ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

เรื่องการวางแผนอนาคต
รายละเอียด
กราบนมัสการคะพระอาจารย์ คือ ตอนนี้หนูมีปัญหาชีวิตที่ดูสับสนไปหลายเรื่องมากเลย ทั้งเรื่องเรียน เรื่องการทำงาน เรื่องเพื่อน ครอบครัว คนรัก คือตอนนี้หนูอยู่ปี4 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์คะพระอาจารย์แล้วหนูไม่รู้ว่าหนูควรจะทำอย่างไรกับอนาคตของหนูดี ตอนนี้ใจหนูเองอยากจะเรียนต่อป.โทด้านครุศาสตร์ เพื่อจะได้เป็นครูในอนาคตแต่การเป็นครูในปัจจุบันนี้ก็ไม่ง่ายเลยคะพระอาจารย์หนูไม่รู้ว่าเรียนจบป.โทแล้วจะได้เป็นครูแบบไหน บางคนก็ว่าได้ป็นครูมหาลัย บางก็ว่าเป็นครูสอนพิเศษ แต่ที่หนูอยากเป็นคือหนูอยากเป็นครูสอนเด็กประถมในต่างจังหวัดคะพระอาจารย์ แล้วพอไปปรึกษากับแม่ กับพี่ญาติๆพี่เขาก็แบบทำไมเรียนจบด้านนี้ถึงไม่ทำงานด้านนี้ละ จะไปเรียนครูอีกทำไมเป็นครูลำบากนะ ฯลฯ ยังไม่จบคะพระอาจารย์ แฟนหนูเขาก็มีแพลนหลังเรียนจบเรียบร้อยแล้วว่าหลังจากนี้จะไปเรียนต่อต่างประเทศ คือเขาเรียนคณะบัญชีคะพระอาจารย์ยังไงจบมาเครดิตเขาก็แบบดีกว่าหนูอยู่แล้ว แบบหนูหมายถึงยังไงเขาจบมาก็มีงานทำ มีการงานที่มั่นคงแน่นอน ซึ่งแบบต่างจากหนูที่แบบไม่มีความแน่นอนอะไรเลยในชีวิต จบมาแล้วจะมีงานทำป่าวก็ไม่รู้ อนาคตจะเรียนต่อหรือจะทำงานหรืออะไรยังไงก็ไม่รู้ แล้วถ้าทำงานทำงานอะไรละ หนูเคยเจอพ่อเขาครั้งนึง พ่อเขาก็แบบดูไม่ค่อยชอบคณะหนูเท่าไร แบบคณะนี้เรียนจบไปจะทำงานอะไร มันก็เป็นคำถามทั่วไปคะ แต่หนูก็รู้สึกว่าเขาไม่ค่อยยอมรับเท่าไร หนูเลยคิดไปไกลถึงอนาคต ว่าแล้วหนูจะมีอะไรไปคู่ควรกับลูกชายเขา หนูดูไม่มีอะไรดีเลย เขาแบบเป็นระดับนักเรียนนอกแล้วหนูละ ดูล่องลอยจัง ตอนนี้หนูรักเขานะรักเขามาก แต่ก็ดูไม่มีอะไรที่ดูเหมาะสมกับเขาเลย ดูเลยพูดกับเขาประจำว่า ถ้าเธอเจอคนที่ดีกว่าคนที่ใช่กว่าเราก็พร้อมให้เธอไปนะ แต่ใจจริงๆคงทำไม่ได้หรอกหนูคิดว่างั้น พอดูไม่มีอะไรแน่นอนในอนาคตก็เริ่มไปไกลถึงเรื่องครอบครัว ตอนนี้ครอบครัวหนูแบบไม่ค่อยดีเท่าไร พ่อมีภรรยาอีกคน แม่แบบทุกข์มาก คิดทุกเรื่องอย่างละเอียดจนเหมือนกลายเป็นคนบ้า แม่จำอะไรใหม่ๆไม่ได้ แม่ได้ยินไม่เหมือนเดิม ชอบพูดเรื่องในอดีต และอารมณ์แปรปรวนมากๆแบบสมมุติตอน9.30ทะเลาะกับน้องบนห้องเสียงดังมาก แต่พอ10โมงทะเลาะกันยังไม่จบลงมาเจอหนูก็ยิ้มให้ หนูก็งงเต็กเลยคะพระอาจารย์ไม่รู้ควรจะอยู่ในโหมดอารมณ์ไหนดี แม่ไปหาหมอที่รพ.บ่อยมากๆแต่พอถามทุกครั้งเขากลับบอกไม่เป็นอะไร หนูไม่อยากเชื่อเลยเพราะถ้าไม่เป็นอะไรจริงๆหมอคงไม่นัดเจอทุกเดือนแบบนี้ ตอนนี้หนูรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถจัดการชีวิตตัวเองหรือควบคุมอะไรได้เลย หนูเรียนปี4แล้วหนูมีเวลาว่างอาทิตย์ละ3วันแต่หนูกลับจัดการไม่ได้ว่าควรทำอะไรวันไหน วันไหนควรทำกิจกรรม วันไหนควรอยู่กับเพื่อน วันไหนควรอยู่กับแฟน รู้สึกสับสนไปหมด
ความต้องการ
หนูรู้สึกสับสนและจัดการชีวิตตัวเองในหลายๆเรื่องไม่ได้คะพระอาจารย์ หนูอยากทราบว่าหนูควรทำอย่างไรดี หนูพยายามจะมองสูงกว่าปัญหาแล้วแต่เหมือนหนูปีนขึ้นไปไม่ได้ ปีนขึ้นไปแล้วมันดูมืดไปหมด หนูควรทำยังไงดีคะ
ชื่อผู้ถาม
กานต์
วันที่เขียน
2 กันยายน พ.ศ. 2556 02:26:11
จำนวนคนเข้าดู
1746

คำตอบ

คำตอบที่ 1
@รวงผึ้งอยู่กันมากก็จริง ผึ้งน้อยแต่ละตัว ยังพอใจในช่องแคบๆแออัดนนั้น จัดสรรได้ลงตัวฉันใด เราเหนือกว่าผึ้ง จึงต้องอยู่ให้ได้เช่นกัน@ ใจเย็นๆ ยิ้ม แล้วหายใจลึกๆ ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ชีวิตวุ่นวายสับสน อาจทำให้งง เป็นปกติ ขอแบ่งเรื่องราวหลักๆตามนี้ก่อน ลองแบ่งตามนะ หากระดาษสักใบก็ได้ เขียนหัวข้อตามด้านล่างก่อน (อาจจะลำบากสักหน่อย เพราะทำตารางExcel ให้ดู ลำบากในนี้ 1.ตัวของเราเอง (ให้เขียน สภาพตามจริงหรือสภาพที่วางแผนไว้ในอนาคต) -ปัจจุบันของเรา -อนาคตการทำงานของเรา -อนาคตเรื่องเรียนของเรา -อนาคตเรื่องความรักของเรา 2.แม่ของเรา -ปัจจุบันของแม่เรา -อนาคตของแม่เรา 3.แฟนของเรา -ปัจจุบันของแฟนเรา -อนาคตของแฟนเรา แยกคอลัมถัดไปด้านขวาตามลำดับนะ ปัญหาที่เกิดในปัจจุบัน ปัญหาที่คิดว่าจะเกิดในอนาคต ข้อดี ข้อเสีย **อันนี้ลองให้ทำเป็นการบ้าน** ที่จะขอแนะนำ ให้ไล่ไปทีละเรื่อง มันพอทำพร้อมกันได้ เรื่องที่จะแก้มีทางออกอยู่แล้ว แต่ที่เราวิตก เป็นเรื่องของหัวใจใช่มั้ย เรื่องนี้จะหาเหตุผลมาหักล้างแค่ไหนก็ทำใจได้ยาก เรื่องความเหมาะสมกันมั้ยนั้น อย่าเพิ่งไปคิด ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด อยากทำอะไรก็ทำ เดินหน้าให้เต็มที่ และให้ได้ผลสัมฤทธิ์ออกมาให้ดีที่สุดในมารตรฐานของตัวเอง มันดีเสียกว่าไปตามใจคนอื่นแล้วเราไม่ได้ชอบที่จะทำ งานออกมา มันก็ไม่สวยงาม คนที่รอถากถางมีแน่นอน ถ้าแฟนเรา กับเราเป็นคู่กันจริงๆ ยังไงเสีย ศีลเสมอกัน ก็ไม่มีอะไรขวางได้นะ เคยมีคนที่พยายามทำอะไรฝืนกรรมมามากหลายคู่ เมื่อสุดๆแล้วมันไม่ใช่ ฟ้าดินก็พรากกันไปอยู่ดีไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ตั้งจิตให้มั่นทำหน้าที่ของตัวเองไป ตอนนี้ให้จัดการเรื่องเรียนเรื่องทำงานอะไรของเราให้เรียบร้อย ตัดสินใจเด็ดขาดไว้ก่อน ถ้ามีคนไม่เห็นด้วย ให้ไปคุยให้เค้าเข้าใจเรา ว่าเราต้องการแบบนี้ๆ เพราะเหตุผลนี้ๆ เมื่อเรื่องตัวเองจบ ให้พาแม่ไปหาหมอ ดูแลแม่ อาการนี้ คาดว่าเป็นอาการณ์เริ่มต้นของโรคอัลไซเมอร์ ไม่มีความรู้มากนัก แต่ลองปรึกษาหมอให้เร็วในช่วงนี้ อาจจะยังรักษาได้อย่าเพิ่งคิดมาก จำไว้ว่า ทั้งตัวเรา แฟน และ แม่ แท้จริงแล้ว เป็นคนละคน มีกรรมมีบุญมาต่างกัน มองเป็นเส้นขนาน 3 เส้น เดินทางกันไปตามยถากรรม ต้องเข้มแข็ง และยึดมั่นในตัวเองก่อน สิ่งที่เราหวาดกลัว บางที อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด หรืออาจจะเลวร้ายกว่าที่เราคิด ให้ตั้งสติเตรียมใจกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นเสมอ แต่ตอนนี้ให้อยู่กับปัจจุบันนะ อย่าเพิ่งคิดไกล ให้มันเกิดก่อน ค่อยเอาใจเราไปหม่นหมอง ตอนนี้ เอาตัวเองกับแม่ก่อน
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 299
วันที่เขียน
2 กันยายน พ.ศ. 2556 12:32:47
คำตอบที่ 2
สาธุ หนูจะลองทำการบ้านนี้ดูนะคะพระอาจารย์ นมัสการขอบพระคุณค่ะ
ชื่อผู้ตอบ
กานต์
วันที่เขียน
2 กันยายน พ.ศ. 2556 22:10:59
คำตอบที่ 3
เห็นว่ามีความสนใจที่จะเป็นครู มีข่าวเพิ่มเติมจะแนะนำ สนใจก็ลองหารายละเอียดตามเว็บไซด์นี้นะ http://www.kruwandee.com/news-id7634.html
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 299
วันที่เขียน
3 กันยายน พ.ศ. 2556 10:31:05
ทั้งหมด 3 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร