ปรึกษาแนวทางการดำเนินชีวิต ทางธรรมและทางโลก

รายละเอียด

ปรึกษาแนวทางการดำเนินชีวิต ทางธรรมและทางโลก - เนื่องจาก ผมปฏิบัตธรรมจนรู้สึกว่า ตนไม่มีความต้องการสิ่งต่างทางโลกแต่อย่างไง เพราะเข้าใจว่าไม่มีอะไรเป็นของเราจริง สมบัติที่มีจะปล่อยว่างไม่ยึดติดไม่หาเพิ่มเติม ได้มาก็ต้องเสียไป เคยพูดธรรมมะให้แม่ฟังในข้อนี้ ว่าไม่มีอะไรเป็นของเรา อย่าไปยึดมั่นเป็นเรา - แม่โกรธมาก หาว่าเราไม่รักเค้า ไม่คิดห่วงเค้า ไม่สนใจเค้า แม่บอกว่าห้ามตายก่อนแม่ตาย เพราะกลัวไม่มีคนเลี้ยงดู ผมทำหน้าที่โดยส่งเงินให้แม่ทุกเดือน ผมโชคดีมากที่ไม่มีลูก - ผมงงและสับสนว่าเพราะตอนผมคิดถึงความตายทุกลมหายใจ ผมจะคิดว่าตัวเองตายแบบปล่อยว่างไม่มีอะไรผูกพันธ์ ยึดเราไว้ได้ - ผมคิดแบบนี้ถูกต้องแล้วใช่ไหมครับ ทุกลมหายใจเราจะต้องไม่คิดถึงใคร ไม่ห่วงใคร ไม่สนใจใคร ไม่สนใจสังคม ไม่สนใจการงาน ไม่ต้องคิดถึงแม่และพ่อ ไม่สนใจพี่ ไม่สนใจภรรยา ไม่สนใจธรรมะ ไม่สนใจศาสนา ไม่สนใจหมา ไม่สนใจทรัพย์สินที่มี ไม่สนใจรถยนต์ ไม่สนใจเงินทอง ทำภาวนาดูลมหายใจทุกเวลาเตรียมพร้อมสู่ความตายทุกลมหายใจแบบปล่อยว่างทุกๆอย่าง

ความต้องการ

สอบถาม ผมเข้าใจพุทธศาสนาแบบนี้และดำเนินชีวิตแบบนี้ถูกต้อง หรือเปล่า ครับ

ชื่อผู้ถาม

วี

วันที่เขียน

6 สิงหาคม พ.ศ. 2561 18:25:41

จำนวนคนเข้าดู

683

คำตอบที่ 1

มีทั้งส่วนที่ถูก และไม่ถูก การเข้าใจธรรมะและศาสนานั้น ไม่ได้หมายถึงว่า เราทิ้งทุกอย่างแบบไม่รับผิดชอบอะไรเลย แบบนั้น ไม่ใช่ ผิดมากเลย เมื่อเรามีภาระ มีหน้าที่ต้องดูแลเลี้ยงดูพ่อแม่ เราก็ต้องทำ และต้องทำให้สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่ว่า ให้เงินทุกเดือน คือการทำหน้าที่แล้ว ไม่ใช่ ถ้าเราเข้าใจธรรมะ เราต้องไม่ทิ้งหน้าที่ของเรา เมื่อเราปฏิบัติธรรม เราก็ต้องจัดการชีวิตและครอบครัวให้ลงตัว จนทุกคนทุกฝ่ายเขาไม่เดือดร้อนอะไรแล้ว เราจะลาไปบวช นั่นเป็นอีกกรณีหนึ่ง คนปฏิบัติธรรม นึกถึงครอบครัวและคนรอบข้างได้ เราช่วยดูแลเขาได้ ไม่ใช่ไม่คิดถึง ไม่ห่วงใยอะไรใครเลย แบบนั้น เราจะเป็นก้อนหิน เม็ดทราย หรือเป็นคนที่ตายแล้ว ไม่มีชีวิต แบนี้ เราไม่ใช่คนแล้ว พระพุทธเจ้า ยังต้องเสด็จไปมาเพื่อสั่งสอนคนมากมาย เพราะอะไร เพราะพระองค์ทำหน้าที่ คนที่เจริญมรณานุสติกรรมฐาน จะยิ่งสนใจทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่เต็มเปี่ยม เพราะสำนึกเสมอว่า ชีวิตคนสั้น ไม่ยาวนาน ดังนั้น จึงคิดว่า ทำอย่างไร จึงจะใช้ชีวิตตัวเองให้เป็นประโยชน์สำหรับคนต่าง ๆ มากที่สุด รีบปรับเปลี่ยนและศึกษาธรรมะให้ถูกต้อง ก่อนจะออกนอกทางไปไกล ดูตรงนี้ประกอบ https://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=316

ชื่อผู้ตอบ

อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99

วันที่เขียน

6 สิงหาคม พ.ศ. 2561 23:47:29

คำตอบที่ 2

ลองอ่าน ฟัง และปฏิบัติตามนี้ให้ครบวงจร https://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143

ชื่อผู้ตอบ

อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99

วันที่เขียน

6 สิงหาคม พ.ศ. 2561 23:48:08

คำตอบที่ 3

ชีวิตของเรา ไม่ว่าจะด้านดีหรือไม่ดี ก็เป็นบทเรียนให้คนอื่นได้ ชีวิตคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นด้านดีหรือด้านไม่ดี ก็เป็นบทเรียนให้เราได้ มันอยู่ที่ว่า เรารู้จักมองไหม เขาคนนั้นรู้จักมองไหม ตา มองให้เห็นจริง หู ฟังให้ได้ยินจริง ร่างกายสัมผัส ให้รู้จริง ๆ ธรรมะมีอยู่ทุกที่ ทุกลมหายใจเข้าออกของคนเรา ธรรมะ เป็นของฟรี ไม่ต้องซื้อ ขายให้กันไม่ได้ แค่เราใช้จิตของเราลงทุน ตั้งใจ ฝึกหัดและสร้างมันขึ้นมาในจิตของเรา คนอื่นยกธรรมะให้เราไม่ได้ ไม่มีใครสร้างธรรมะให้ใครได้ เราต้องฝึกเองทำเอง เหล่านี้คือธรรมะ สติ รู้ตัวจริงทุกขณะ ทุกอิริยาบถ สมาธิ ตั้งมั่นจริง ปัญญา รู้จริง วิริยะ ลุยทำจริง ขันติ อดทนได้จริง เมตตา รักชีวิตอื่นจริง กรุณา ช่วยเหลือชีวิตอื่นจริง มุทิตา ชื่นชมชีวิตอื่นจริง อุเบกขา ยึดหลักเที่ยงธรรมได้จริง แต่ละวัน ฝึกจิตตัวเอง ให้มั่นคง คล่องแคล่ว ว่องใจ แจ่มใสในธรรมะ ฝึกจิตให้เป็นอิสระ ไม่ให้จิตเป็นทาสของสิ่งเหล่านี้ " ความเหงา เศร้า ว้าเหว้ ซึม ท้อแท้ เสียใจ น้อยใจ เครียด แค้น เคือง จองเวร ผูกเวร คับแค้น โกรธ หงุดหงิด โมโห เก็บกด อิจฉา ริษยา เพ้อ ร้องไห้ คร่ำครวญ อยากตาย ไม่อยากอยู่ วิตก ฟุ้งซ่าน เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ มักมาก หลงติด เสพติด ยึดติด ถือตัว กระด้าง เกียจคร้าน มักง่าย ติดสบาย สำออย สำอาง" Print เอกสารนี้ แล้วอ่านทุกวัน ฝึกทุกวันทุกเช้าเย็น ทำต่อเนื่องไป 9 เดือนเป็นอย่างน้อย นี่คือวิธีการปรับเปลี่ยนระบบความคิดและพฤติกรรมของตนเอง ไปสู่ความก้าวหน้าและความสุขสูงสุดในชีวิต ดาวน์โหลด https://www.buddhisthotline.com/download/buddhisthotline-lifeway.pdf

ชื่อผู้ตอบ

อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99

วันที่เขียน

6 สิงหาคม พ.ศ. 2561 23:48:25