หมายเหตุ สายด่วนชาวพุทธ

ทำแท้ง เอาเด็กออก ฆ่าชีวิตมนุษย์ เป็นบาปกรรมหนักที่จะติดตามตัวไปนานแสนนาน

พุทธศาสนาถือว่าชีวิตมนุษย์เริ่มต้นเมื่อน้ำเชื้อฝ่ายชายกับไข่ฝ่ายหญิงผสมกันและมีสัตว์(สัตว์ในที่นี้หมายถึงสภาพชีวิต เช่น คน เทวดา ชาวนรก เปรต) มาเกิดร่วม  ในห้วงวินาทีนั้น เซลล์ชีวิตใหม่จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ณ จุดนี้ถือว่าเป็นชีวิตมนุษย์แล้ว แม้จะมีขนาดเล็ก ๆ เล็กยิ่งกว่าหยดน้ำที่ติดเส้นผมเรา เขาเป็นชีวิตใหม่แล้ว รอให้เขาเจริญเติบโต ก็จะมีอวัยวะ แขน ขา ฯลฯ และเป็นคนต่อไป

การได้เกิดเป็นมนุษย์ของคน ๆ หนึ่งนั้นถือว่า เด็กคนนั้น มีบุญมากทีเดียว คือได้สร้างกุศลความดีมามายมายในอดีต เพราะการได้เกิดเป็นคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และหากชายหญิงอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ มีการหลับนอนด้วยกัน เชื้อดี ไข่ดี เด็กก็เกิดขึ้นมา นี่เป็นธรรมชาติธรรมดาที่ควรภูมิใจ

การทำให้ชีวิตหนึ่งหมดโอกาสเจริญเติบโต หมดลมหายใจ ทำให้เขาไม่เจริญเติบโตต่อไปได้ จะด้วยวิธีใด ๆ ก็ตาม เขาเรียกสิ่งนี้ว่า "ฆ่าชีวิต" ผิดศีลข้อที่ 1 คือปาณาติบาตชัดเจน

การฆ่าคนนั้น บาปหนัก เพราะสภาพร่างกายแบบมนุษย์มีศักยภาพที่จะพัฒนาตนเองไปเป็นอริยบุคคล (คือโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์) ได้ทุกคน ถ้าเราให้เขาเกิดมา เลี้ยงดูให้เขาเจริญเติบโตขึ้น เขาอาจเป็นคนที่คิดค้น ประดิษฐ์ สร้างสรรค์สิ่งดีงามมากมายให้โลกมนุษย์ก็ได้ การพยายามไปหยุดเขา ทำให้เขาไม่เจริญเติบโต จึงเท่ากับว่า เราได้ทำบาปหนัก ขวางกั้นโอกาสในการเจริญเติบโตและสร้างสรรค์ของเขาและของโลกไปด้วย

อยากทำแท้ง
จงรีบยุติความคิดที่จะเอาเด็กออกจากครรถ์ ตรงกันข้าม จงดีใจ จงภาคภูมิใจสูงสุดที่มีลูก นี่เป็นพรจากสรรค์ จงตั้งใจที่จะหาวิธีเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด จนสุดความสามารถ อย่าไปตั้งแง่รังเกียจเขาตั้งแต่เขายังไม่คลอดออกมาเลย

ชายกับหญิงมีส่วนทำให้เด็กเกิดก็จริง  แต่ไม่ใช่เจ้าของชีวิตเขา ที่จะฆ่าทิ้งเขาเมื่อใดก็ได้ เขาเป็นสมบัติของโลก เขาเป็นความงดงามของธรรมชาติ ไม่มีใครมีสิทธิทำลายเขาแม้กระทั่งตัวเขาเองก็ไม่มีสิทธิจะฆ่าตัวเอง

มนุษย์ทุกคนล้วนมีความทุกข์ยากลำบาก (ที่แตกต่างกัน) มีจุดวิกฤตเดือดร้อนกันแทบทั้งนั้น หากกำลังเผชิญปัญหาวิกฤตร้ายแรงในชีวิตใด ๆ ก็ตาม จงใช้สติและปัญญาให้เต็มที่ อย่ายอมแพ้  อย่าไปทำลายชีวิตใครแม้กระทั่งชีวิตตัวเอง เมื่อเราพยายามทำอย่างถูกวิธี ถูกเวลา ถูกบุคคล ถูกสถานที่ เราจะสามารถผ่านพ้นปัญหาที่เผชิญอยู่ไปได้อย่างแน่นอน

ถ้าแก่ตัว เห็นแก่ได้  คิดเอาตัวรอดแบบง่ายๆ  คิดหนีหน้าคนอื่น หนีความละอาย หนีความจริง แล้วไปทำลายอีกชีวิตหนึ่งทิ้ง มั่นใจหรือว่าชีวิตเราจะสดใสยาวนาน ชีวิตคนที่ทำบาปกรรมหนักจะไปได้ไม่ไกล เงินทองที่หามา ก็จะหมดหายไปอย่างรวดเร็ว  ทรัพย์สินเสียหาย มิตรภาพหดหาย มีครอบครัวก็ล้มเหลวซ้ำซาก นอนไม่หลับ ไม่มีความสุข นั่นเป็นเพราะผลบาปกรรมที่ได้ทำไว้ บาปกรรมนี้ล้ำลึกมาก บางอย่างเห็นได้ง่าย บางอย่างอาจไม่เห็นในเร็ววัน แต่วันหน้าเมื่อผลกรรมนี้มาปรากฎขึ้น เราจะกระจ่างแจ้งเอง

อย่ายอมให้ชีวิตต้องผิดพลาด
อดได้ จนได้ ไม่มีกินก็ไม่เป็นไร หาหนทางใหม่ ยอมอายได้ ยอมให้คนตราหน้า ยอมให้เขานินทาได้ว่า เราจน เราไม่มี เราขาดแคลน เรายากไร้ แต่จงอย่ายอมไปทำสิ่งที่ผิดพลาดคือการฆ่าชีวิตมนุษย์ อย่าคิดเอาตัวรอดคนเดียว เพราะมันรอดได้ไม่จริง  เราอาจรวยน้อยก็ได้ รวยช้าก็ได้ หรือไม่รวยก็ได้ แต่จะต้องมีจิตที่มั่นคงว่า เราจะไม่ทำลายชีวิตใคร ๆ นี่แหละคือ ความเป็นมนุษย์ที่แท้ ที่ทำให้เราเหนือกว่าสัตว์เดรัจฉานทั่วไป


การแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตนั้น บางครั้งเราต้องยอมรับว่า วิธีแก้ปัญหาบางวิธีมันอาจไม่ตรงกับที่เราต้องการคือไม่ถูกใจเรา แต่มันแก้ปัญหาได้ มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องและตรงกับหลักศีลธรรม และเมื่อแก้ปัญหาถูกต้องตามหลักศีลธรรมแล้วจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใหม่ตามมาซ้ำได้อีก ถ้าเราคิดแต่จะเอาแบบที่เราต้องการ หรือเอาแบบที่ถูกใจเรา มันก็อาจแก้ปัญหาไม่ได้จริง เพราะความถูกใจของเราบางทีมันเป็นสิ่งที่ผิดศีลผิดธรรมหรือผิดกฎหมายนั่นเอง

จงเข้มแข็ง อย่าให้ความมักง่าย อย่าให้ความคิดเอาตัวรอดไปวัน ๆ  อย่าให้ความอยากรวยไว ๆ  อย่าให้ความอยากได้อยากมีเร็ว ๆ  อยากให้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน มาทำให้เราต้องอ่อนแอและไปทำผิดพลาดด้วยทำบาปหนักคือการฆ่าชีวิตคนอื่น ซึ่งบาปนี้จะตามติดไปยาวนานจนยากที่จะนอนหลับอย่างมีความสุขไปตลอดกาลในระยะยาวไม่รู้กี่แสนล้านปี เกิดมาเมื่อใดก็จะได้รับผลบาปนี้อยู่เช่นนั้น


หมั่นไปวัด หมั่นไปฝึกเจริญมหาสติปัฏฐานภาวนา เปลี่ยนวิธีคิด วิธีมองชีวิต วิธีมองโลก ดำเนินชีวิตใหม่ไปตามเส้นทางแห่งพระธรรม เมตตา กรุณา มุทิตาต่อชีวิตคนอื่น นั่นแหละจะเป็นหนทางที่เป็นสุขแท้และยั่งยืนของชีวิตเราเองและสังคมส่วนรวม

หากมืดบอด สิ้นหวัง หมดหนทาง ไร้ทางออก ให้รีบปลูกสติให้ตัวเอง ชีวิตมีความหวังเสมอ รีบหันหน้าเข้าหาธรรมะ ลองสละเวลาสัก 4-10 วันไปศึกษาและเจริญภาวนาเพื่อดำเนินชีวิตตามเส้นทางธรรม ณ ที่ตรงนี้เลยก็ได้  วัดภัททันตะอาสภาราม อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี  
http://www.bhaddanta.com

เขียนโดย : สายด่วนชาวพุทธ
เขียนเมื่อ : 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556
อ่าน : 2782