ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

จะเลิกกับสามีดีมั๊ยคะ เมื่อสามีไม่ยอมเลิกขาดกับเมียน้อย
รายละเอียด
หนูกับสามีแต่งงานกันมาได้ 3ปีกว่า มีลูกสาววัย 2.9 ขวบ 1คน หนูอาศัยอยู่ต่างจังหวัดกับพ่อแม่ที่จันทบุรี ส่วนสามีอาศัยและทำงานอยู่ที่บ้านของเค้าที่กรุงเทพ 2ปีแรกสามีเป็นคนน่ารักมาก รักเมียรักลูกไม่เคยเกเรนอกลู่นอกทางเลย มาหา3อาทิตย์ครั้ง แม้จะไม่เคยมีเงินมาให้ลูกเมียเลย (แม่และพ่อเป็นคนรับภาระเรื่องค่าใช้จ่ายหนูกับลูก) แต่ด้วยความรักที่เค้ามีให้ครอบครัว แม่ก็รังเกียจเค้าไม่ลง เมื่อ8เดือนที่แล้วสามีเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แล้วก็จับได้ว่าเค้าติดต่อกับผู้หญิงอื่นเหมือนฟ้าผ่ากลางหัว สามีคนดีของเราไปมีคนอื่น ซึ่งหนูก็คุยกับผู้หญิงคนนั้นว่าเค้ามีลูกมีเมียแล้วเลิกยุ่งซะ แรกๆเค้าก็โกหกทุกคนว่าเค้าเลิกแล้ว แต่หลังๆเริ่มหนักไม่กลับบ้าน ไม่ทำงาน ไม่มีเงิน (หนูจะหยิบยื่นช่วยค่าใช้จ่ายของเค้าด้วย เพราะคำว่าผัวเมียต้องเอื้ออาทรแก่กัน ) ตั้งแต่เดือนมีนา มาหาลูกหนูต้องออกค่าน้ำมันให้ทั้งไป-กลับ รวมค่าอาหารค่าเที่ยวทั้งหมด (เมื่อก่อนน้ำมันออกเอง อาหารแชร์) จนถึงขั้นหนักเริ่มปฏิเสธการรับเมียและลูกไปกรุงเทพ จากที่เมื่อก่อนจะไปนานแค่ไหนก็ได้ เดี๋ยวนี้กำหนดบอกเราไปได้แค่ 1อาทิตย์บ้าง 3วันบ้าง ครั้งล่าสุดที่ไป เกิดการทะเลาะกันและเค้าเริ่มลงไม้ลงมือกับหนู เอามือมาบีบคอแต่ไม่ได้ออกแรง แล้วผลักลงไปที่ที่นอนต่อหน้าลูก แถมยังตามไปง้างมือต่อจะตบต่อหน้าผู้ใหญ่เค้าจนทุกคนตกใจ ด่าเราหยาบคายแล้วก็ไล่เหมือนหมูหมา หลังๆมาทุกคนก็รับรู้ว่าเค้าไม่ได้เลิกกับผู้หญิงคนนั้น หนูกลับมาจันท์เค้าก็ไปหากันเกือบทุกคืน งานการเสียหมด เงินที่หนูยื่นให้เค้าเอามาใส่พอร์ตหุ้น ถูกถลุงหายไปกับตา ตอนนี้เค้ายอมโกธรกับคนที่บ้านทุกคนเพื่อผู้หญิงคนเดียว หนักเข้าลูกก็ไม่มาหา เมื่อ3เดือนที่แล้วเรามีปัญหากันหนัก เค้าเริ่มไม่คุยกับหนู ไม่เอาใจใส่เลย หนูต้องเป็นฝ่ายโทรไปตามจิกด้วย เอาใจด้วย จน1เดือนที่แล้วหนูขาดการติดต่อกับเค้าไปเลยเผื่อเค้าจะดีขึ้น เค้าส่งข้อความมาบอกให้หนูกับลูกขึ้นไปกรุงเทพ พอหนูบอกจะไปก็ยักท่า บอกว่าเค้าไม่ได้เลิกกับทางนั้นนะ ต้องไปปิดหูปิดตา เลี่ยงการทะเลาะ ผู้หญิงคนนั้นก็สั่งให้เค้ามาหย่ากับหนูเหมือนกัน ตอนนี้ในโทรศัพท์เค้าก็มีรูปผู้หญิงคนนั้นนะ หนูปี๊ดแตกเลย บอกว่างั้นไม่ไป ถ้าไม่เลิก(ตอนนี้ไม่มาหาลูกเดือนครึ่งแล้ว พ่อหนูก็เริ่มไม่พอใจ) โทรไปหาผู้ใหญ่ฝ่ายเค้า เค้าบอกงั้นให้สามีมาหาหนูได้มั๊ย ไม่อยากให้ไป เดี๋ยวทะเลาะกันเหมือนคราวที่แล้ว (แน่นอนเมื่อเค้าไม่ยุติการนอกใจการทะเลาะย่อมมี) แต่ถ้าเค้ามาหา พอกลับไปเค้าก็ไปสานสัมพันธ์กันต่ออีก ผู้ใหญ่เริ่มให้ท้ายเค้าว่ายังไงเค้าก็ต้องไปหากันไปเคลียร์กะทางโน้น (ไปเกือบทุกวันยันเช้า) ลูกหนูถึงจะไม่เคยเสี้ยมแต่เค้าก็รับรู้ได้จากเรื่องที่หนูคุยกับคนอื่นๆ นานเข้าพ่อเค้าไม่มาหา เค้าพูดว่า"แม่ หนูไม่มีพ่อแล้วใช่ป่ะ?" เด็ก2.9 ขวบ หนูพูดต่อไม่ออกได้แต่บอกว่า" เราอยู่กัน2คนก็มีความสุขกันไม่ใช่เหรอคะลูก " พอเล่าให้ผู้ใหญ่ฝ่ายเค้าฟัง เค้าก็หาว่าเราไปสอนให้ลูกพูด ยังไม่ยอมรับความจริงกันว่าพ่อมันเริ่มผูกปมในใจให้ลูกแล้ว ตั้งแต่8เดือนที่แล้วยันวันนี้ หนูน้ำหนักลดฮวบด้วยความเครียด นอนไม่หลับ พอ3เดือนให้หลังที่เค้าเริ่มตีตัวห่างหนูนอนไม่หลับ ฝันเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา เป็นแบบนี้เกือบทุกคืน ทั้งที่คิดว่าตัวเองทำใจที่จะเลิกกับเค้าได้ แต่ก็ยังแอบหวังเอาลูกมาช่วยดึงเค้ากลับมา แต่ดูยากเหลือเกิน ปากบอกว่ารักลูก แต่ลูกไม่สามารถทำให้เค้าตีตัวจากผู้หญิงคนนั้นได้เลย หนูไปตักบาตรเกือบทุกวัน ปล่อยปลาบ้าง ตอนนี้เหมือนคนมือถือสากปากถือศีล ปากบอกอโหสิกรรมให้เค้าทั้ง2 กรวดน้ำให้ แต่ใจมันแค้นแน่นอก นึกถึงเค้ากับผู้หญิงคนนั้นแล้วจิตเตลิด อยากฆ่ามันให้ตาย อยากจ้างนักสืบไปสืบประวัติแล้วประจานตัวมันให้พ่อแม่มันรู้ แต่มันก็เป็นเพียงความคิด(ดูจิตใจหนูแย่มากเลยใช่มั๊ยคะ) เคยคิดฆ่าตัวตายแต่หนูรักลูกมากหนูทำร้ายตัวเองไม่ได้ ไม่งั้นใครจะอยู่ดูแลลูกหนู (ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงใจพ่อแม่เลย คิดถึงแค่ลูก) ตอนนี้มีแต่เรื่องเลวๆของสามีกับเมียน้อยวนเวียนเข้ามาในหัวจนเหมือนคนบ้า อารมณ์ขึ้นๆลงๆ วันนี้อยากหย่า พรุ่งนี้อยากดีกับเค้า (แต่อยูกับลูกหนูพยายามบังคับอารมณ์ให้ปกติ) เหมือนคนบ้าคุยกันทีก็ทะลาะกันพอเราเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ร้องไห้ ปากสั่น แล้วเค้าก็วางหูใส่ เรายังสนทนากันไม่จบโทรไปมันก็ไม่รับเราก็กดๆโทรจนแทบบ้า (อารมณ์หนูเป็นแบบนี้จริงๆค่ะ ) แปลกนะคะเค้าทำร้ายจิตใจหนูขนาดนี้ คนอื่นให้คิดถึงข้อเสียเค้าแล้วตัดใจซะ แต่สำหรับหนูยังคิดถึงแต่คราวเค้ารักเรา เรามีความสุขขนาดไหน ยังยึดมั่นถือมั่น ยังอยากได้ครอบครัวที่อบอุ่นกลับคืนมาอยู่ ตอนนี้ความสุขอยู่ที่ไหนหนูถามตัวเองทุกวัน
ความต้องการ
-หนูขอเค้าหย่าตลอดเค้าบอกขอเวลาแก้ตัว แต่การกระทำเค้าไม่ดีขึ้นเลย หนูอยากหย่าให้เค้ากลายเป็นคนอื่นให้เร็วที่สุด หนูจะได้ไม่ต้องบ้าแบบนี้ แต่เค้ากับที่บ้านเค้าก็ยังไม่ยินยอม หนทางนี้ดีมั๊ยคะ -จริงๆพื้นฐานจิตใจสามีไม่ได้เป็นคนเลวร้าย แต่ความลุ่มหลงกิเลสทำให้เค้ามัวเมา มีวิธีไหนจะชักนำเค้ากลับมาได้บ้างมั๊ยคะ(ตอนนี้ไม่ฟังใครทั้งนั้น) -มีหนทางไหนที่ใจหนูจะหลุดจากทุกข์บ้างคะในเมื่อหนูไม่ปล่อยวางอะไรเลย หนูเข้าขั้นเป็นผู้ป่วยจิตเวชหรือยังคะ หนูรู้สึกสับสนในชีวิตมากๆ อยากแต่จะร้องไห้ จมอยู่แต่กับความทุกข์ -คิดว่าสิ่งที่หนูเจอมามันเลวร้ายที่สุดหรือยังคะ ถ้าเพื่อลูกจริงๆหนูควรทนต่อเพื่อให้ลูกมีพ่อหรือตัดขาดเค้าดีคะ
ชื่อผู้ถาม
สาคู
วันที่เขียน
7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 03:16:25
จำนวนคนเข้าดู
9432

คำตอบ

คำตอบที่ 1
อาจารย์พอเข้าใจภาวะทางจิตใจที่เกิดขึ้นกับคุณสาคูครับว่าเจ็บปวดทรมานแค่ไหน อาจารย์ขออนุญาตแนะนำดังนี้ครับ -หนูขอเค้าหย่าตลอดเค้าบอกขอเวลาแก้ตัว แต่การกระทำเค้าไม่ดีขึ้นเลย หนูอยากหย่าให้เค้ากลายเป็นคนอื่นให้เร็วที่สุด หนูจะได้ไม่ต้องบ้าแบบนี้ แต่เค้ากับที่บ้านเค้าก็ยังไม่ยินยอม หนทางนี้ดีมั๊ยคะ ตอบ : การหย่าขาด หรือไม่หย่านั้นคงไม่เกี่ยวกับการอารมณ์บ้า(ตามที่คุณสาคูเรียก) เพราะการหย่านั้นเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ทางสังคมแต่เพียงอย่าเดียว อาจารย์เห็นคนมากมายที่หย่าแล้วความวุ่นวายก็ยังคงอยู่ และขณะเดียวกันคนที่ไม่หย่าแต่ก็สามารถดำเนินชีวิตไปได้อย่างปกติ ดังนั้น อาจารย์จึงเห็นว่าคุณสาคูไม่ควรเอาใจไปปักกับเรื่องหย่าหรือไม่หย่าเลยครับ สิ่งสำคัญที่เราควรให้ความสนใจก็คือ คุณสาคูเป็นภรรยาและคุณแม่ที่ทำหน้าที่ดีอยู่แล้ว ก็ขอให้รักษาความดีของเราต่อไป แต่ธรรมชาติของคนดีมักยอมถอยให้คนที่ผิดศีลเสมอ จนคนดีถูกต้อนให้พ้นทางไป เช่น เป็นฝ่ายขอหย่าบ้าง เป็นฝ่ายที่หนีออกจากบ้านบ้าง พาตัวไปสู่จุดอับซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกเพราะคนที่ควรอาย คนที่ควรหนี น่าจะเป็นฝ่ายที่ผิดศีลมากกว่า ในเมื่อเราทำดีอยู่แล้วก็ขอให้ดำเนินชีวิตตามปกติของเราต่อไปครับ การทำบุญตักบาตร ปล่อยปลา เป็นสิ่งที่ดีครับ แต่เป็นการทำบุญภายนอก คุณสาคูควรเพิ่มการทำบุญ “ภายใน” นั่นคือ การสวดมนต์ ทำจิตใจให้สงบ ขอให้สร้างความดีให้กับตัวเอง อาจารย์ขอแนะนำให้ศึกษาวิธีการสร้างบุญบารมี จากพระนิพนธ์ของสมเด็จพระสังฆราช ตาม Linkด้านล่าง http://www.fungdham.com/download/book/prasunkharat/howtogetboon.pdf เมื่อตนเองมีบุญ บารมีแล้ว ขอให้แผ่เมตตาให้ สามี ลูก จงมีแต่ความสุขความเจริญลองหาหนังสือหลวงพ่อจรัญที่ท่านสอนเรื่องกฎแห่งกรรมเกี่ยวกับสามีภรรยาไว้ เรื่อง สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี ตามลิงก์ด้านล่างครับ http://www.scribd.com/doc/102347249/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B0-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A0%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B2-%E0%B8%A0%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B5 ที่อาจารย์แนะนำให้คุณสาคูสวดมนต์ จะมีส่วนดีก็คือ ใจคุณสาคูจะมีที่เกาะยึดเหนียว ไม่ไหลไปตามแรงอาฆาต เคียดแค้นสามีและผู้หญิงคนนั้น ธรรมดาของจิตหากไม่มีอะไรให้เกาะแล้วมักจะไหลไปสู่ที่ต่ำเสมอ ไหลแล้วดึงขึ้นได้ยาก ดังนั้นเราต้องหาที่ให้จิตอยู่ วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การสวดมนต์ นั่นเอง แต่ในช่วงต้นต้องอดทนมากๆๆๆ เพราะเป็นการหัดอบรมจิตใจครับ เมื่อสวดมนต์บ่อยๆ จิตจะสงบ เมื่อจิตสงบ อาการบ้าก็จะหายไป อาการฝันซ้ำไปซ้ำมาก็จะหายไป แล้วปัญญาก็จะเกิดขึ้นว่าจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร -จริงๆพื้นฐานจิตใจสามีไม่ได้เป็นคนเลวร้าย แต่ความลุ่มหลงกิเลสทำให้เค้ามัวเมา มีวิธีไหนจะชักนำเค้ากลับมาได้บ้างมั๊ยคะ(ตอนนี้ไม่ฟังใครทั้งนั้น) ตอบ : เป็นเรื่องธรรมดาครับที่คนย่อมถูกกิเลสชักนำให้ทำในกรรมชั่ว วิธีที่จะชักนำให้เค้ากลับมาไม่มีในตอนนี้หรอกครับ จนกว่าเขาจะได้สติเอง หากคุณสาคูได้อ่านหนังสือที่อาจารย์แนะนำ เรื่อง สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี ก็จะได้แง่คิดว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ ยิ่งเราวิ่งไล่จิกตามสามีเท่าไหร่ ยิ่งแสดงอาการกราดเกรียวจนผิดวิสัยมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งห่างเราไปมากเท่านั้น สถานการณ์ก็ยิ่งคลี่คลายยากไปเป็นลำดับ คำแนะนำของอาจารย์จะไม่ใช่วิธีการเปลี่ยนแปลงจิตใจสามี แต่อาจารย์อยากแนะนำให้ปรับจิตใจคุณสาคูมากกว่าขอให้อดทนทำตัวให้มีสติครับ อ่านหนังสือที่อาจารย์แนะนำไว้และปฏิบัติตามนั้นแล้ว คุณสาคูจะเห็นโอกาสที่สามีจะกลับมาครับ -มีหนทางไหนที่ใจหนูจะหลุดจากทุกข์บ้างคะในเมื่อหนูไม่ปล่อยวางอะไรเลย หนูเข้าขั้นเป็นผู้ป่วยจิตเวชหรือยังคะ หนูรู้สึกสับสนในชีวิตมากๆ อยากแต่จะร้องไห้ จมอยู่แต่กับความทุกข์ ตอบ คุณสาคูยังไม่ป่วยเป็นจิตเภทหรอกครับ เพราะเท่าที่ดูการเล่าเรียบเรียงปัญหายังไม่สับสน รู้ว่าตนเองรู้สึกอย่างไร ต้องการอะไร สำหรับการสับสนในช่วงนี้เป็นเรื่องธรรมดาๆ อาจารย์อยากบอกว่ามีภรรยาอีกหลายๆๆคนที่รู้สึกเช่นเดียวกับคุณสาคูอยู่ในขณะนี้ เบื้องต้น อาจารย์คงอยากให้คุณสาคู ทำใจยอมรับอย่างแท้จริงว่า “สามีของเราเปลี่ยนไปแล้ว” จุดประสงค์เพื่อให้คุณสาคูทำใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่มีอาการต่อต้านกับสภาพความเป็นจริง ไม่โหยหาภาพทรงจำในอดีตเมื่อทำใจยอมรับได้แล้ว ต่อไปจะเข้าสู่สภาพจิตใจที่กล้าหาญที่จะต้องดำเนินชีวิตต่อไป หากเป็นกรณีเลวร้ายสุดๆ (สมมตินะครับ) คือ แยกทางเดินกัน คุณสาคูจะต้องเข้มแข็งเป็นที่พึ่งของลูกต่อไปได้ตามลำพัง เกียรติและศักดิ์ศรีที่แท้จริงของเราไม่ได้ไปอยู่ที่การตามล่าสามีให้กลับมา หากแต่อยู่ที่เราได้ทำหน้าที่ของแม่ได้ดีแล้วหรือยังมากกว่า คุณสาคูเป็นคนดี ขอให้เลี้ยงลูกด้วยความดีต่อไป สิ่งใดที่ไม่คู่ควรกับความดีแล้วคุณสาคูจะกอดรั้งไว้อย่างไรสิ่งนั้นก็จะหลุดไปหาความไม่ดีอยู่วันยังค่ำ คำถามของอาจารย์ที่จะชวนให้คุณสาคูคิดก็คือ "คุณสาคูอยากอยู่กับความสว่างหรือจะอยู่กับความมืด ?" อยู่กับความสว่างก็ควรใช้ชีวิตอยู่กับสติ อยู่กับความมืดก็ใช้ชีวิตกับอารมณ์ คนดีจะอยู่คู่คนดี คนเลวก็จะอยู่คู่คนเลว -คิดว่าสิ่งที่หนูเจอมามันเลวร้ายที่สุดหรือยังคะ ถ้าเพื่อลูกจริงๆหนูควรทนต่อเพื่อให้ลูกมีพ่อหรือตัดขาดเค้าดีคะ ตอบ ความเลวร้ายถึงที่สุดหรือไหมนั้นอาจารย์ตอบไม่ได้หรอกครับ เพียงแค่อาจารย์อยากให้สติว่า ในตอนนี้ ปัจจุบันนี้ วินาทีนี้ การทำเพื่อลูกนั้นยังไม่เกี่ยวกับการหย่าหรือไม่หย่าหรอกครับ สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือ การเรียกสติของตัวเอง ความเป็นตัวของตัวเองกลับคืนมา เพราะตอนนี้จิตใจของคุณสาคูเตลิดไปไกลแล้ว เกิดภาวะอารมณ์แปรปรวน ซึ่งจะทำให้ไม่มีความมั่นคงในการใช้ชีวิต และจะส่งผลกระทบต่อลูกโดยตรง เพราะเมื่อแม่ไม่นิ่ง ลูกย่อมไม่นิ่ง คุณสาคูจะกลายเป็นคนแรกที่ทำร้ายลูกเพราะจิตใจอันร้อนรนในขณะนี้ หากคุณสาคูจะทำเพื่อลูกจริง ก็ควรรีบเรียกความสงบกลับมา ใครจะดี ใครจะเลวก็ปล่อยมันไปก่อน ใครจะพูดอะไรก็ช่าง ขอให้เราทำจิตให้เบิกบาน ยิ้มให้ลูกเห็น ให้ลูกอบอุ่น อย่าให้ลูกต้องกระทบกระเทือนจิตใจเพราะเด็กอายุขนาดนี้กำลังเก็บทุกอย่างไว้ในจิตใต้สำนึก ยังมีใครอีกหลายๆคนที่ย่ำแย่กว่าเราแต่พวกเค้ายังผ่านมันมาได้ ดังนั้นจงทำใจให้กล้าหาญว่า "ไม่ว่าจะเกิดอะไรต่อจากนี้ ฉันจะอยู่เพื่อลูกต่อไป" เป็นกำลังใจให้ครับ
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 399
วันที่เขียน
7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 10:07:16
คำตอบที่ 2
ขอกราบขอบพระคุณพระอาจารย์มากๆเลยนะคะ หนูก็เริ่มอ่านหนังสือธรรมะมาบ้าง แรกๆก็พอคิดได้ ฝึกตนให้สงบนิ่งมองทุกอย่างเป็นอนัตตา แต่ก็ยังทำได้แค่ระยะสั้น จิตฟุ้งซ่านไปหมด หนูเจอบทความนึงกล่าวว่า "การดับทุกข์นั้นไม่ได้เกิดเพราะ "เขา" ต้องเลิกทำในสิ่งที่ทำให้เธอทุกข์ แต่ "เธอ" ต้องเลิกทุกข์ในสิ่งที่เขาทำต่างหาก " เป็นแค่เพียงระยะสั้นที่เราปฏิบัติได้จึงยังไม่เห็นผล ตอนนี้หนูได้คำแนะนำจากพระอาจารย์หนูว่าสติหนูเริ่มมาอีกครั้งอีกครั้งแล้ว "สติมา ปัญญาจะตามมาในไม่ช้า" บทความ คำสั่งสอน และคำแนะนำดีๆจากหลายๆท่าน หลายทางคงจะช่วยขัดเกลาจิตใจหนูได้เป็นอย่างมาก หนูขอฝากบทความดีๆ ไว้1บทความเพื่อคนที่ประสบเคราะห์กรรมเดียวกับหนูจะพอคลายทุกข์ได้บ้างนะคะ แด่เพื่อนหญิง (Sisterhood) #7 http://www.noknoi.com/magazine/series.php?id=969
ชื่อผู้ตอบ
สาคู
วันที่เขียน
7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 10:25:52
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร