ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)
สามียังติดต่อกับเมียเก่า
รายละเอียด
ตอนนี้ฉันคบอยู่กับชายคนนึง แล้วเราก็แต่งงานกันแล้ว เขามีลูกมาแล้ว3คน สองคนแรกบรรลุนิติภาวะแล้วเหลือคนเล็กกำลังเรียนอยู่ป.4ตอนที่เค้ามาอยู่กับฉัน เขายังทำงานอยู่บ้านเมียเก่าของเขา เราทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยมาก เพราะเขายังต้องรับภาระ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้กับเมียเก่าเขาเหมือนเดิม ซึ่งฉันไม่พอใจ ฉันให้เขาย้ายออกมาเขาก็ไม่ย้าย อ้างแต่ว่าห่วงลูก บอกว่าถ้าไม่ย้ายเราก็เลิกกัน เขาก็ไม่เลิก ฉันควรจะทำไงดีค่ะ ตอนนี้ฉันแทบจะบ้าแล้วคะ รบกวรช่วยแนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณคะ
ความต้องการ
อยากให้สามีย้ายที่ทำงานใหม่
ชื่อผู้ถาม
กบจำศิล
วันที่เขียน
6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 09:37:18
จำนวนคนเข้าดู
2289
คำตอบ
คำตอบที่ 1
1 จริง ๆ ปัญหานี้ ไม่น่าเกิด หากตอนคบกัน ก่อนตกลงปลงใจได้คุยกันถึงเงื่อนไขการใช้ชีวิตร่วมกันไว้ก่อน เพราะต่างก็เป็นผู้ใหญ่ เขาก็มีภาระมีลูกจากเมียเก่าอยู่ด้วย มันต้องคุยกันอย่างละเอียดว่า จะอยู่อย่างไร จะกินอย่างไร ฯลฯ แต่นั่นมันก็ผ่านมาแล้ว กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว
2 แท้จริงแล้วก็ไม่ผิดอะไรนะที่เขาห่วงลูก และต้องให้เงินดูแลลูกของเขา เขารับผิดชอบลูกเขานั้นถูกแล้ว จะให้เขาทิ้งไม่สนใจใยดีลูก ๆ เลยนี่ มันก็กระไรอยู่ จะมีปัญหาสังคมตามมาอีกมาก
3 จุดสำคัญคือ เขาเลิกกับเมียเก่าจริงหรือเปล่า? ถ้าเลิกกันแล้วสองคนเขายังพูดคุยกันได้ ก็ถือว่าเป็นมิตรเป็นเพื่อนกันที่ต้องร่วมรับผิดชอบดูแลลูก ๆ ที่พวกเขาได้สร้างมา ก็เป็นสิ่งที่ดีนะ ไม่ใช่เลิกกันแล้ว มองกันเป็นศัตรูคู่อาฆาตหรือเข้าหน้ากันไม่ติด แบบนั้นแย่หน่อย
4 ถ้าเขาเลิกจริง เขาไม่ได้ไปหลับนอนกับเมียเขาแล้ว ก็น่าจะจบ เราก็ไม่น่าจะซีเรียสอะไร หรือกลัวว่า เขาจะกลับคืนไปเป็นสามีภรรยากันเหมือนเดิมอีก
ระหว่างคุณกับเขา การจะเลิกหรืออยู่ต่อ ต้องคิดให้ละเอียด จะมีผลกระทบอะไรบ้างทั้งกับเรากับเขา มันต้องดูเหตุผลของทั้งสองฝ่าย อะไรที่พอประนีประนอมกันได้ ก็ควรทำ คุณจะมีความสุขไหม ถ้าไม่มีเขา คุณอยู่ได้ไหม คุณจะทนอับอายได้ไหม ที่แต่งไม่นานเท่าไหร่แล้วเลิก
ลองคุยกันดู ไม่ต้องไปเครียดและซีเรียสอะไร ชีวิตคนเราไม่ได้อยู่ยืนยาวนานอะไร ไม่ถึง 100 ปีก็ต้องจากลากันไปหมด ระหว่างมีลมหายใจอยู่นี้ ทำอะไรก็ได้ที่ไม่เป็นบาปกรรม ไม่สร้างเวร ไม่สร้างศัตรู แต่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน คอยดูแลกันและกันให้มีความสุขมากกว่า
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 21:15:07
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร