตนให้น่ารัก โดยการสร้างประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นซิครับ คนดีๆจะมาหาเราเอง นี่จึงเป็นวิธีที่ดีกว่าการร้องไห้จนทำร้ายตัวเองครับ

ลองเลือกดูนะครับ ว่าจะใช้ชีวิตแบบสง่าผ่าเผย ใครเห็นใครรัก  หรือ  อยากเป็นคนที่ไม่มีใครสนใจเพราะจมอยู่กับน้ำตา ที่ไม่ช่วยอไรให้ดีขึ้นเลย

สุดท้ายให้คิดถึงพ่อแม่ หรือผู้มีพระคุณบ้างนะครับ  ท่านส่งเสียให้เราเรียนมา ใจคอไม่คิดถึงท่านบ้างเลย
เรื่องใกล้ตัวต้องทำให้ดีก่อนนะครับ แล้วคุณนัทจะได้ของดีกลับมาครับ แต่ถ้าเรื่องใกล้ตัวยังทำไม่ดี ต่อให้ได้ของดีก็ต้องเสียของดีไปครับ ขอฝากเป็นแง่คิดไว้นะครับ  เป็นกำลังใจให้ครับ

 
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 399
วันที่เขียน
22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21:03:32
คำตอบที่ 2
ความรักเหมือนลวดหนาม..ทั้งปิดกั้นทั้งทิ่่มแทง
รวดร้าวนั้นรุนแรง เกาะเกี่ยวมาพัวพัน
แหวกคาดจะผ่านแล้ว ไฉนแล้วยังพลาดได้
ยังรั้งให้เจ็บใจ..... จะกลับไปรึยอมเจ็บ

การสูญเสียสิ่งที่รักใคร่นั้น ย่อมนำความเสียใจมาสู้ทั้งนั้น มันเจ็บปวดทรมาน นั้นจริงอยู่ เมื่อเหตุการณ์เพิ่งเกิด ตัวเราก็เหมือนเอามือไปแช่ในหม้อต้มไฟร้อนๆ ทำยังไงมันก็มีแต่ร้อนไม่หาย ไม่นานมือก็พอง มือก็เปื่อย มีแต่ความสูญเสียมากมายต่อๆไป ถ้าเราเราเอามือออกจากหม้อน้ำเดือดนั้นทันเวลา มันอาจจะทิ้งแผลไว้ให้ก็จริง แต่ก็ยังมีวันรักษาหาย ต้องอาศัยเวลาเยียวยารักษา เมื่อน้ำมันบอกมาว่าตัวมันร้อน(เค้าบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกัเราแล้วตอนนี้) แล้วเรายังฝืนเอามือไปแช่ไว้ ลองถามตัวเองดูก่อน ว่าสุขจริงหรือ ?? ความสุขที่ได้ใกล้กับสิ่งที่บอกตัวเองว่ารัก ว่าหลงใหลนั้น แท้จริงไม่ต่างอะไรกับสูดดมสารเคมีที่มีกลิ่นหอม มันหอมก็จริงนะ แต่ไม่ได้ให้คุณกับเราเลย 

ลองออกไปเดินเล่นดูโลกรอบๆตัวเองดูก่อน เราใช่อยู่คนเดียวบนโลก ลองเดินนับดูก่อนนะ เช้านี้เดินออกไปน่ะ มี ผู้ชายอีกกี่คน คนที่เป็นแบบเราก็มีอีกมาก อย่าปิดกั้นตัวเอง การปลอบใจทำได้เพียงช่วยทุเลาความรู็สึกได้ชั่วครู่เท่านนั้นนะ แต่กำลังใจมหาศาลเลยมันอยู่ในตัวเรานั่นแหละ เรายิ่งใหญ่นะ เราไม่ใช่อะไรที่ไร้ค่าเลย เรามีดีของเรา ศักดิ์ศรีขิงเรายังมีอยู่ในตัวเรา อย่าทำลายเรี่ยวแรงของตัวเองด้วยการเอาความคิดของคนอื่นมาตอกตราหัวใจของเรา บางที การหยิ่งในคุณค่าของตัวเรา มีชีวิตของเราไป อย่างมั่นใจในตัวเอง มองไปข้างหน้าหาสิ่งที่คู่ควรกับเรา มั่นใจสิ ว่าจะต้องเจอ ..ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 299
วันที่เขียน
22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21:12:17
คำตอบที่ 3
ครับผม ผมจะเดินออกจากจุดนั้นให้ได้ ผมผิดเอง ผมพยายามขอโทษเขามาโดยตลอด ผมยอมรับผิดทุกอย่าง ผมไม่เหลือใคร พ่อแม่เสียไปหมด ผมทำงานส่งตัวเองเรียน จนผมมาพบกับเขา...ผมมีความสุขมาก จากนี้ผมจะยืนให้ได้ ผมหวังว่าสักวันเขาจะยกโทษให้ผม ผมต้องการแค่นั้นจริงๆครับ อยากให้เขารู้ว่าผมรู้สึกผิดจริงๆ ไม่ได้เสแสร้ง ต่อจากนี้ไม่ว่าผมจะอยู่ในฐานะไหนของเขา ผมจะค่อยมองดูเขาอยู่ไกลๆก็พอ
ชื่อผู้ตอบ
นัท
วันที่เขียน
22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21:54:07
ทั้งหมด 3 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร