ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

พระทำแบบนี้ผิดมั๊ยค่ะ
รายละเอียด
คือแฟนเป็นผู้ชายที่เจ้าชู้มาก ทะเลาะ กันบ่อยๆจนเมื่อปี2553ได้มีโครงการบวชพระวัดพระธรรมกาย ก็เลยชวนเขาไปบวชเขาต่อรองโดย ต้องใช้หนี้ให้ สองหมื่นบาท ก็รับปากไปนะคะ พอพาไปสมัครที่วัดพระธรรมกาย เขาเลือกไปอยู่วัดอื่นในโครงการเดียวกันที่จังหวัดลพบุรี ช่วงแรกพระอาจารย์ก็ชมว่า เรียบร้อยดี อยู่มาปีนึงก็มีโทรศัพย์จากเด็กผู้หญิง โทรเข้าเบอร์เขา แต่เราเอามาใช้ก่อนหน้านั้น น้องคนนั้นเล่าให้ฟังว่า พระ ย้ายมาอยู่ที่สระบุรี แล้ว และเจอกันที่วัดมวกเหล็ก พระชอบมอง แบบไม่ใช่มองธรรมดา เราก็บอกน้องเขาว่าพระมีครอบครัวก่อนมาบวชแล้วนะ น้องเขาก็พูดดีไม่ได้มีอะไรเกินเลย น้องเขาลาศีลออกมาก็เลยลองโทรมาดู จบเรื่องนั้น มาปี2556ก็ผ่านมา 3ปีกว่าแล้ว พระ ก็ไม่เคยดทรกลับบ้าน เราเองก็ต่างคนต่างอยู่ตามหน้าที่ของตน ไม่ได้ตามไปเยี่ยมที่วัดเลย แต่รู้ข่าวว่าปีนึงๆย้ายไปหลายวัดมาก ปีนี้พอดีเปิดเจอเฟรชบุ๊ค พระใช้ชื่อปลอม และโพสต์รูป ในสมัยที่เป็นฆราวาส และยิ่งกว่านั้นคือ มีเพื่อนในเฟชรบุ๊ค มากถึง 500กว่าคน เป็นผู้ชายไม่ถึง10คน และเป็นเพื่อนพระมาก่อนที่เรารู้จัก3คน เราเลยเพิ่มสาวๆในเฟรชนั้นบางคน แล้วถามไปทางเฟชรบุ๊คว่า รู้จักกันมาก่อนมั๊ย รู้รึเปล่าว่าในขณะที่เขาใช้เฟรชบุ๊ค เขายังเป็นพระอยู่ คำตอบที่ได้จากทุกคนคือ ไม่รู้จักมาก่อน เขาแอดมาเอง ไม่รู้จริงๆว่าเป็นพระ ทางข้อความก็มีคำหวานๆ พบเฟรชบุ๊คนี้เมื่อ คืนวันที่24 คิดนะคะว่า ในเมลล์บล็อก ข้อความส่วนตัวเขาคงจีบใครในนั้น และสงสัยว่า เอาเงินที่ไหนมาซื้อโทรศัพย์ เพราะ ไม่ได้มีเงินเก็บไปเลย เคยส่งให้ตอนเป็นพระใหม่ๆ2พันและโทรศัพย์เครื่องเก่าก็ไม่น่าจะเล่นเฟรชบุ๊คได้ รู้สึกทั้งหึง ทั้งหวง ทั้งเสียใจค่ะ อยากให้เขากลับตัวเป็นคนดี แต่เขาทำแบบนี้ อย่างนี้ พระ รูปนี้ แค่เป็นอาบัติเล็กน้อย หรือ ถึงขั้นปราชิกคะ และ ถ้าพระ รูปนี้เคยแอบเล่นเฟรชบุ๊คหรือ สไกด์หรือสื่ออินเตอร์เน็ตฉันชู้สาว จะผิดกฏสงฆ์แค่ไหนคะ ต้องดำเนินการยังไงบ้างคะ อยาก สั่งสอนเขาให้เข็ดหลาบบ้าง ดิฉันสามารถทำเรื่องร้องเรียนได้ที่ไหน และมีขั้นตอนอย่างไรบ้างคะ
ความต้องการ
ต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการแจ้งเรื่องที่พระ (อดีตสามี)เล่นเฟรชบุ๊ค กับผู้หญิงโดยปิดปังความเป็นพระไว้ ดิฉันสามารถทำได้มั๊ยคะ และ ดิฉันต้องทำอย่างไรบ้างคะ ตอนนี้ดิฉันเอากล้องถ่ายรูปถ่ายหน้าเฟรชบุ๊คเขา และก็ยังมีข้อความที่ดิฉันคุยกับผู้หญิงที่บอกว่า ไม่รู้จัก และไม่รู้ว่าเขาเป็นพระ แต่ดิฉันไม่มีหลักฐานใดๆเลยว่า พระได้จีบหรือ ทำอนาจาร หรือดูภาพ อนาจารผ่านสื่ออินเตอร์เน็ตหรือเปล่า
ชื่อผู้ถาม
ดวงกมลยา
วันที่เขียน
26 ตุลาคม พ.ศ. 2556 21:28:13
จำนวนคนเข้าดู
4754

คำตอบ

คำตอบที่ 1
1. ต้องเข้าใจก่อนว่า เมื่อผู้ชายไปบวชพระ แสดงว่า เขาได้ตัดขาดจากโลกไปแล้ว เขาไม่ได้เป็นสามีใครแล้ว เขาเป็นอิสระไปแล้ว เพราะการบวชถือว่าเป็นการเกิดใหม่ ไม่ผูกมัดเกี่ยวข้องกับใครอีก ดังนั้นคนที่ไปบวช เมื่อก่อนบวชจะมีสถานะทางสังคมอย่างไรก็ตาม เมื่อไปบวชพระก็ตัดขาดออกไปเลย สรุปคือเขาและคุณหมดความเป็นสามีภรรยากันแล้ว ไม่ว่าใครก็ตาม จะเป็นเจ้าชาย เป็นกษัตริย์ เป็นพลเอก เป็นนายร้อย เป็นเศรษฐี เป็นกรรมกรยาจก หรือเป็นอะไรก็ตาม ทุกคนที่ไปบวชจะมีฐานะเสมอกันคือเป็น พระสมณะ เท่านั้น ไม่มีเจ้า ไม่มีพลเอก ไม่มีกรรมกรยาจก ไม่มีความเป็นสามีของใครแล้ว คุณไปหึงหวงพระ เคียดแค้นพระไม่ได้ เพราะเขาไม่ใช่สามีคุณแล้ว เมื่อก่อนนั้นใช่ แต่เขาบวชแล้ว มันจบไปแล้ว เป็นคนละคนคนละโลกแล้ว 2. พระที่พูดคุยกับผู้หญิงในลักษณะชู้สาว เกี้ยวหรือจีบนั้นไม่ว่าจะโดยวิธีการใด ถือว่าผิดและบาปทั้่งนั้น จะคุยซึ่ง ๆ หน้าหรือจีบผ่านมือถือ facebook ผิดหมด จะใช้ชื่อปลอม จะใช้รูปตอนยังไม่บวชหรืออย่างไรก็ตาม ขณะที่ตัวเองเป็นพระนั้น ผิดวินัยและทำให้คนเสื่อมศรัทธาได้ เขาควรรู้ตัวเอง ควรศึกษาเล่าเรียน หรือไม่ก็ลาสิกขาออกไปเสีย ก่อนจะทำบาปกรรมไปเรื่อย ๆ การทำบาปกรรมหนักแบบนั้น จะมีผลทำให้ชีวิตเขาหาความเจริญก้าวหน้าได้ยาก ถ้ารู้ก็ควรรีบไปตักเตือนและให้เขาลาออกไปเสียจากความเป็นพระ การที่พระจีบผู้หญิงนั้น ผิดวินัยหนัก แต่ยังไม่ถึงขั้นปาราชิกคือยังไม่ขาดจากความเป็นพระ จะขาดจากความเป็นพระก็ต่อเมื่อพระรูปนั้นมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น เพศสัมพันธ์นั้นอาจจะทางปาก ทางทวารหนัก หรือช่องคลอด ทางใดทางหนึ่ง มีผลทำให้ขาดความเป็นพระได้ทั้งนั้น 3. สิ่งที่คุณทำได้คือ 3.1 รีบไปบอกอุปัชฌาย์อาจารย์ของเขา บอกเจ้าอาวาสที่เขาอยู่ถึงพฤติกรรมของพระแบบนี้แล้วคอยติดตามเรื่องราวทางคณะสงฆ์อีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไร 3.2 ติดต่อบอกพระรูปนั้น ว่า ทำแบบนั้นไม่เหมาะสม เสียหายและบาป จงบอกในฐานะที่คุณเป็นชาวพุทธ แต่อย่าบอกในฐานะที่คุณคิดว่าเป็นภรรยาเขา เพราะตอนนี้คุณกับเขาไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้า พวก facebook มือถือ ทำให้พระผิดพลาดวินัยได้ง่าย พระหลายรูปไม่เข้าใจพระวินัย ไม่ศึกษาเล่าเรียนด้วย ก็ไม่รู้ ก็เลยทำผิดพลาดได้ง่าย ๆ ถ้าผิดพลาดเล็กน้อยก็พอแก้ไขได้ แต่ถ้าผิดพลาดอย่างรุนแรง ไม่สามารถจะแก้ไขได้ ต้องรีบลาเพศออกมาเป็นฆราวาสเสีย จะได้ไม่ทำตัวหลอกลวงชาวบ้าน สะสมกรรมหนักยิ่งขึ้นต่อไป
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
29 ตุลาคม พ.ศ. 2556 10:20:03
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร