ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

อยากปลูกฝังให้ลูกเป็นคนดี
รายละเอียด
หนูได้เขียนมารับคำปรึกษาจากท่าน ดีใจมากที่ท่านบอกว่าหนูคือคนดีคนหนึ่ง หนูมีลูกสาวเล็กๆที่กำลังจะโตขึ้นทุกๆวัน หนูเลี้ยงลูกกับพ่อแม่หนู สามีแยกทางไปแล้ว แต่หนูเชื่อมั่นว่าลูกจะเป็นคนดีมีจิตสำนึกอย่างที่หนูเป็น แต่ด้วยสังคมและสิ่งแวดล้อม ณปัจจุบันมันมีแต่สิ่งยั่วยุชักจูงกันไปแต่ในทางเสื่อมเสีย วัยรุ่นติดเพื่อน ไม่รักเรียน มีเพศสัมพันธ์กันแบบไม่ยั่งคิด ที่บ้านมีหลานชาย 15ปี ลูกของพี่สาว ไม่สนใจเรียน เป็นกะเทย ติดศูนย์หลายวิชา คงจะจบม ต้น ยาก พูดไม่ฟัง งานบ้านไม่แตะ กินๆแล้วก็เล่นเน็ต แต่เขาไม่เที่ยวไม่เกเร แค่ขี้เกียจเรียน ไม่ค่อยมีจิตสำนึกที่ดี ไม่ค่อยนึกสงสารพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย เพราะหนูและพี่สาวเราเป็นเด็กดี พ่อเขาก็ดี แต่ทำไมหลานถึงได้ขาดจิตสำนึกที่ดี หรือเราสอนเขาไม่ดี หนูกลัวลูกหนูจะเป็นแบบหลาน คือไม่รักเรียนไม่มีจิตสำนึกที่ดี หนูปรารถนาอย่างยิ่งให้ลูกสาวหนู รักเรียน รักดี มีน้าใจ โอบอ้อมอารี เผื่อแผ่ อย่าใจจืดใจดำ มีสัมมาคราวะ เหมือนที่หนูก็เป็นนะคะ ไม่มากก็น้อยคะ หนูจะพยายามสอนเขาแบบนี้ เราจะต้องสนิทสนมกันให้มากใช่มั้ยคะต้องคุยกันได้ทุกเรื่อง หนูไม่ปราถนาว่าลูกจะต้องเก่งแบบสุดๆ แต่ขอแค่ลูกหนูเป็นคนดีมีน้ำใจ อย่าเหมือนพ่อของเขาที่ติดอยู่แต่กับกิเลสตัณหา เขาไม่เคยอยู่เฉยๆได้เลยถ้าไม่เล่นเกมส์ก็ต้องดูหนังถ้าไม่ดูหนังก็ต้องหลับไปเลย เขารั้นมากๆอยากทำอะไรต้องได้ทำไม่ว่าจะทำให้ใครๆเดือดร้อนแค่ไหนเขาไม่เคยสนใคร ไม่ค่อยมีน้ำใจ ทำทุกอย่างตามอารมณ์ เอาอารมณ์มาเป็นสรณะ หนูพูดกรึปล่าวไม่ทราบ จนเราต้องแยกกันเพราะเขารักสนุก ไม่รู้จักหยุดไม่รู้จักพอ ไม่มีความรับผิดชอบ ปากบอกรักทุกคน แต่ไม่เคยเสียสละแม้แต่เวลาที่จะมาอยู่เคียงข้างกันเลย หนูกลัวลูกจะติดสิ่งยั่วยุเช่นนี้ ส่วนหนูอยู่นิ่งๆได้ อยู่เงียบๆได้ อยูได้โดยไม่ดูทีวี ไม่ติดละคร อะไรทีอยากทำอยากได้หนูรอได้เสมอรอเวลาและโอกาสที่ทำแล้วไม่กระทบกระเทือนใคร หนูไม่เคยเสียดายแรง หนูไม่เคยกลัวเสียเปรียบ ทั้งหมดนี้มันอยู่ที่การสั่งสอนของเราใช่รึปล่าวคะ มันคงจะไม่ได้ติดมาจากพันธุกรรมหรอกใช่มั้ยคะ หนูว่าคุณพ่อหนูท่านสั่งและสอนหนูมาดีมากๆคะ เราไม่สนิทกันมากหรอกคะ หนูโตมากับปู่กับย่า แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสพ่อจะสอนจะสั่ง แต่มันโชคดีที่หนูรับมันไว้และมาปฎิบัติใช้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี ตอนเด็กหนูต้องไปนอนกับย่าถึงแม้ว่าหนูจะยังอยากที่จะไปไหนมาไหนเที่ยวเล่นอยู่กับเพื่อนๆมากแค่ไหน แต่เมื่อถึงเวลาหนูต้องไปคะ เพราะพ่อบอกว่ามันคือหน้าที่ ที่หนูต้องรับผิดชอบดูแลย่า พ่อบอกว่าถึงแม้เราเป็นหญิงแต่อย่าหวังพึ่งผู้ชาย ทุกคำที่พ่อพูดหนูนำมาใช้ และมันดีมากที่หนูกลายเป็นคนมีน้ำใจมีความรับผิดชอบและหนูจะพึ่งพาและขอช่วยคนอื่นน้อยมาก
ความต้องการ
หนูอยากให้ลูกเป็นแบบที่หนูเป็นค่ะ แต่อย่ายอมคนมากเกินไปเหมือนที่หนูเป็น ที่หนูพูดมาหนูคิดถูกแล้วรึยังคะถ้าหนูอยากให้ลูกเป็นคนดี หนูนับถืออิสลามตามบรรพบุรุษ แต่หนูค่อนข้างทันสมัยมาก เชื่อในเหตุและผลมากกว่า แต่หนูอยกให้ลูกไม่ออกนอกกรอบที่ดีงามของจารีตและประเพณีของสังคมที่เราเติบโตและยังอาศัยอยู่
ชื่อผู้ถาม
ปาย
วันที่เขียน
30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 16:13:53
จำนวนคนเข้าดู
3176

คำตอบ

คำตอบที่ 1
@ดอกไม้2ดอกเบ่งบานกันคนละกระถางจะเบ่งบานชูช่อ หอมระรวยเพียงใด ขึ้นอยู่กับการเอาใจใส่ฉันใด คนก็ไม่ต่างกัน@ ปิติในใจอีกครั้ง ที่คำปรึกษาครั้งก่อนเป็นประโยชน์ ขออธิบายสถานะ ของเรื่องราวเป็นเรื่องๆไป เรื่องตัวเราและสามีที่ไม่สามารถเดินร่วมทางอย่างราบรื่นเราาเรียกว่าเป็นผู้มีศีลไม่เสมอกัน จึงทำให้เกิดความแตกต่างในหลายด้าน ทั้งด้านความคิด ทัศนคติ อารมณ์ ความเชื่อ พฤติกรรม หรือแม้แต่สติ เหล่านี้ อย่าได้น้อยใจ คิดโทษตัวเอง อย่างนู้น อย่างนี้ เพราะเราก็ดอกไม้คนละกระถาง จะให้เหมือนกันซะเลยก็คงยาก เรื่องเราดูแลเลี้ยงลูกเราเองด้วยความรักและอุตสาหะของเรานั้น ขอนับถือ เป็นสิ่งที่งดงามมาก ดอกบัวดอกน้อยๆที่อยู่ในมือหญิงที่อ่อนโยน และเต็มเปี่ยมด้วยความรัก คือ แม่ นั้น ย่อมเบิกบานในวิถีทางของเราได้อย่างแน่นอน ถ้ห่วงเรื่องของพันธุกรรมจะมีอิทธิพลมั้ยนั้น คิดว่าเลือดเรา กายเรา ความคิดเราผู้เป็นแม่ที่อุ้มท้องเค้ามา เค้าอยู่ในตัวเราใกล้ชิดกับเรามาเนิ่นนานกว่า คงจะมีอิธิพลกับเด็กมากกว่าผู้เป็นพ่อ จงตั้งจิตเชื่อมั่น แต่อย่าคาดหวังรึทุ่มเทจนเหมือนกดดัน รึตั้งใจจนเกินไป ...ดอกไม้ เราอยากให้มันสวย จึงประโคมใส่ปุ๋ยอย่างดี เกินปริมาณที่เหมาะสม มันก็เน่าตายได้เหมือนกัน สัมผัสที่อ่อนโยน วาจาที่อ่อนโยน ความคิดที่อ่อนโยน พฤติกรรมที่อ่อนโยน ที่เราปฏิบัติต่อเค้า เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เค้า ไม่เอาลูกเราไปเปรียบเทียบกับใคร แทรกศีลธรรมให้เค้าทุกกิจกรรม เอาง่ายๆเรื่องฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แม้มดตัวเดียว ลองให้เค้ารู้ ไปทีละนิด เมื่อเห็นแบบอย่างที่ไม่ดีก็ลองบอกทีละนิดว่านี่ไม่ดีนั่นไม่ดีี มีอยู่ครอบครัวหนึ่ง ลูกสาวเค้าเติบโตมาเป็นคนดีได้ตามช่วงวัยที่เหมาะสม ทุกวันเวลาข้าวเย็น พ่อกับแม่คุยกันเรื่องลูกบ้านนู้นบ้านนี้ว่าไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้ ทุกวันๆ แต่เราไม่ได้บอกลูกเราตรงๆนะ ว่านี่ไม่ดีและไม่เอามาเปรียบกับลูกเราด้วย ทุกวันๆเด็กเค้าก็จะจำเองเด็กจะเก็บข้อมูลว่าว่าอ้อ แบบนี้นี่ไง ที่พ่อกะแม่คุยวันนั้นกันว่ามันไม่ดี ไม่เอาหรอกไม่ทำดีกว่าเดี๋ยวโดนเม้า แต่ไม่ใช่ว่าช่วงชีวิตหนึ่งคนดีคนนั้นจะไม่เคยทำผิด เมื่อใดก็ตามที่เค้าทำผิด หมั่นสังเกตุเค้าอาจไม่บอก เราอย่าดุว่าอย่าด่าทอ ให้เค้าอายรึเสียใจซ้ำไปอีก เราต้องอยู่ข้างเค้า อยู่เป็นที่พึ่งให้เค้า เมื่อเราดีกับเค้า เค้าจะรู้เองว่า อ๋อ.. แม่เราดีขนาดนนี้ เราจะทำให้ท่านเสียใจเชียวหรือ แต่ก็ทำตัวสปอตไม่ใช่ดีเกินไปลูกกดดันอีกว่ากลัวทำแม่เสียใจไปกันใหญ่ เปิดโอกาสให้ลูกได้เสนอความเห็นเค้าบ้าง เราเองก็ควร ทำใจยอมรับความผิดพลาดต่างๆไว้ด้วย คนเรามีผิดมีถูก ให้เรารู้จักตัวตนของลูกเราเสียก่อน เด็กคนนี้โชคดีนะ ได้อยู่กับแม่ กับตากับยาย ที่รักเค้าทั้งนั้นเลย เรื่องสิ่งแวดล้อมสมัยนี้ อย่าเพิ่งคิดไปไกล อย่าเพิ่งกังวล ถ้ากลัวให้หากิจกรรมทำกับเค้า ชวนเค้าไปเล่นนอกสถานที่ เจอดิน เจอทราย เหมือนสมัยที่เราเคยเล่นตอนเด็ก เด็กทุกคนชอบอยู่แล้ว ดินทราย ให้เค้าคลุกคลีกับกิจกรรมที่เคยทำให้เราประทับใจเมื่อวัยเด็ก อยู่ใกล้เค้า สังเกตุ แต่อย่าห้ามหรืองบังคับเค้า เมื่อจำเป็นต้องตีก็ต้องตี อย่าเอาอย่างเด็กสมัยนี้ ที่ลืมรสไม้เรียวไปแล้ว ตีด้วยความรักด้วยเหตุด้วยผล ไม่ใช่ด้วยอารมณ์ อย่างน้อยไม้เรียวก็สอนให้เค้าอดทนและรู้ถึงความเจ็บปวดได้ วันนึงเค้าจะเข้มแข็ง และรู้ผิดถูก เรื่องเลี้ยงลูกมันเป็นศิลปะเอามากๆ เด็กรึ ก็ไม่ใช่หุ่นยนต์ ต้องหมั่นสังเกตุ สอดแทรกธรรมะในทุกกิจกรรม ค่อยๆหมั่นเติมไป วันนึงเด็กจะสงสัยเอง แม่คะ... ธรรมะคืออะไร เมื่อถึงวันนั้น ยิ้มได้เลย เรามาถูกทางแล้ว
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 299
วันที่เขียน
31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 11:57:43
คำตอบที่ 2
ต้องขออภัยท่านด้วย ขอแก้ จากธรรมะ คืออะไร เป็น ความดีคืออะไร ลืมว่าท่านไม่ได้ถือพุทธ หวังว่า จักอภัย
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 299
วันที่เขียน
1 กันยายน พ.ศ. 2556 10:50:31
คำตอบที่ 3
ขอขอบพระคุณท่านมากๆคะ หนูคงจะเขียนมาปรึกษาท่านอีกเรื่อยๆ เพราะหนูคิดว่าปัญหาชีวิตหนูมันคงยังไม่สงบง่ายๆ เพราะคนที่หนูเลือกมาเป็นส่วนแบ่งของชีวิต เขากิเลสหนาเหลือเกินคะ เขาจะไปบวช ไม่รู้ว่ามันจะช่วยทำให้กิเลสเขาบางลงไปบ้างได้หรือไม่ คะเขาเป็นพุทธส่วนหนูอิสลาม ไม่รู้ว่านี่คือปัญหารึปล่าวนะคะแต่หนูไม่เคยมองว่ามันคือปัญหาเลยคะ เราต่างแต่เรายอมรับมันได้ นั่นคือสุดยอดกว่าความเหมือนแล้วไม่ใช่เหรอคะ ธรรมะก็ได้คะเพราะธรรมะก็คือความดีที่เป็นนิรันดร์นี่คะ
ชื่อผู้ตอบ
ปาย
วันที่เขียน
2 กันยายน พ.ศ. 2556 18:42:50
คำตอบที่ 4
ความแตกต่างทางศาสนาไม่ได้วัดความดีชั่วอย่างที่คิดนั่นถูกต้องแล้ว โดยทั่วไปศาสนาอิสลามกับพุทธก็มีแนวทางปฏิบัติใกล้เคียงกัน เผลอๆชาวอิสลามจะเคร่งครัดกว่าเสียด้วยซ้ำ น่านับถือในข้อนี้ แฟนเราเค้านับถือพุทธ แต่เค้าก็ไม่ได้ปฏิบัติตามวิถีชาวพุทธที่ถูกที่ควร ก็ไม่ต่างอะไรกับคนไร้ศาสนา ไร้กรอบให้ตัวเอง เรื่องเค้าคิดบวช ควรอนุโมทนา ให้กำลังใจทั้งตัวเราเองและตัวเค้า ในใจก็ได้ ลองเชื่อมั่นดูก่อนว่าธรรมะจะช่วยขัดเกลาเค้าได้บ้าง อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ ขนาดองคุลีมาล ยังเห็นธรรมได้อย่างรวดเร็ว บางทีที่ที่เค้าบวชอาจมีพระดีๆสามารถทำให้เค้าดีขึ้นก็ได้ แต่ถ้าไม่ดีขึ้น กรรมก็ติดตัวเค้าไปเอง อย่าเอาใจไปหม่นหมอง ได้บวช ได้บุญแน่ไม่มากก็น้อย ถ้าเราอนุโมทนา บุญเล็กน้อยนั้นก็ได้แก่เราด้วย ในขณะที่ ถ้าเค้าทำไม่ดี เค้าก็รับกรรมไป เราก็อนุโมทนาแต่บุญมา โดยธรรมดาชาวอิสลามจะให้ความเคารพสามีมากๆ แต่อย่างสถานการณ์นี้ สามีเป็นพุทธและแถมยังประพฤติตนนอกกรอบวิถีพุทธ เข้าใจว่าเราคงหมดความเชื่อมั่นไปมาก "การละทิ้งคำตอบกับคนโง่เขลา นั้นแลคือคำตอบ" ควรนิ่งเฉยกับอารมณ์ พฤติกรรมต่างๆ ที่แตกต่างจากเรา มองผ่านๆ และเข้าใจเสียว่า นี่ไม่ใช่เพราะต่างศาสนา แต่นี่เพราะต่างประสบการณ์ ต่างการเติบโต เรากินนมจากต่างมารดากัน มันก็ย่อมแตกต่างกันเช่นนี้ ลองนึกถึงข้อดีีของเค้าดูบ้าง อย่างน้อยสักครั้งหนึ่งเค้าก็เคยดีจนทำให้เรารักและเลือกเค้า ลองทบทวน ว่าเค้าเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือเค้าไม่ได้เปลี่ยน เพียงแต่เราเพิ่งรู้แก่นแท้ของเค้า บางอย่างอาจเจรจาได้ แต่บางพฤติกรรม มันเปลี่ยนเค้าไม่ได้จริงๆ อยู่กับลูก ทำเพื่อลูกเราไป อย่าพยายามสอนให้ลูกเกลียดพ่อ อย่าตำหนิพ่อให้เค้าฟัง เพราะทางจิตวิทยา เด็กจะขาดความเชื่อมั่นในโลกภายนอก หากจำเป็นต้องบอกลองดูตัวอย่าง ระหว่าง 2 ประโยคนี้นะ 1. พ่อนี่ไม่ดีเลยนะลูก ทำอย่างนี้ได้ไง หรือพูดแบบที่ 2. การกระทำแบบนี้ไม่ถูกเลยนะลูก ให้เค้ามองถึงการกระทำนั้นว่าดีหรือไม่ดี ไม่ใช่มองว่าใครเป็นคนทำไม่ดี อาจจะวกวนสับสนสักหน่อย เรื่องพฤติกรรมของ พ่อเด็ก มีอะไรบ้างที่ทำให้หนักใจ ลองบอกรายละเอียดได้ บางทีอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ พอปรับแก้ได้ ...
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 299
วันที่เขียน
3 กันยายน พ.ศ. 2556 11:08:42
คำตอบที่ 5
ขอบคุณท่านมากเลยคะ หนูดีใจจังที่ได้พูดคุยกับท่าน หนูสบายใจและโล่งใจขึ้นมากเลย นี่แหละค่ะคือสวรรค์ของมนุษย์ พ่อหนูบอกเสมอว่าสวรรค์คือความรู้สึกมั่นคงอบอุ่นปลอดภัยเป็นสุข ปลอดโปร่งโล่งใจไม่มีสิ่งใดมัวหมอง สวรรค์ไม่ได้อยู่หลังความตายแต่สวรรค์อยู่ตอนที่เรายังหายใจนี่แหละคะ พ่อหนูเป็นนักปราชย์อิสลามหรืเรียกว่าโต็ะอิหม่าม แต่พ่อแตกต่างกับคนอื่นเยอะมาก เคยทะเลาะกันแต่ตอนนี้พ่อเลือกที่จะเงียบมากกว่าไม่อยากทะเลาะกับคนอื่น แต่หนูไม่ค่อยสนิทกับพ่อ คือไม่สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง หนูปราถนามานานว่าอยากจะได้เขียนปัญหาปรึกษากับคนมีความรู้มีธรรมะแบบนี้ ดีใจจังที่มีเวปไซค์นี้ ถ้าข้อคิดไหนที่ดีๆหนูจะก็อปแล้วไปโพสลงเๆสบุ็คให้เพื่อนๆอ่านด้วยคะ หนูรักในความเป็นธรรมชาติมากคือตัวหนูผมดำสนิทหนูชอบมันมากๆไม่เคยไปทำสีผมเลยสักครั้งเพราะพ่อเคยบอกว่าสิ่งที่มันเดิมมันจะสวยงามที่สุด อย่าไปเปลี่ยนหรือดัดแปลง แต่แฟนหนูเขาไม่เคยชอบสิ่งไหนที่เดิมๆเลยเขาบอกน่าเบื่อถ้าเป็นรถก็ต้องแต่งเกือบตายจำสภาพเดิมไม่ได้อะไรประมาณนั้น ส่วนหนูเขาเคยบอกว่าเธอไม่ต้องไปทำอะไรกับตัวเองหรอกมันไม่ใช่เธอ เธอเป็นแบบนี้แหละดีแล้ว แต่เขาไม่ชอบ 5555 ตอนเรารู้จักกันแรกๆเขาบอกว่าหนูเป็นผู้หญิงที่อบอุ่นมากเขารักหนูจังเลยใช่คะอิสลามเคารพสามีมากหนูคงจะติดมาจากที่บ้านและจากสังคม แม่จะต้องเก็บอาหารไว้ให้พ่อไม่กินปนกันถ้าพ่อยังไม่กลับบ้าน ของดีๆพ่อต้องได้กินเสมอ ส่วนหนูกับแม่กินน้ำแกงกับผักก็ได้ ไม่รู้นะมันอยู่ในสามัญสำนึกหนูไปแล้ว ตอนที่หนูอยู่กับแฟนหนูจะไม่เคยกินกุ้งตัวใหญ่ที่สุดในจานเลยทิ้งไว้ให้เขา แต่เขาก็บอกว่ากินซิเอาไปเลย หนูถึงเอามากิน หนูบอกแฟนเสมอว่าหนูเป็นคนทุ่มเทให้กับความรักมากจนบางคนมองไม่เห็นคุณค่ามัน เขาบอกว่าไม่เป็นไรเขามีสำนึกที่ดี 555 ขำค่ะ วันนี้สำนึกมันหายไปไหนไม่รู้ เขาเหยียบย่ำเอา เหยียบย่ำเอาในความรักของหนู นั่นละคะ อย่างที่ท่านว่าการละทิ้งคำตอบสำหรับคนโง่เขลานั่นคือคำตอบแล้ว มันจริงที่สุดเลยคะ หนูคิดทบทวนเท่าไหร่ หนูมองโลกในแง่ดียังไงก็หาคำตอบให้กับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเขาไม่เคยได้เลย หนูรู้นะว่าเขาคงเครียด ไม่ร้จะทำงานอะไรดีให้เหมาะและแมทกับตัวเขาเองที่เรื่องมากแต่ทางเลือกน้อยอย่างเขา เขาเป็นลูกน้องใครไม่ได้หรอกคะ จะทำงานเองก็ไม่มีเงินทุนมากมาย เพราะมีน้อยแต่เขาไม่เก็บไม่สะสมเพื่ออนาคตชอบคิดว่าใช้แล้วหมดไปเดี๋ยวก็ได้อีก เขาชอบซื้อๆๆแต่หนูชอบเก็บแต่เก็บไม่รอดหรอกคะเพราะต้องเอามาให้เขาหนูไม่อยากเห็นเขาลำบาก จนเขาเครียดออกไปหาเพื่อนเก่าๆไปเจอคนใหม่สาวๆสวยๆในขณะที่หนูเพิ่งคลอด อ้วนดำ น่าเกลียด ทุนเดิมไม่พอใจในรูปร่างหนูอยู่แล้วยิ่งหนักเข้าไปอีกหลังคลอด ใช่คะใครๆก็ต้องชอบสาวตัวเล็ก ขาว น่ารัก เซ็กซี่ แต่นี่คือความจริงนี่ฉันเมียเธอแม่ของลูกเธอ หนูพูดปากจะฉีกแต่เขาไม่รับรู้ใจเขาปิดแล้ว เขาบอกไม่เคยอยากเลิกกับหนู แค่อยากไปมีใครข้างนอกบ้าน จะบ้าเหรอหนูเลยประกาศศักดา ไปให้พ้นเลย แต่ดันไม่พ้น เพราะลูกเพราะเขาไม่มีที่ไป สาวในสังคมที่เขาไประเริงอยู่จะมีสักกี่คนคะที่ไม่มองหาคนรวยๆขนาดเพื่อนๆหนูเขายังว่าหนูให้โอกาสคนมากเกินไป แต่สิ่งที่หนูคิดคือหนูอยากช่วยเขา หนูมีทรัพย์สิน หนูอยากทำทานกับคนที่เขาขาดจริงๆ ครอบครัวเขาลำบากไม่มีที่ดินไ่ม่มีบ้าน หนูอยากให้เขา แม่เขาทน้องเขามาอยู่ด้วยกัน ข้างบ้านหนูมีที่ดินเปล่ามากมาย จะทำอะไรก็ได้ หนูเลยชวนเขาว่าเรามาแต่งงานกันเราไปด้วยกันเรามีฝันร่วมกัน แต่วันนี้ เหตุผลข้อเดียวคือฉันไม่อยากมีอะไรกับเธอแล้ว แค่นี้จริงๆเลย สงสารแม่เขาคะยังไม่ทันได้มาอยู่เลย ลูกก็หาเรื่องซะแล้ว แกว่านี่ถ้าแม่มาอยู่แล้วจะทำไงนิ เขาบอกว่าเขาไม่รู้หรอกนะว่าชาตินี้เขาจะเจอคนดีๆแบบนี้อีกหรือเปล่าแต่เขาอยากไปเจอะเจอกับคนที่เติมเต็มในความรู้สึกเขาได้ เขาบอกเขาพวกภาษากายเยอะแต่มันเกิดขึ้นน้อยมากที่อยู่กับหนู เขาบอกเขาไม่อิ่มเวลาที่อยู่กับหนู คนที่เขาไปติดพันตอนนี้ ผมเป็นสีทองคะ หน้าขาววอกเชียว นุ่งสั้นคะ ขาขาวสวยเรียว ตาใส่คอนเทคสีน้ำตาลบิ็กอายคะ 555 แต่งตัวน่ามองคะ สั้นๆรัดๆ พูดจาอ่อนหวาน เด็กคะ 25 เอง ดที่ยวเก่ง กินเหล้าเฝ้าแต่ผับ ดึกๆดื่นเกือบทุกคืน ไม่รู้พ่อแม่เขาคิดไงกับลูกสาวเขานะคะ ส่วนหนู ไม่สั้นคะหนูไม่ชอบ อีกอย่างสังคมอิสลามแอนตี้มากๆ หนูชอบแต่งแบบใครมองแล้วรู้สึกว่าหนูคือผู้ดีไม่ใช่อีตัวแบบแยกไม่ออกคะว่าคุณทำงานอะไรกันแน่ หนูไม่อยากให้ใครมาฉงนสนเท่ตรงนี้ หนูไม่ชอบให้ผู้ชายมองหนูแล้วเกิดอารมณ์ไม่เอาอะ หนูคงเป็นอิสลามถูกฝังมาแบบนี้ แต่หนูไม่คลุมผมนะ หนูแค่ไม่ชอบเปิดเผยให้ใครมองความสวยของหนู หนูเลยไม่สามารถทำให้สามีถูกใจได้ เพราะเขาว่าเขาต้องได้เห็นได้กลิ่นได้สัมผัสเขาถึงจะพอใจ ขำนะคะ คนอะไรกเลสทั้งต้นเลย เห้อจนปัญญาค่ะ หนูปรึกษากับแม่เขา ท่านก็ว่าจนปัญญา หนูรอก่อนนะลูกมันยังไม่หยุด ใจเย็นๆนะลูก หนูไม่รอหรอกคะ แค่หนูพอแล้ว ไม่เอาแล้ว เข็ดแล้วความรัก ขอทำงานเลี้ยงลูก สร้างอนาคตให้ลูดีกว่า ใครมาชวนหนูไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาหนูไม่อยากไปคะ หนูอยากอยูกับลูกกับครอบครัวคนที่เขารักหนูจริงๆ ข้างนอกมีแต่คนแปลกหน้า เสแสร้ง หนูไม่ชอบ ค่ะขอบคุณคะที่อ่านและตอบ keep in touch ค่ะ
ชื่อผู้ตอบ
ปาย
วันที่เขียน
3 กันยายน พ.ศ. 2556 17:01:34
คำตอบที่ 6
จากที่ฟังๆดู รู้ได้เลย ว่าเป็นคนมีเหตุผลชัดเจน และเด็ดขาดเข้มแข็งมากๆ น่าดีใจแทนพ่อ และดีใจแทนพระศาสดาของศาสนาอิสลามที่มี ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบดำรงไว้ซึ่งความดีงามของหลักคำสอนได้ยาวนานดีเยี่ยม อย่างนี้ จากสำนวนดูแล้วก็เป็นคนมีความรู้ มีความทันยุคทันสมัย อนุโมทนา ลักษณะของแฟน ดูเหมือนกับอาการของหนุ่มวัยรุ่น ที่ยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบอะไรๆ และที่สำคัญ ไม่รู้จักธรรมะแน่นอน ฟังเรื่องราวแล้วนึกถึง สุภาษิตนี้ขึ้นมาเลย "ไก่ได้พลอย" มีของดีอยู่กับตัว ยังไม่รู้ถึงคุณค่า แม่เค้าก็ดีใช่มั้ย ทางอิสลามผิดมั้ยถ้าเข้าวัดพุทธ พาเค้าเข้าวัดบ่อยแค่ไหน แล้วเค้ามีทีท่าอย่างไรเวลาพาไปวัดหรือที่ว่าจะบวช ถ้าให้โอกาสเค้าเค้าน่าจะพัฒนาได้ ดูแล้วไม่น่าใช่เรื่องเลวร้ายอะไร เค้าไม่ตบตี เค้าไม่ทำร้าย เค้าไม่หยาบคายกับพ่อแม่เรา เค้าไม่โกงเรา เค้าไม่พาชายแปลกหน้ามาก่อกวนเรา เค้ายังเล่นกับลูกอยู่ สิ่งที่เค้าหลงงมงายอยู่นั้น ลึกๆแล้วเค้ารู้ตัวดีว่าไม่จีรัง เพราะถ้าเค้าคิดว่ามันแน่นอน เค้าทิ้งเราไปนานแล้ว เพราะเค้าก็จะไปยึดเหนี่ยวกับสิ่งที่เค้าหลงใหลอย่างถาวรเลย หรือไม่ เราอาจจะดีเกินไป ธรรมชาติของผู้ชายนะ หรือไม่ก็ผู้หญิงบางคนก็อาจจะเป็น คือ ไม่ชอบให้คนตามใจ ไม่ชอบให้ทำดีด้วย ไม่ชอบให้อ้อน ไม่ชอบให้ออเซาะฉอเลาะอะไรตลอดเวลา เรียกง่ายๆ ทำตัวไม่แยแสดูมั่ง ที่เค้าไปสนใจผู้หญิงแบบนั้นเพราะส่วนมากเค้าต้องเข้าไปจีบเอง มันคงดูท้าทายดีกระมัง คนรักสนุกนะ ถ้าเรื่องครอบครัว มันไปไม่สวยนัก ท้ายที่สุด ถ้าเราทนได้ ไม่ได้ใส่ใจอะไรเค้า เราอยู่ได้ โดยไม่มีผลกระทบกับใคร และเราทำให้พ่อแม่เราเห็นว่าเราเข้มแข็งและไม่ทุกข์ร้อน (ต้องไม่ทุกข์จริงๆนะ) ก็คงต้องอยู่ไปอย่างนี้ อยู่ ด้วยให้โอกาสเค้าให้เวลากับเค้าว่าเค้าจะดีสักวัน ในสักวันที่เค้าอาจเจอเหตุการณ์อะไรที่ ไม่คาดฝัน ที่เปลี่ยนชีวิตเค้า โอกาสที่เค้าจะมีวุฒิภาวะกว่าที่เป็น ..ในสักวัน และให้มีสติตลอดเวลา รักษาตัวให้ดี หมายถึงโรคภัยไข้เจ็บที่เกี่ยวกับแฟนรักสนุกแบบนี้ หรือแม้แต่หนี้สิน ที่เกิดขึ้น โดยที่เราอาจไม่รู้ตัว หรือ....ถ้าวันนึงกลับมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันกับความรู้สึกของเราเอง หากจำเป็นต้องตัดสินใจ ก็จำเป็นต้องทำนะ โดยส่วนตัวตอนนี้ ไม่นึกห่วงเลย เพราะดูเป็นคนเข้มแข็งและมีเหตุผลมาก เชื่อว่า ชีวิตนี้สอนลูกดูแลลูกคนเดียวได้ดีแน่นอน แม่เรารักพ่อเราเทิดทูนพ่อเราเพียงใด พ่อย่อมรักและห่วงใยเราเช่นกัน บางครั้งถ้ามันหนักหนาเสียจนดูแล้วทำร้ายจิตใจคนที่เลี้ยงเรามา ก็ควรต้องตัดสินใจนะ คนที่ทุกข์ที่สุดนอกจากตัวเรา คงเป็นพ่อแม่เรานั่นเอง ทางเลือกมีรออยู่แล้วในใจ แต่เวลาเท่านั้นจะบอกเราเอง ว่าตอนไหน เมื่อไหร่ จำเป็นต้องดึงเอาทางเลือกไหนมาใช้เพื่อให้ชีวิตเดินต่อไปนะ ลึกๆดูออกนะ ว่าเราแอบเสียใจ แต่ดูเป็นคนมีความสามารถในการควบคุมความคิดตัวเองได้ดีมาก เลยค่อนข้างวางใจมากกับปัญหาที่พบเจอ .......... แถมท้ายอีกหน่อย อย่าเพิ่งตำหนิความรักเลย ความรักที่แท้จริง มันงดงามอ่อนโยนโดยตัวของมัน และเป็นศิลปะชั้นสูงมาก ซับซ้อนเกินบรรยาย และต้องใช้สัดส่วนของสติมากอยู่ เหมือนที่เรารักลูกของเรารักพ่อรัแม่ของเรา แต่แค่ครั้งนี้ มันเป็ฯบทเรียน หรือข้อเปรียบเทียบ ให้วันข้างหน้า เราเจอสิ่งที่ดีกว่า เราจะรู้เลยว่าสิ่งนั้นน่ะ ดีและเหนือกว่าที่เป็นอยู่จริงๆ เพราะครั้งนี้ เราได้เจอสิ่งที่เลวร้ายไปแล้ว ชีวิตก็เหมือนก็เหมือนคันเร่ง เราเหยียบคันเร่งจนสุดแล้วสุดๆแล้วมันก็ไม่เกินไปกว่านั้นอีกหรอก มันต้องมีผ่อนลงมา ลงมาๆ ชีวิตเราก็ไม่ใช่จะค้างคาที่ความเร็วสูงสุดนั้นไปตลอดหรอก ต้องมีสักวันนึงที่ชีวิต Soft ลงบ้าง อย่าปิดกั้นตัวเอง คนข้างนอกมีพฤติกรรมซับซ้อนก็จริง แต่ถ้าแม่หมีไม่ออกจากถ้ำไปหากิน แล้วแม่หมีจะมาเล่านิทานอะไรให้ลูกหมีฟังได้ครบทุกด้านเล่า (เปรียบเทียบนะ) ความหลากหลายของคนมันก็น่าสนใจ การที่จะมานั่งให้คำปรึกษาใครได้แบบนี้ ก็ใช่ว่าจะนั่งอ่านแต่หนังสือ การเรียนรู้และพบเจอคนมากมาย ศึกษาและเข้าใจ และปรับตัว วันนึงเราเองต้องมานั่งให้คำปรึกษาแบบนี้กับลูกนะ อาจจะมีคนที่ดีที่เหมาะสมรออยู่ อาจมีเรื่องราวดีๆที่รอเราอยู่ ยิ้มรอๆ แค่คิดถึงก็เป็นสุขแล้วนี่นะ ตอนนี้ก็เพลิดเพลินกับลูกไปก่อน
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 299
วันที่เขียน
3 กันยายน พ.ศ. 2556 18:50:00
คำตอบที่ 7
ปัญหาชีวิตหนู หนูว่าที่จริงมันคือบทเริ่มต้นของคำว่าครอบครัวใช่มั้ยคะ ความแตกต่างเรามีมากแต่หนูไม่รู้ว่ามันใช่ปัญหาที่มันจะทำให้เราไปกันไม่ได้รึปล่าว แฟนหนูเขานับถือพระภิขเนตรชอบไหว้พระทำบุญตามประสาชาวพุทธทั่วไป แต่เขาทำแต่ภายนอกคะ ในใจเขามีธรรมมะน้อยมาก หนูที่ไม่นับถืออะไรเลยไม่กราบไหว้อะไรเลย นับถือตัวเองการกระทำของตัวเอง นับถือธรรมชาติเหตุและผลมากกว่า เขาไหว้พระแต่ไม่เคยเอาพระมาไว้ในใจ แต่หนูไม่เคยห้ามนะคะ หนูไปด้วยแต่รออยู่ข้างนอกคะ จนวันหนึ่งเขาเครียดเรื่องงาน ทำเท่าไหร่ก็ไม่รุ่งซะที เขาเลยไปหาเพื่อนเก่าที่ชอบทำบุญสะเดาะเคราะห์ดูดวงตามประสาที่ชาวพุทธส่วนมากเขาทำกันนะคะ อาจจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้แฟนหนูอยากบวช แต่ก็ดีคะสงสารแม่เขาอยากให้ลูกบวช เพื่อนเขาก็เหมือนกันชอบปัดความรับผิดชอบของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองให้เป็นเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ค่อยโทษตัวเอง เพื่อนๆเขาหนีหายกันไปทีละคนสองคน ร้านค้าก็ไม่ค่อยมีใครเข้าลูกน้องก็ลาออกอยู่กับเขาไม่ได้ นั่นก็โทษคนอื่นตลอด ต้องไปทำบุญสะเดาะเคราะห์กันอีก แฟนหนูตามเขาคะ คนอย่างหนูเลยอยู่นอกสายตาไปเลยช่วงนี้ เพื่อนเขาเที่ยวเก่ง กินเหล้า ตามผับตามบาร์ จนพากันไปเจอสาวคนนั้นแหละคะ เราต่างกันตรงความเชื่อนี่ละคะ แต่หนูก็ไม่เคยทำให้เป็นปัญหาเลย หนูอะไรก็ได้ สบายๆ เราเลยอยู่กันได้นานมากกว่าแฟนคนอื่นๆเขา แต่ข้อปกพร่องเขานะเยอะมากๆ แต่เผอิญที่ใจหนูมันมหาสมุทรคะมันกว้างมากที่สามารถจะบรรจุความมากเรื่องเรื่องมากของคนได้ แต่ก็ยอมรับคะว่าน้อยใจและท้อแท้ที่ทำไมเราต้องมาเจอะเจอแต่คนร้ายๆมันคงจะเป็นกรรมเก่า ไม่เป็นไรคะเพราะทุกอย่างมันเดินไปข้างหน้าเสมอไม่มีสิ่งไหนหยุดนิ่งแช่อยู่ตรงนั้นหรอกใช่ไหมคะ ถ้าวันหนึ่งวันถึงจุดที่ว่าต้องเปลี่ยนมันก็จะเปลี่ยนไปตามเรื่องของมันเองวันนั้นเราอาจจะไม่เสียใจอะไรเหมือนวันนี้อีกต่อไปแล้วก็ได้ หนูดีขึ้นมากคะเพราะได้คุยกับหลายๆคนและกับท่านคะ หนูขอบคุณมากๆคะที่มีเวปไซค์ดีดีเช่นนี้ ในความคิดของท่าน ท่านว่าเขามีแนวโน้มจะกลับมาอยู่กับหนูไหม หนูอยากให้ลูกอยู่กับพ่อ หนูอยากสานฝันที่เคยฝันกันให้เป็นจริงเราจะสร้างบ้านกัน เราจะมีครอบครัวที่อบอุ่น เราจะพาลูกไปเที่ยวกันเมื่อมีโอกาส ก่อนหน้านี้เราสนุกมีความสุขกันสองคน ถึงแม้หนูจะเป็นตัวยืนเรื่องรายได้แต่ไม่ใช่ปัญหาเลย อยากให้เราอยู่กันแบบผาสุขมากกว่าคะ เพื่อนไม่คบไม่เป็นไรเราครอบครัวรักกันก็มากพอแล้วคะ นี่คือความคิดหนูคะ เขารักลูกมาก เขาห่วงแม่เขามาก และเขาก็ซาบซึ้งในความดีของหนูมาก อันนี้หนูรู้ดี แต่ด้วยอะไรๆมากมาย อาจจะเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องดวง เรื่องความอยากไม่รู้จักอิ่ม เขาเลยเฉไป เราเลยทะเลาะกัน หนูว่าเขาไปเยอะคะ ก็หนูเก็บกดมานานมาก แต่เขาบอกว่าเขาไม่เคยโกรธที่หนูทำไปเขาเข้าใจว่าหนูเจ็บและโกรธมากเขาไม่เคยด่าหนูกลับเลยสักครั้งเดียว พอหนูถามเขาว่าจะกลับมามั้ยเขาบอกว่ามันไม่เหมือนเดิมแล้ว และคนที่บ้านหนูคงไม่ชอบเขาแล้ว แต่หนูว่าถ้าเขาจะกลับมาก็ไม่มีใครมายุ่งเรื่องครอบครัวเราหรอกคะ แม่ก็บอกว่าแล้วแต่หนู แค่อยากให้หนูมีความสุข ท่านกลัวว่าหนูจะถูกเอาเปรียบมากกว่า ที่บ้านหนูเขาให้อิสระในการตัดสินใจมาก ถ้าเขากลับมาหนูก็จะปรับตัวเองให้ดูดีขึ้น แต่งตัวให้มากขึ้น ลดน้ำหนัก ทั้งหมดหนูจะทำเพื่อครอบครัว เพื่อลูกและเพื่อตัวหนูเองคะ หนูจะเขียนมาเล่าให้ฟังเรื่อยนะคะ ขอบคุณมากๆคะ
ชื่อผู้ตอบ
ปาย
วันที่เขียน
4 กันยายน พ.ศ. 2556 14:07:15
คำตอบที่ 8
จิตใจแห่งรักนั้นสูงส่งนัก แต่กระจกบานนั้นส่องสะท้อนเงาของความรักของเราให้เค้าเห็นไม่ได้เลย ฟังความฝันแล้วน่าเสียดายเหลือเกิน เค้ามีศีลไม่เสมอเรานั่นแหละ เหมือนเครื่องยนต์มันไม่เหมาะกับตัวรถนะ จะให้ขับเคลื่อนไปไกลกว่านี้คงไม่มีแรงแล้ว ลองคุยขยายความอีกทีดีมั้ย ที่ว่าไม่เหมือนเดิมที่เค้าว่า ไม่เหมือนเดิมด้วยอะไร ถ้าด้วยเพราะเค้ากลัว สายตาคนอื่น รึกลัวครอบครัวเราไม่ยอมรับ อันนี้เราพอทำให้เค้าเชื่อมั่นได้ เพราะถ้าอย่างไรเสียเรารับได้ เค้าก็น่าจะกลับมานะ แต่ ถ้าไม่เหมือนเดิมในความรู้สึกของเค้าที่มีต่อตัวเรานะ อันนี้ ต้องขอพูดอย่างโหดร้ายสักหน่อย ว่า เค้าไปไกลแล้วล่ะ ทำใจได้มั้ย ลองขยับขยายนะ อย่าเพิ่งเสียใจไป มีหลายคู่ที่เลิกรากันไปแล้วหายหน้าจากกันไปเลยไม่รู้ข่าวคราวความเป็นไป แต่ถ้าวันนึงมันคู่กัน เค้าก็จะวนมาหาเราอีกเมื่อเค้าผ่านอะไรๆมาทั้งหมด เพื่อมาหยุดที่เราอีกครั้ง บางที สถานการณ์แบบนั้น อาจเหมาะสมกว่า การไหว้บูชาพระพิฆเณศวร ไม่ใช่ทางพุทธนะ การเสดาะเคราะห์นั่นก็เช่นกัน เคราะห์ ในทางธรรมไม่มีหรอก มีแต่กรรม ร้ายแรงรึบางเบา ขึ้นอยู่กับแรงบุญจะหนุนนำในเวลานั้น การยึดเหนี่ยวจิตใจด้วยสิ่งที่เค้าเชื่อและศรัทธา ก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ลึกๆหลายคนบูชาเพื่อหวังอะไรมากกว่า ชอบหาทางลัดที่จะได้สิ่งนั้นสิ่งนี้เร็วๆ คนเราถ้าทำอะไรดีๆ สม่ำเสมอ มันก็ได้กลับมาเสมอๆนั่นแหละ บางทีไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ การตัดใจจำจากมันยากเหลือเกิน ถ้าไม่เอากระสุนออก มันก็ตอกจิตตอกใจไปแบบนี้นะ ถ้าทำใจได้ลองดู ไม่ว่าจะคงสภาพหรือจากไป แบบไหนที่เราเลือกจะทน
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 299
วันที่เขียน
5 กันยายน พ.ศ. 2556 12:38:51
คำตอบที่ 9
มันก็คงจะจริงอย่างที่ท่านว่าละคะ เขาไปไกลแล้วในความรู้สึกของเขานั้นละคะ แค่หนูอยากได้ยินจากใครสักคนที่ไม่มีอคติ แต่แปลกนะคะที่หนูไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพยายามบอกทุกครั้งที่เราได้คุยกัน อาจจะเพราะว่าหนูรักและหวังดีกับเขามาก และสงสารลูกที่ต้องขาดพ่อนั้นคือเรื่องที่หนูอยากให้เขากลับมา แต่ไม่เป็นไรจริงๆคะหนูรับได้ หนูเองแหละคะที่ตัดสินใจให้เขาไปจากชีวิตหนู ก่อนหน้านี้หนูได้ตรึกตรองมาดีแล้ว ตั้งแต่อยู่กันมาเขาไม่ผ่านในความรู้สึกหนูเลยคะ จนมันหนักข้อเข้าตอนที่หนูท้องและมีลูกนี่และคะ แต่เมื่อก่อนเขาแค่ไม่ออกไปไหน เขาเริ่มออกข้างนอกก็เมื่อไม่นานมานี่แหละคะ เขากลับดึกทุกคืนบางคืนก็ไม่กลับหายไปเลย หนูคิดหนูเสียใจ หนูร้องไห้ และมันก็หยุดลงตรงที่คำว่าพอเถอะ เขาไม่ใช่คนที่จะมาเป็นสามีของเรา หนูสัญญากับตัวเองและลูกว่าแม่จะร้องไห้ให้ลูกเห็นครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ลูกจะรู้ว่าน้ำตามันคืออะไรและมันมาจากไหนเพราะใคร หนูตึกตรองดีแล้วคะหนูเลยตัดสินเขียนSMSบอกเขาไปว่าเราเลิกกันเสียเถอะ ตอนนั้นหนูบอกตามตรงนะคะว่าหนูไม่ได้ทำด้วยอารมณ์ หนูมีแฟนมาก็เยอะ หนูรู้ว่าคำนี้มันสำคัญ เพราะเขาไม่มีสิ่งไหนดีเลย แค่เมื่อก่อนเขาไม่ออกไปไหน แต่วันนี้เขาไปแล้วมันเลยไม่เหลืออะไรไว้แล้ว หนูเขียนอยู่หลายครั้งแต่เราไม่พูดกัน จนวันนึงหนูทำเป็นพูดดีและยอมให้เขาไปอยู่กับเพื่อนไปทำงาน และนั้นและคะเมื่อไปอยู่ข้างนอกอิสระมาเลย เขาเป็นอิสระอย่างที่ต้องการ แต่เพราะว่าหนูเคยรักเขาเคยหวังดีต่อเขา ความรู้สึกนั้นมันยากที่จะหายไป ความฝันก็ด้วย หนูคงจะเป็นคนที่จริงจังกับชีวิตมากไปนะคะ หนูสงสารลูกมากไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กที่มีปมด้อยเหมือนใครๆเพราะเราคิดและวาดมาด้วยกันเสมอว่าลูกเราต้องมีพื้นฐานที่ดี แต่วันนี้ทุกอย่างมันจบแล้วละคะ หนูควรจะลบแล้วฝันใหม่ดีกว่าใช่ไหมคะ ก็มันต้องทำนิคะ แต่หนูมั่นใจคะว่าหนูเป็นคนเก่ง เป็นคนดี หนูมีศักยภาพพอที่จะเลี้ยงลูกคนหนึ่งด้วยตัวคนเดียวให้ลูกไม่น้อยหน้าใครๆเลย อย่างน้อยๆหนูทำงานมีเงิน หนูมีความรู้ มีพ่อแม่ที่ซัพพอร์ทหนูได้เต็มที่ ที่จริงตั้งแต่ท้องจนคลอดจนบัดนี้ หนูคนเดียวจริงๆเลยคะ เขาช่วยน้อยมาก หนู 98% เขา 2% หนูถึงไม่กลัวที่ตัดสินใจให้เขาไปไงละคะ วันนี้หนูได้หยิบยื่นแต่สิ่งดีๆให้ลูกแล้วละคะ หนูทำประกันให้ลูก พาลูกไปแอดมิดโรงพยาบาลห้าดาว ของใช้ลูกคือยี่ห้อที่ดีที่สุดเท่าที่หนูทำได้ หนูไม่ได้สปอยย์ลูกนะคะแค่ลูกต้องเป็นเด็กที่มีคุณภาพคะ หนูมัธยัทคะ เงินที่หมดไปของหนูจะต้องเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์คะ แต่ตรงข้ามกับเขาทุกอย่าง เขาเลยให้เหตุผลว่าไลพ์สไตน์เราไม่ตรงกัน มันก็คงจริงนะ แล้วสักวันมาดูกันคะว่า คนที่ทำวันกินวันอย่างเขากับคนที่มัธยัทอย่างหนูสุดท้ายจะเป็นยังไง เขาจะมาบอกว่าคนที่ลำบากอะเขาไม่ใช่หนู ค่ะก็ขอให้จงลำบากต่อไป แต่ช่างเถอะคะเขาอาจจะไปเจอกับลูกสาวเศรษฐีก็ได้มันก็เรื่องของเขาแล้วละคะ ให้เราหมดเวรหมดกรรมกันไปก็ดีเหมือนกัน บางครั้งนะคะถ้าหนูไม่ลืมหนูจะแผ่แม่ตาให้เขาทุกครั้ง จะได้หมดเวรกันทีอย่าได้มาเจอะเจอกันอีกเลย แต่ยังไงไม่ทราบนะคะลูกก็ดันไม่สบายบ่อยเลยทำให้เราต้องเจอกันบ่อยเพราะย่าด้วยมั่งคะหนูสงสารแม่เขา แต่หนูก็ดึงความรู้สึกกลับมาได้ทุกครั้ง หนูทราบคะว่าเรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา แต่ลูกนะคะ ลูกทำใหูหนูหยุดนึกถึงเขาได้ยากมากๆเลยมันมีเขาอยู่ในลูกนะคะ มันมีเราอยู่ในลูกนะคะ หนูควรจะคิดอย่างไรดีเรื่องลูก? ขอคำแนะนำด้วยนะคะ
ชื่อผู้ตอบ
ปาย
วันที่เขียน
5 กันยายน พ.ศ. 2556 14:51:07
คำตอบที่ 10
ธรรมชาติอยู่รอบๆตัวเรา ลองมองดูสิ มีมนุษย์ สิ่งแวดล้อม อากาศ ฤดู อะไรอีกมากมาย ปัจจัยตั้งหลายอย่างเราควบคุมมันได้ จงอยู่กับความจริง อย่างเข้าใจ และเอาใจใส่ ให้เป็นไปตามธรรมชาติ อย่าคาดหวังหรือตั้งใจเกินไป อย่าวิตกเกรงกลัวไปล่วงหน้า แค่มองห่างๆ สังเหตุและสอดแทรก ให้เค้าได้มีในสิ่งที่ดีนั้นดีแล้ว แต่อย่าลืมให้เค้าเรียนรู้ความลำบากไว้ด้วย เพราะถ้าวันนึงไม่มีเรา เค้าต้องอยู่ด้วยลำแข็งตัวเอง ใจเย็นๆ อย่าเพิ่ง วิตกไปไกล เอาปัจจุบันให้อยู่ก่อน
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 299
วันที่เขียน
6 กันยายน พ.ศ. 2556 12:27:24
ทั้งหมด 10 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร