ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

พ่อแม่ไม่ยอมรับว่าเป็นตุ๊ด
รายละเอียด
นมัสการนะคับหนูรุ้ตัวว่าตัวเองเป็นตั้งแต่อนุบาล3และหนุไม่เคยบอกพ่อแม่เลยในระหว่าง ป.1-4นั้นหนุก้เหมือนเด็กทั่วไป ร่าเริง หัวเราะ ตั้งใจเรียน รักพ่อแม่ จนวันนึง น้าซึ่งเป็นน้องแม่แท้เห็นหนูกำลังแบบแสดงพฤติกรรมว่าเบี่ยงเบนทางเพศนั้นซึ่งหนูไม่รุ้ตัวเลยและมีอยุ่วันนึงซึ่งน้าคนนั้นโทรศัพท์มาเล่าให้แม่ฟังพอแม่วางสายแม่มาถามกับหนูว่าหนูเป็นตุ้ดหรือเปล่าด้วยความที่หนูอยากบอกมานานนั้นหนูจึงบอกไปว่าเป็นและแม่ก้พูดเหมือนกับว่าให้หนูเปลี่ยนตัวเองได้ไหมซึ่งหนูกลัวพ่อแม่เสียใจถ้าเกิดตอบว่าไม่ได้หนูเลยต้องบอกไปว่าได้ซึ่งหนูไม่อยากโกหกเลยและก้มีหลายครั้งที่พ่อแม่หนูและพี่ๆมานั่งคุยกับหนูเรื่อฃนี้แม่เคยร้องไห้จนถึง มัธยม1นั้นแม่ก้มาถามแบบเด็ดขาดเลยว่า มึงจะเอายังไงกูเบื่อมึงมากเลย(ขออภัยด้วยที่ใช้ภาษาหยาบคาย)และบอกว่าจะตัดแม่ตัดลูกเลยถ้าเป็น แต่หนูไม่อยากโกหกอีกต่อไปหนูจึงว่าหนูจะเป็น และแม่หนูก้พูดว่า ถ้ามึงจะเป็นจริงๆกูจะไม่สนใจมึงเลย และคำนั้นแหล่ะ ทำให้หนูต้องยอมทำบาปและโกหกอีกครั้งคือหนูพึ่งอายุ12หนูยังคิดไม่ได้ว่าหนูจะทำอย่างไรดี จนหนูทนไม่ไหวคิดจะฆ่าตัวตายโดยการกดหัวตัวเองลงในอ่างน้ำแต่ระหว่างที่อยุ่ในอ่างน้ำนั้นภาพต่างๆก้ทำให้คิดถ้าหนูฆ่าตัวตายพ่อแม่พีีๆต้องเสียใจมากและมีอีกหลายคนที่ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือดีๆมีบ้านให้อยุ่สบายๆแต่กลับต้องไปทำงานตั้งแต่เด็กๆหนูคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองหลายครั้งแต่ก้ทำไม่ได้ตอนนี้หนูแถบจะร้องไห้ทุกรืนเรื่องที่หนูเกิดมาเป็นแบบนี้ทำให้พ่อแม่ร้องไห้เสียใจหนูขอความกรุณาแนะนำหนูด้วยนะคับ นมัสการคับ
ความต้องการ
อยากแก้ปัญหาเล่านี้น่ะคับอยากให้พ่อแม่ยอมรับและเค้าใจ
ชื่อผู้ถาม
ก.ไก่
วันที่เขียน
8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 20:15:39
จำนวนคนเข้าดู
3695

คำตอบ

คำตอบที่ 1
เราก็ต้องเห็นใจพ่อแม่เช่นกัน เชื่อว่าทุกคนนั้น เมื่อมีลูกก็อยากมีลูกที่เป็นผู้ชายแท้ ๆ เป็นหญิงก็หญิงแท้ ๆ มันยากจะทำใจยอมรับได้เหมือนกัน เมื่อลูกชายวัยน่ารัก เด็ก ๆ กำลังน่ารัก เพื่อนบ้านก็รู้กันว่า พ่อแม่ของเรามีลูกชาย แต่พอโตขึ้นหน่อยกลับอ่อนแอ้นจะเป็นผู้หญิง ทำไม จึงพ่อแม่จึงคิดว่า อยากให้ลูกเป็นชายแท้ ๆ หญิงแท้ ๆ ก็ลองสอบถามดู แต่ก็เป็นความจริงอีกด้านเช่นกัน ว่าคนยุคใหม่จำนวนไม่น้อย มีร่างกายเป็นเพศหนึ่งแต่ใจกลับเป็นอีกเพศหนึ่ง และก็มีจำนวนไม่น้อย ที่เปิดเผย คนที่เปิดเผยอาจน้อยกว่าที่ไม่ได้เปิดเผย การปกปิด มันก็ไม่แนบเนียนและจะออกอาการเก็บกดในตัวคนนั้น ๆ ไปเรื่อย ๆ ในทางพุทธนั้น ถือว่า เรื่องที่เกิดมาผิดเพศเป็นกรรมเก่าอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นกรรมชาติก่อน ๆ ที่เราไม่สามารถย้อนไปแก้ไขได้ ต้องยอมรับและพยายามทำตัวในชาตินี้ให้ดีกว่าเก่า ทางพระจึงไม่ให้คนผิดเพศบวชเป็นพระเลย คือเป็นตุ๊ดบวชพระไม่ได้ (แต่ก็ยังมีแอบบวชกันบ้าง) ในส่วนตัวน้องเอง ขอให้ยอมรับความจริงว่า เราเป็นแบบนี้ แต่เราก็เป็นเด็กดีได้ ตั้งใจเรียน รับผิดชอบ ช่วยเหลืองานบ้าน ช่วยเหลือพ่อแม่ทุกอย่าง ไม่เกเร เมื่อเราทำตัวดีแบบนี้ และดูจังหวะเวลาโอกาสดี ๆ ค่อยคุยกับพ่อแม่ เล่าให้พ่อแม่ฟังว่า 1. หนูรู้สึกอย่างไร ที่เป็นเพศชาย แต่ใจกลับเป็นอีกเพศหนึ่ง 2. เวลาต้องปิดปกความเป็นจริง มันอึดอัดอย่างไร 3. เวลาถูกเพื่อน ๆ ล้อ ว่า กระแหนะกระแหน หนูรู้สึกอย่างไร และจะทำตัวอย่างไร 4. หนูก็ควรมีคำแนะนำให้พ่อแม่เหมือนกันว่า หนูพยายามแล้ว พยายามแก้ไขแล้ว แต่มันก็ยังไม่รู้สึกว่าจะเป็นชายเต็มตัวได้ 5. ถ้าพ่อแม่อาย ขายหน้า หนูควรจะปลอบพ่อแม่ว่า หนูก็เป็นลูกของพ่อแม่นะ หนูไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ แต่มันเป็นของมันเอง เชื่อว่า พ่อแม่จะยอมรับความจริงนี้ได้สักวัน แต่หนูก็อย่าใช้อารมณ์ อย่าเจ้างอน เจ้าเคียดแค้น ไม่เอาแต่ใจตัวเอง หนูอาจต้องทนแบบนี้ไปก่อน จนจบ ม.6 เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย โตขนาดนั้น ค่อยแสดงออกในเพศที่ตนเองรู้สึกได้เต็มที่ เพราะถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ตัดสินใจอะไรได้แล้ว แต่จะหนูจะเป็นตุ๊ดอย่างไรก็ตาม การแสดงออกต่าง ๆ การพูดจาให้พยายามเป็นปกติ จะดีที่สุด อย่าโอเวอร์หรือหลุดโลกไปเลย แ
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
9 มิถุนายน พ.ศ. 2556 22:26:27
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร