ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

จิตใจที่มีเเต่ความอยาก
รายละเอียด
สภาพล้อมที่เเถวบ้านจะใกล้เพื่อนใกล้คนรุ้จักกันในทางที่ไม่ดี สถานะภาพผมคืออาศัยอยุ่กับญาติ หนึ่งปีเเลกผมสามารถปรับปรุงตัวใหม่ได้อย่างที่มีจิตใจที่มีกำลัง ตัดขาดจากกลุ่มเพื่อนรึคนรุ้จักปฎิเสธ เเต่พอปีที่2 ก็กลับมาคบมาคุยกับเพื่อนๆเเละก็ติดสนุกไปจนนิสัย บุคลิคกระภาพเปลี่ยนเป็นคนล่ะคน เเละนี้เป็นสาเหตุนำมาให้ผมผิดศีลข้อ2 เเละตามมาอีกหลายข้อเเต่ข้อ1ทำได้ครับ เลยทำให้ญาติๆผิดหวังในตัวผมมากๆเลย เสียเงิน,เสียทอง,เสียงาน,เสียความรุ้สึก,หลังๆมาทำงานอะไรก็มีเเต่ง่วงๆ สมาธิสั้น เเละงานก้ออันเป็นไม่เรียบร้อย,พอผมง่วงจิตใจผมเหมือนมี2ตัว ตัวที่1จะคอยยุให้ผมทำตามทุกอย่างเพื่อให้ได้คาดหวังว่าจะได้ ตัวที่2 กลับคอยให้ทางออก รึความรุ้สึกนึกคิดที่ให้อยู่กับปัจจุบันต่อสู้กับอารมณ์ เเต่เเล้วในที่สุดผมก็กลับไปเชื่อ มารตัวที่1 เเละก็ทำให้ผมเป็นทุกข์มากๆเรื่อย เเละการต่อสู้กับจิตใจตัวเองเเต่ล่ะครั้งก็จะยากลำบากมากๆครับมาเเบบหนักๆทื้อๆ พยามจะเข้าใจมันน่ะครับ เเต่จิตใจผมเเพ้ทางมันตลอดเลยครับ เเละตอนนี้ญาติผมก็รับสภาพในตัวผมไม่ได้ล่ะครับ ผมสำนึกผิด,สับสน,วุ่นวายจิตใจมากครับ หาทางออกไม่ได้เลยครับถ้าไม่มีครอบครัวผมต้องไปอยู่ในสภาพที่จะทำให้ตัวเองดีกว่านี้อีกไม่ได้ล่ะครับ
ความต้องการ
จะทันไหมครับที่จะให้คนรอบข้างเห็นว่าเราปรับปรุงตัวเองใหม่ คือผมชอบคิดไปเองว่าคนอื่นมองเราด้วยสายตาว่าคนขยะสังคม เเละผมจะชนะความอยากเเละนิวรณ์ได้ไหมครับมีวิธีใดบ้างครับ
ชื่อผู้ถาม
ฟ้าหลังฝน เขาว่าสดใส
วันที่เขียน
24 มิถุนายน พ.ศ. 2560 12:09:48
จำนวนคนเข้าดู
822

คำตอบ

คำตอบที่ 1
การที่เรารู้ตัว และ คิดได้แบบนี้ ถือว่า โอเคอยู่ ไม่สายหรอก แต่ต้องรีบปรับปรุงตัวเอง รีบนำความสำเร็จมาสู่ชีวิตตัวเอง และทำให้ญาติ ๆ เห็นว่าเราก็เก่ง มีฝีมือ  มีความสามารถเช่นกัน ไม่ใช่เป็นคนเละเทะ ไม่เอาไหน ไร้อนาคตอย่างที่เขามอง

แต่ก็ไม่แน่ ถ้าประมาท ช้ากว่านี้ อาจถูกเพื่อน ๆ ชักชวนไปทำสิ่งเสียหายมาก ๆ อาจไปตื่นตัวสำนึกตัวในคุกก็ได้ ต้องระวังที่สุด

วิธีการที่แนะนำคือ

1. ออกจากที่ตรงนั้นชั่วคราว ไปเริ่มต้นเปลี่ยนตัวเองใหม่ ณ สถานที่ที่สัปปายะ เหมาะสม เช่น วัดนี้ ไปสัก 4-7 วัน ถือศีล ฝึกเจริญสติภาวนา  ไปวันไหนก็ได้ วัดเปิดรับตลอดเวลา (ฟรี)
https://www.watbhaddanta.com/

2. ฟังธรรมะตรงนี้ทุก ๆ วัน วันละ 30-50 นาที ทำให้เป็นกิจวัตร เตือนตัวเอง วันไหน ไม่ได้ฟังธรรม จะไม่กินข้าว
http://buddhisthotline.com/index.php?page=news7all

3. คุยกับเพื่อน ๆ ได้ แต่เราต้องเข้มแข็ง ไม่วิ่งไปทำตามเขาทุกเรื่องทุกอย่าง ต้องมีขอบเขต อย่าให้ใครชักจูงเราได้ เราต้องชักจูงเพื่อนไปในทางที่ดี ๆ ได้ หรือถ้าชักจูงเขาไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเขา

4. ฝึกจิตตัวเองให้สงบ มั่นคง เข้มแข็งตามนี้ แล้วจะทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews5&newsid=306

ดูตรงนี้ประกอบ
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews5&newsid=291

และตรงนี้
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews5&newsid=286

และตรงนี้
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews5&newsid=283

และตรงนี้
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews5&newsid=276

และตรงนี้
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=273








 
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
24 มิถุนายน พ.ศ. 2560 15:32:58
คำตอบที่ 2
ดูตรงนี้ประกอบด้วย
http://buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=206
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
24 มิถุนายน พ.ศ. 2560 15:33:58
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร