ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)
พ่อแม่คงไม่เข้าใจแน่ๆ
รายละเอียด
รู้สึกว่าตัวเองกำลังเข้าสู่การหมกหมุ่นโลกออนไลน์เอามากๆเลยค่ะ ตอนนี้หนูรู้สึกว่าตัวเองให้ความสำคัญกับเฟสบุ๊ค ไลน์ อินสตาแกรมมาก บางครั้งยอดไลค์น้อยก็แอบเครียด ทำไมคนไม่ค่อยไลค์เรา เราไม่ดีตรงไหนหรอ ฯลฯ
จนบางครั้งก็เผลอหลุดคำหยาบคาย ว่าคนอื่นด้วยคำพูดที่รุนแรง พิมพ์ลงไปไม่คิดอ่ะค่ะ จนเค้าติดภาพที่เราไม่ดีไปแล้ว
จนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆมาเตือน หนูจึงคิดได้ แล้วขอโทษ แต่คนเหล่านั้นเหมือนจะไม่ให้อภัยหนูเลยค่ะ แถมยังว่าซ้ำว่าเสแสร้งบ้างอะไรบ้าง พ่อแม่ก็เป็นคนดุแล้วแกก็ไม่ค่อยรับฟังปัญหาด้านนี้เท่าไหร่เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ หนูก็เครียดไม่รู้จะหาทางออกยังไงดี
ความต้องการ
1. จะทำอย่างไรให้บรรเทาอาการติดโลกออนไลน์ได้บ้างคะ เพราะตอนนี้ติดจนแทบจะไม่วางมือถือเลย
2. เมื่อคนเหล่านั้นยังติดภาพที่เราไม่ดีอยู่ ควรจะทำอย่างไรกับพวกเค้าได้บ้างคะ
3. เมื่อเราสำนึกผิด แต่เค้ายังว่าเราอยู่ เราควรจะตอบโต้หรือไม่ ถ้าตอบโต้ควรจะพูดอย่างไร ถ้าไม่ตอบโต้ ทำไมเราถึงต้องไม่ตอบโต้เขาคะ นมัสการขอบพระคุณค่ะ
ชื่อผู้ถาม
หยดน้ำ
วันที่เขียน
28 สิงหาคม พ.ศ. 2556 19:45:03
จำนวนคนเข้าดู
1461
คำตอบ
คำตอบที่ 1
กำหนดเวลาใช้งาน อย่าออนไลน์ตลอดเวลา โลกออนไลน์คือมายา ไม่ใช่ของจริง เอาเวลาที่จะออนไลน์นี้ไปทำงาน ไปใช้แรงงานทำงานบ้านดีกว่า ไปสมัครเป็นอาสาสมัครช่วยคนตามองค์กรต่าง ๆ ดีกว่า
อย่าไปติดภาพตัวเอง เราทำผิดก็ยอมรับผิด อย่าไปเพ้อกับกระแสออนไลน์ ไม่ว่าคุณจะ Post คุณต้องทำใจให้เป็นกลาง ใครจะ Like ไม่ Like ก็ช่างเขา การ Like ก็ไม่ต้องไปตื่นเต้นดีใจ การเฉย ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียใจ
พ่อแม่เรา เราต้องเคารพสูงสุด ไม่ว่าจะสถานการณ์ใดก็ตาม
อยากเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ อยากเข้าใจโลก เข้าใจชีวิตมากขึ้น อยากจัดการกับตัวเองได้ดี
ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันว่าง ให้ทิ้งโลกแล้วไปหาธรรมเสีย
ไปวัดนี้ ไปเจริญจิตภาวนาที่นี่ แล้วจะทำให้เราเข้าใจความเป็นจริงของชีวิต อะไรควรเสียเวลากับมัน อะไรไม่ควรเสียเวลากับมัน http://3pidok.com/main.php?url=news_view&id=8&cat=C
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 13:23:51
คำตอบที่ 2
ค่ะ รู้สึกดีขึ้นมากๆ ทำให้รู้สึกได้เลยว่าจริงอย่างที่ท่านพูด และจะลองนำกลับไปปรับปรุงตัวเองค่ะ ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
ชื่อผู้ตอบ
หยดน้ำ
วันที่เขียน
31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 12:56:44
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร